ก.ล.ต. เผย “ธีเทอร์-บิตคอยน์-อีเธอเรียม” ซื้อขายสูงสุดบนเว็บเทรดไทย

คริปโตเคอร์เรนซี (2)

สำนักงาน ก.ล.ต.เผยข้อมูลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลรายสัปดาห์ (23 พ.ค.65) เผยปัจจุบันมูลค่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกอยู่ที่ 1.26 ล้านล้านดอลลาร์ ซื้อขายต่อวัน 82.98 พันล้านดอลลาร์  จำนวนบัญชีเริ่มกลับมาซื้อขายมากขึ้นในเดือนพ.ค.จำนวนบัญชีล่าสุดอยู่ที่ 5.26 แสนบัญชี โดย “ธีเทอร์-
บิตคอยน์ – อีเธอเรียม”  มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดบนศูนย์ซื้อขายในไทย

วันที่ 28 พฤษภาคม 2565  สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยว่า  ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกมีมูลค่าตาม Market cap. หรือ มูลค่าตามราคาตลาด อยู่ที่ประมาณ 1.26 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีมูลค่าการซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ 82.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน

ตั้งแต่ต้นปี 2565 ผลตอบแทนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความนิยมในไทยยังให้ผลตอบแทนติดลบ โดยเหรียญ Kub ให้ผลตอบแทนติดลบมากสุด -64.50% ตามด้วย XRP -50.12% อีเธอเรียม (Ethereum) -47.79% และบิตคอยน์ (Bitcoin) -36.58%

อย่างไรก็ตามถ่านหิน (Coal) ยังคงให้ผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 138.94% ตามด้วยน้ำมัน (Oil) 43.25% และอะลูมิเนียม (Aluminium) ที่ 3.76%  ส่วนทองคำ 2.15% ส่วนดัชนีหุ้นไทย (SET) อยู่ที่ -2.10% ( ข้อมูล ณ 23 พ.ค.65)

ในปี 2565 มูลค่าซื้อขายสะสมแยกประเภทสินทรัพย์พบว่าค่อนข้างกระจายตัว ธีเทอร์ (Tether),
มีมูลค่าซื้อขาย 7.76 หมื่นล้านบาท ,บิตคอยน์ (Bitcoin) 6.75 หมื่นล้านบาท และ อีเธอเรียม (Ethereum) มีมูลค่าซื้อขาย 4.51 หมื่นล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 สินทรัพย์นี้มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดบนศูนย์ซื้อขายในประเทศไทย

ทั้งนี้พบว่ามูลค่าซื้อขายโดยรวมมีแนวโน้มคงที่ในไตรมาสแรก ปี 2565 ในเดือนพ.ค.มีมูลค่าซื้อขายแล้ว 9.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งมูลค่าซื้อขายส่วนใหญ่มาจากรายย่อยในประเทศถึง 5.2 หมื่นล้านบาท

ขณะที่จำนวนบัญชีที่มีการเคลื่อนไหว(Active) เริ่มกลับมาซื้อขายกันมากขึ้นในเดือนพ.ค. โดยมีจำนวนบัญชีล่าสุดอยู่ที่ 5.26 แสนบัญชี (ข้อมูล ณ 23 พ.ค.65)  นอกจากนี้พบว่านิติบุคคลต่างชาติเริ่มเป็นผู้ซื้อหลักในเดือน มี.ค.และต่อเนื่องเดือนถึงเดือน พ.ค.โดยเริ่มมีปริมาณซื้อสุทธิลดลง

ทั้งนี้จำนวนบัญชีซื้อขายทั้งหมดในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนบัญชีที่เคลื่อนไหว (Active) สอดคล้องกับราคาบิตคอยน์ (Bitcoin) และมีสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนบัญีซื้อขายทั้งหมด


ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คลิกดูภาพใหญ่ทั้งหมดที่นี้