ไทยวิวัฒน์ ตั้งเป้าเบี้ยหมื่นล้าน จับมือพันธมิตรเปิดตัว “เอไอ” ใช้ตรวจสภาพรถ

ไทยวิวัฒน์

ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ตั้งเป้าเบี้ย 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 ปีนี้จับมือพันธมิตรเปิดตัวแอปฯ MARS Inspect ใช้เอไอตรวจสภาพรถรายแรก ด้าน “ซีอีโอ” มองตลาดประกันรถโตตาม GDP แต่แข่งขันราคาสูง ความเสี่ยง “ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ” กดดันต้นทุนลูกค้าเพิ่ม

วันที่ 16 มีนาคม 2565 นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ (TVI) กล่าวว่า ในปี 2565 คาดว่าภาพรวมตลาดประกันภัยจะโตได้อีกมากจากอัตราผู้ถือครองกรมธรรม์อยู่ในระดับต่ำ โดยตลาดประกันในไทยมีศักยภาพที่ค่อนข้างโดดเด่นสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ฉะนั้นหากปีนี้ทิศทางเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวโตได้ เชื่อว่าตลาดประกันภัยของไทยจะโตตาม ซึ่งปัจจุบันผู้ลงทุนยังคงให้ความสนใจตลาดประกันไทยอยู่ค่อนข้างมาก

โดยตลาดประกันภัยรถยนต์ซึ่งเป็นสัดส่วนใหญ่ของตลาดจะโตสอดคล้องไปกับทิศทางตลาดรถยนต์ใหม่ ที่จะฟื้นตัวขึ้นจากการผลิตรถใหม่ออกสู่ตลาดได้มากขึ้น หลังแก้ไขปัญหาชิปขาดแคลนในตลาดโลกได้เรียบร้อย

แต่ภาคธุรกิจอาจเผชิญความเสี่ยงจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อรถใหม่ผ่านช่องทางเช่าซื้อ-ลีสซิ่ง ซึ่งในภาวะอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงปลายปี 65 อาจส่งผลให้ต้นทุนของลูกค้าแพงขึ้นตามไปด้วย

ประกันรถแข่งราคาแรง

นอกจากนี้การแข่งขันด้านราคาที่ยังคงรุนแรงอยู่พอสมควร แต่อาจอยู่ภายใต้กรอบการวิเคราะห์ต้นทุนของแต่ละบริษัทฯ ทำให้การแข่งขันทุกบริษัทจะต้องพยายามหาเครื่องมือการให้บริการที่แตกต่างมาตอบสนองลูกค้าเพื่อให้ผู้บริโภคเลือกเป็นลูกค้า และบริษัทต้องการแย่งชิงเพิ่มส่วนแบ่งตลาดที่มากขึ้น

นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ TVI กล่าวว่า ปีนี้บริษัทได้นำเทคโนโลยีเอไอ มายกระดับประสบการณ์ด้านประกันภัยของคนไทยให้ก้าวสู่ Next Normal เติมเต็มประสบการณ์แบบไร้รอยต่อได้อย่างลงตัว โดยการเปิดตัว “MARS” (Motor AI Recognition Solution) Deep Tech Startup ที่มาพร้อมโซลูชันแรก “MARS Inspect” หรือแอปพลิเคชั่นซึ่งใช้ตรวจสภาพรถยนต์แบบเรียลไทม์ที่มีความแม่นยำ สะดวกรวดเร็ว

โดยผู้บริโภคสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองเพียงปลายนิ้วสัมผัส เพิ่มความปลอดภัยตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน หมดปัญหาความผิดพลาดที่เกิดจากบุคคล (Human Error) และช่วยให้การทำประกันภัยรวดเร็วขึ้นถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับการทำประกันภัยในรูปแบบปกติ

ไทยวิวัฒน์ ตั้งเป้าเบี้ยหมื่นล้าน

นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นอีกจิ๊กซอว์สำคัญช่วยขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งผลักดันเบี้ยรับรวมของบริษัทแตะระดับ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2567

ปัจจุบันประกันรถเปิดปิด นับเป็น InsurTech Solution แรกของโลก ที่ลดค่าเบี้ยประกันภัยได้สูงถึง 70% ผู้ใช้รถยนต์สามารถ Top-up เติมชั่วโมงการใช้งานตามต้องการ ภายใต้เบี้ยประกันภัยที่เข้าถึงได้ ปัจจุบันมีลูกค้าจำนวน 2 แสนกรมธรรม์ ซึ่งเป็นอัตราการโตสูงสดในตลาดประกันภัยรถ โดยคาดว่าปี 65 จะเติบโตเป็นสองหลัก

ทั้งนี้เมื่อปี 64 บริษัทได้ต่อยอดสู่ “ประกันรถเปิดปิด Home Plus” ประกันภัยแรกของไทยที่ให้ความคุ้มครองทั้งรถและบ้านในแผนเดียวกัน และล่าสุดปี 65 ได้เพิ่มความคุ้มครองสัตว์เลี้ยงสูงสุด 2 ตัว ที่ร่วมเดินทางสูงสุด 10,000 บาท ซึ่งนับเป็นการแก้ Pain Point ได้อย่างตรงจุด และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างลงตัว

ภายใต้การนำเทคโนโลยีสุดล้ำเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ไร้รอยต่อ (Seamless Experience) อย่างสมบูรณ์แบบ ส่งผลให้บริษัทเติบโตก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง เบี้ยรับรวมเติบโตถึง 2 เท่าในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และล่าสุดในปี 2564 กำไรสุทธิเติบโตเกือบ 500% สูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมกว่า 3 เท่า

สำหรับลูกค้าที่สนใจทำประกันภัยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MARS Inspect ซึ่งรองรับทั้งระบบ Android และ iOS เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการตรวจสภาพรถยนต์ด้วยตนเองได้แล้ววันนี้ และประกันภัยไทยวิวัฒน์ยังได้มอบสิทธิพิเศษ ให้กับผู้ที่สนใจเปลี่ยนมาใช้ประกันรถเปิดปิด กับแคมเปญใหญ่ Move มารับโปรโมชั่นรับส่วนลดค่าเบี้ย 50% สูงสุดถึง 1,000 บาท

สำหรับผู้สมัครใช้งานประกันรถเปิดปิด แบบ Package 4 เดือนขึ้นไป หรือประกันรถเปิดปิด แบบ Top-up หรือ ประกันรถเปิดปิด Home Plus ทุกแผนความคุ้มครอง ที่ซื้อผ่านช่องทาง Call Center 02-200-7000 หรือ www.thaivivat.co.th ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม – 30 เมษายน 2565

ดึง “เอไอ” ใช้ตรวจสภาพรถ

ดร.เฉลิมพล สายประเสริฐ Co-Founder บริษัท Motor AI Recognition Solution จำกัด (MARS) กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของ MARS ว่า แอปฯ “MARS Inspect” ฟีเจอร์แรกคือตรวจสภาพรถด้วยเทคโนโลยี AI สุดยอดความแฟร์ โปร่งใส ถูกต้องและแม่นยำ ลดปัญหา Human Error โดยได้มีการนำเอา Convolutional Neural Network (CNN)

โมเดลวิเคราะห์ภาพที่ดีที่สุดมาใช้สำหรับตรวจสภาพรถ ภายใต้การออกแบบกระบวนการคิดของ AI ให้เป็นไปตามวิธีการตรวจสภาพรถของมนุษย์มากที่สุด และใช้ฐานข้อมูลจริงที่ประกอบไปด้วยจำนวนภาพชิ้นส่วนของรถมากกว่า 100 ชิ้นส่วน และภาพตรวจสภาพรถกว่า 100,000 ภาพ ที่ได้มาจากเคสการพิจารณาการเคลมประกันรถจริงจากประกันภัยไทยวิวัฒน์

จึงส่งผลให้การระบุชิ้นส่วน และสภาพรถมีความถูกต้องและแม่นยำสูงกว่า 90% อีกทั้งยังได้นำ AI มาช่วยวิเคราะห์คุณภาพของภาพที่ถ่ายแบบเรียลไทม์ เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นขณะถ่ายภาพ

นายชัยเศรษฐ์ สังขมณีนาคร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Motor AI Recognition Solution จำกัด (MARS) กล่าวว่า MARS เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวบริการการตรวจสภาพรถยนต์ที่ง่าย และรวดเร็วที่สุด สามารถตรวจได้ด้วยตัวเอง พร้อมผลการวิเคราะห์ที่ชัดเจน

