มี.ค.มูลค่าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลพุ่งแตะ 1.31 แสนล้านบาท

สินทรัพย์ดิจิทัล

สำนักงาน ก.ล.ต.เผยข้อมูลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลรายสัปดาห์ ( 4 เม.ย.2565) เผยปัจจุบันมูลค่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซื้อขายต่อวัน 10.2 หมื่นล้านดอลลาร์ 

พบว่าแนวโน้มการซื้อขายในเดือน มี.ค.2565 อยู่ที่ 1.31 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับเดือนม.ค.2565  และจำนวนบัญชีที่มีการเคลื่อนไหว(Active) ของบุคคลธรรมดาในประเทศ เดือน มี.ค.2565 ลดลงประมาณ 35% จากเดือนก.พ.2565

วันที่ 9 เมษายน 2565  สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยว่า  ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกมีมูลค่าตาม Market cap. หรือ มูลค่าตามราคาตลาด อยู่ที่ประมาณ 2.1  ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีมูลค่าการซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ 10.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน

โดยสินทรัพย์ดิจิทัลดิจิทัลที่มี Market Cap. สูงสุดนำโดยบิตคอยน์ (Bitcoin) 40.97% บีเอ็นบี (BNB) 19.55% ด้านธีเทอร์ (Tether) อยู่ที่ 3.88% USD Coin 3.43% ขณะที่อีเทอเรียม (Ethereum) มี Market ลดลงเหลือ 1.86% (ข้อมูล ณ 4 เม.ย. 2565)


ในปี 2565 มูลค่าซื้อขายสะสมแยกตามประเภทสินทรัพย์ดิจิทัลพบว่าค่อนข้างกระจายตัว โดยสัดส่วนการซื้อขายสูงสุดบนเว็บเทรด หรือ Exchange ของไทยสูงสุดนำโดยธีเทอร์ (Tether) 4.74 หมื่นล้านบาท  ตามด้วยบิตคอยน์อยู่ที่ 4.47 หมื่นล้านบาท

ส่วนเหรียญคับ (KUB) อยู่ที่ 3.19 หมื่นล้านบาท และอีเทอเรียมมีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 3.10 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้พบว่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผลตอบแทนติดลบมากที่สุดนำโดย เหรียญคับ(KUB) -13.40% ตามด้วยอีเธอเรียม -8.26% ส่วน XRP -0.54% ขณะที่บิตคอยน์ ผลตอบแทนบวกอยู่ที่ 0.20%

อย่างไรก็ตามถ่านหิน (Coal) ยังคงให้ผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 51.64% ตามด้วยน้ำมัน (Oil) 28.94% และอะลูมิเนียม (Aluminium) ที่ 21.17%  ส่วนทองคำ 6.51% ส่วนดัชนีหุ้นไทย (SET) อยู่ที่  1.95%

ทั้งนี้พบว่ามูลค่าซื้อขายมีแนวโน้มการซื้อขายในเดือน มี.ค.65 อยู่ที่ 1.31 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับเดือนม.ค.65 ที่ 1.35 แสนล้านบาท ขณะที่ในเดือนเม.ย. (ณ 28 มี.ค. 65) มีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท

ขณะที่จำนวนบัญชีที่มีการเคลื่อนไหว(Active) ของบุคคลธรรมดาในประเทศ เดือน มี.ค.65 ลดลงประมาณ 35% จากเดือนก.พ.65 ทั้งนี้ในเดือนมี.ค.65 นิติบุคคลต่างชาติมียอดซื้อสุทธิสูงสุด 4.6 หมื่นล้านบาท ในขณะที่บุคคลธรรมดาในประเทศและต่างประเทศมียอดขายสุทธิ 2.1 หมื่นล้านบาท และ 2.5 หมื่นล้านบาท