
รมว.คลัง หั่นจีดีพีปี’65 เหลือโต 3-4% จับตาสงครามรัสเซีย-ยูเครน กระทบเงินเฟ้อ แบะท่าลดภาษีนำเข้าปุ๋ย ช่วยลดต้นทุนการผลิต
วันที่ 18 เมษายน 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ประเมินว่าเศรษฐกิจในปี 2565 จะขยายตัวลดลงมา อยู่ที่กรอบ 3-4% จากเดิมที่ประมาณการว่าจะขยายตัวได้ 3.5-4.5% แต่ยังถือว่าขยายตัวได้ดีกว่าปี 2564 ที่ผ่านมา
- ภรรยาโอ๊ค พานทองแท้ ณัฐฐิญา ปวงคำ สาวเชียงราย ปิดข่าวเงียบ
- โอ๊ค พานทองแท้ แต่งงานเงียบ ตระกูลชินวัตร ร่วมอวยพร
- ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ส่วนต่อขยาย 1.5 ล้านสิทธิ เริ่มวันนี้
ทั้งนี้ มีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการบริโภคภายในประเทศ สถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการของภาครัฐที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
“เราคาดว่าตัวเลขการส่งออกไตรมาสแรก จะขยายตัว 12-15% ยังถือเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยหลังจากได้มีการหารือร่วมกับสภาผู้ส่งออก ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าปีนี้การส่งออกจะขยายตัวได้เพียง 5% เราก็ได้ขอให้ช่วยเบ่งการส่งออกให้ขยายตัวได้เป็น 10% เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”
อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังก็ยังต้องติดตามปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดที่อาจยืดเยื้อ ปัญหาความเปราะบางด้านตลาดแรงงานและหนี้ครัวเรือน ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งมีผลต่อราคาน้ำมัน และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งมีผลต่อเรื่องอัตราเงินเฟ้อด้วย
“ราคาน้ำมันจาก 120 เหรียญสหัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นเป็น 150 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งเป็น 5% โดยจะต้องใช้มาตรการภาครัฐในการกำกับราคาสินค้า”
ส่วนประเด็นการลดต้นทุนการผลิต ทั้งปุ๋ยและอาหารสัตว์ มาตรการรัฐก็จะเข้าไปช่วย ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงพาณิชย์ หากได้ข้อสรุปแล้ว กระทรวงการคลังพร้อมลดภาษีนำเข้าให้ อย่างไรก็ดี จะต้องดูด้วยว่าการลดภาษีแล้วจะไม่เป็นการให้ผลประโยชน์ไปตกอยู่ที่บริษัทรายใหญ่เท่านั้น