แต่คาดภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 จะมีโซลูชันใหม่ออกมาเพิ่มเติม เพื่อสร้างประสบการณ์ชั้นยอดให้กับผู้บริโภคและพลิกโฉมอุตสาหกรรมประกันภัยไทยไปอีกขั้น ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็น Deep Tech Company ระดับแนวหน้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดย MARS ได้เสริมประสิทธิภาพการพัฒนาโซลูชัน AI ด้วยบริการ Amazon SageMaker จาก Amazon Web Services (Thailand) หรือ AWS ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยให้สามารถสร้าง เทรน และนำโมเดลแมชชีนเลิร์นนิ่งมาใช้ได้อย่างสะดวก ง่ายดายมากขึ้น ภายใต้ระยะเวลาอันรวดเร็ว

โดยสามารถลดระยะเวลาการเทรนโมเดลได้กว่า 80% หรือจากใช้เวลา 1 เดือนเหลือเพียง 6 วัน ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มมากขึ้นถึง 20% ซึ่งทำให้ทีมงานสามารถมีเวลามากขึ้นในการสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าและผู้ใช้งาน

นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท Amazon Web Services (Thailand) จำกัด (AWS) กล่าวว่า ประกันภัยไทยวิวัฒน์มีความโดดเด่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมประกันภัยไทยมาโดยตลอด นับตั้งแต่ประกันรถเปิดปิด ที่เชื่อมต่อด้วย TVI Connect อุปกรณ์เปิด-ปิดประกันอัตโนมัติ

พัฒนาโดยใช้ IoT ที่คิดค้นออกแบบเอง และการเปิดตัว MARS นี้นับเป็นอีกครั้งของการสร้างมิติใหม่ให้กับวงการ ซึ่งที่ผ่านมา AWS ได้ร่วมเป็นพันธมิตรในการดูแลระบบเบื้องต้น โดยใช้ผู้ให้บริการ Cloud ระดับโลกที่มีการการันตี uptime 99.99% และนอกจากนี้ AWS ยังมีระบบ Ecosystem ที่เหมาะกับการพัฒนา AI และ Machine Learning (ML) ใหม่ๆ

ทั้งเรื่องของ service ที่ dedicate สำหรับ AI Modeling และการที่มีทรัพยากรที่เหมาะกับการรัน Model จึงมั่นใจได้ถึงเสถียรภาพของบริการ

ทั้งนี้ ประกันภัยไทยวิวัฒน์ยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยการพัฒนาและทดสอบว่าประกันรถเปิดปิด สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้รถคนไทยด้วยการสร้างประโยชน์ให้กับผู้บริโภคจริง ทำให้คนหันมาทำประกันรถยนต์ จากค่าเบี้ยที่ลดลงเป็นจำนวนมาก

โดยครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ทั้งประกัน ชั้น 1 ชั้น2+ และ ชั้น 3+ และที่สำคัญยังมั่นใจว่าผู้ใช้รถคนไทยโดยทั่วไปเหมาะกับแผนประกันรถเปิดปิด เพราะหากผู้บริโภคใช้รถ เฉลี่ยน้อยกว่าวันละ 4 ชั่วโมง จะสามารถลดค่าเบี้ยที่ต้องจ่ายอยู่สูงสุดถึง 70% ซึ่งจากข้อมูล สถิติคนไทยกว่า 90% ใช้รถน้อยกว่าวันละ 3 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังได้ทดสอบว่านวัตกรรมใหม่นี้ใช้งานได้จริง เพราะแม้จะมีการเปิดปิดเพื่อคิดค่าเบี้ยตามการใช้งานรถ แต่ผู้เอาประกันก็ยังได้รับความคุ้มครองครบตลอด 24 ชั่วโมง ตามแผนประกันที่เลือกซื้อ และที่สำคัญยังมีการบริการแจ้งอุบัติเหตุฉุกเฉิน ที่สะดวก และรวดเร็วผ่านทางแอปพลิเคชัน Thaivivat

ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมการทำประกันรถเปิดปิดไทยวิวัฒน์ และสัมผัสประสบการณ์ การตรวจสภาพรถผ่านแอปพลิเคชัน MARS Inspect แบบเรียลไทม์ด้วยตนเอง ได้ทาง www.thaivivat.co.th หรือโทร 02-200-7000