ธ.ก.ส.เงินท่วมแบงก์ 1.9 ล้านล้านบาท เกษตรกรแห่ฝากทะลุเป้า

ธกส-ข้าว-ชาวนา-1

ธ.ก.ส.เงินฝากท่วม 1.9 ล้านล้านบาท เกษตรกรแห่ฝากพุ่งเกินเป้า 1 แสนล้านได้รับเงินอุดหนุนจากโครงการของรัฐบาล-เอฟเฟ็กต์ลดคุ้มครองเงินฝากแบงก์พาณิชย์ ลดเป้าระดมเงินฝากปีบัญชี 2565 เหลือแค่ 1 หมื่นล้านบาท

เตรียมขยายเป้าสินเชื่อใหม่เป็น 5 หมื่นล้านบาท เร่งแก้หนี้ครัวเรือน-คุมเอ็นพีแอลให้เหลือ 4.5%

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในปีบัญชี 2564 (1 เม.ย. 2564- 31 มี.ค. 2565) ธนาคารมีเงินฝากกว่า 1.9 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1 แสนล้านบาท เป็นผลมาจากเงินฝากของเกษตรกรในระยะสั้น

ที่ได้รับเงินอุดหนุนจากโครงการช่วยเหลือสินค้าเกษตร รวมถึงผลจากการที่สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ได้ปรับลดการคุ้มครองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เหลือ 1 ล้านบาทต่อบัญชีต่อธนาคาร

จึงทำให้ผู้ฝากเงินบางส่วนโยกย้ายเงินฝากมาที่ ธ.ก.ส.มากขึ้น เพราะเป็นสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งถือว่ามีความมั่นคงสูง ทำให้ธนาคารปรับเป้าหมายระดมเงินฝากในปีบัญชี 2565 (1 เม.ย. 65-31 มี.ค. 66) เหลือเพียง 1 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

“เงินฝากที่สูงเกินมากกว่าเป้าหมายจำนวน 1 แสนล้านบาทนั้น จะเร่งนำมาบริหารจัดการด้วยการจัดทำสินเชื่อใหม่ เช่น สินเชื่อฟื้นฟูเกษตรกร สินเชื่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากภายใต้ BCG model

ได้แก่ การสนับสนุนเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย การเพิ่มมูลค่าสินค้าจากฐานความหลากหลายทางชีวภาพ การนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (zero waste) และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกรเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น”

ทั้งนี้ ในปีบัญชี 2565 ธ.ก.ส.ได้ตั้งเป้าหมายขยายสินเชื่อใหม่ไว้ 3 หมื่นล้านบาทในเบื้องต้น แต่จะมีการทบทวนเป้าหมายสินเชื่อ เพื่อให้มีการเติบโตของสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น 3-4% หรือ 5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากต้องการสร้างโอกาสให้กับเกษตรกร ได้เข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น

และเพื่อให้สอดคล้องกับสถาบันการเงินของรัฐอื่น ๆ นอกจากนี้ จะเน้นฟื้นฟูลูกค้า และแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน โดยตั้งเป้าลดสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ที่ระดับ 4.5% จากสิ้นปีบัญชี 2564 ที่อยู่ที่ระดับ 6.63%

“ธนาคารจะเข้าไปตรวจสุขภาพทางการเงินของลูกค้าภายในไตรมาสแรกของปีบัญชีนี้ และจัดชั้นลูกค้าตามกลุ่มเขียว เหลือง และแดง ตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อเข้าสู่กระบวนการแก้ไขหนี้ให้เป็นศูนย์ พร้อมกันนี้จะเข้าไปดูแลเรื่องการลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือน

ด้วยการเข้าไปตรวจสอบรายจ่ายของลูกหนี้ และคัดแยกภาระหนี้ครัวเรือน จากนั้นจะช่วยหาอาชีพเสริมให้ลูกหนี้กลับมามีรายได้เลี้ยงชีพ และมีความสามารถกลับมาชำระหนี้ได้”

สำหรับผลการดำเนินงานปีบัญชี 2564 ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 5.73% อยู่ที่ 2,236,358 ล้านบาท หนี้สินรวม 2,086,632 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%และส่วนของเจ้าของ 149,726 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.17% โดยมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 98,610 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 91,031 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7,579 ล้านบาท

โดยอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (ROA) อยู่ที่ 0.35% อัตราตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE)อยู่ที่ 5.22% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ที่ 12.43% สูงกว่าเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนด