บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) แถลงแผนธุรกิจบัญชีปี 2565/2566 ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 12-15% เน้นการเติบโตจากธุรกิจหลักอย่างมั่นคง พร้อมลงทุนกว่า 1,800 ล้านบาท ซื้อกิจการเพิ่มเติมในออสเตรเลียสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด
วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ดร.ภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า แม้ว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย แต่ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งจากราคาพลังงานและโภคภัณฑ์สูงขึ้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
สำหรับ EPG ซึ่งทำธุรกิจในตลาดโลก จึงนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อสร้างให้เกิดโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง EPG มีความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และการเป็นผู้เล่นในระดับโลก จึงนำกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ในปีบัญชี 65/66 (เม.ย. 65-มี.ค. 66)
มุ่งเน้นการดำเนินงานใน 4 ด้าน ดังนี้
1) สร้างการเติบโตแบบ Organic Growth จากธุรกิจหลักด้วยความพร้อมด้านเทคโนโลยี กำลังการผลิตทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพสูง สามารถสร้างสรรค์สินค้านวัตกรรมให้เกิดความต่อเนื่องของ New S-Curve รวมถึงการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด
2) สร้างการเติบโตแบบ Inorganic Growth ด้วยการลงทุน M&A และ Joint Venture
3) เพิ่มงบฯลงทุนในธุรกิจวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างกลุ่มธุรกิจใหม่ในอนาคต
4) ตั้งเป้าหมายระยะยาว ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ “net zero” ภายในปี 2585
โดยในปีบัญชีนี้ EPG ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 12-15% อัตรากำไรขั้นต้นที่ 29-32% มาจากการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้
1) ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 10-12%
2) ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่ง ยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 20-23%
3) ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 5-8%
นอกจากนี้ การดำเนินงานด้านวิจัยและพัฒนาของบริษัท อีพีจี อินโนเวชัน เซ็นเตอร์ จำกัด ไม่เพียงแต่สนับสนุนธุรกิจหลักทั้ง 3 ธุรกิจ ด้วยการสร้างสินค้านวัตกรรม New S-Curve แต่ดำเนินงานวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสินค้านวัตกรรมสำหรับกลุ่มธุรกิจใหม่ในอนาคต
ดร.ภวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2565 วันที่ 7 มิ.ย. 65 มีมติอนุมัติให้ Aeroklas Australia Pty. Ltd. ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เข้าซื้อกิจการ 4 Way Suspension Products Pty. Ltd ในประเทศออสเตรเลีย โดยการซื้อหุ้น 100% มูลค่าไม่เกิน 75 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1,888.3 ล้านบาท 4 Way Suspension Products Pty. Ltd. ออสเตรเลีย ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ ในกลุ่มของ suspension products เช่น shock absorbers/coil springs/leaf springs และชุดตกแต่งสำหรับรถกระบะ ภายใต้แบรนด์ “Tough Dog”
โดยการซื้อกิจการครั้งนี้ ช่วยเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มสินค้า อีกทั้งแบรนด์ “Tough Dog” ที่มีชื่อเสียงที่ดีในด้านคุณภาพสินค้า และช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศออสเตรเลียและต่างประเทศ รวมถึงเกิด synergy ในการลดต้นทุน และเพิ่มรายได้กับธุรกิจในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน