
พาส่องความน่าสนใจ “กองรีท-พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์” ปีนี้ กลุ่มไหนฟื้นเร็ว กลุ่มไหนฟื้นช้าสุด พร้อมมุมมองการลงทุนในกองรีทเป็นที่พักเงินช่วงตลาดผันผวน กับ “ณัชพล โรจนโรวรรณ” นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
วันที่ 13 มิถุนายน 2565 ในช่วงโควิดกลุ่มกองรีท-พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ได้รับผลกระทบค่อนข้างหนักจากการล็อกดาวน์และปิดประเทศ ทำให้หลายบริษัทมีการขาดทุนและถึงขั้นต้องงดจ่ายปันผล ขณะที่ในปีนี้หลังจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณทยอยกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น
- จับตาธุรกิจเลิกจ้าง ปิดกิจการ ส่งออกสะดุด-บริษัทยักษ์ย้ายฐาน
- โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นองคมนตรีคนใหม่ มีผลทันที
- เปิดลงทะเบียนแก้หนี้ 1 ธ.ค.นี้ เครดิตบูโรห่วงกู้ซื้อ “รถ-บ้าน” ค้างจ่ายพุ่ง
และผลประกอบการหรือกำไรของหุ้นกลุ่มนี้ที่มีทิศทางที่ดี ภาพรวมในครึ่งหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป กลุ่มไหนจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่นและน่าสนใจที่สุด วันนี้ร่วมพูดคุยกับ “ณัชพล โรจนโรวรรณ” นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มานำเสนอ
Q : กองรีท-พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ค่อนข้างมาก ดูผลประกอบการกำไรในไตรมาสแรก เห็นการฟื้นตัวอย่างไร กลุ่มไหนฟื้นเร็วสุด กลุ่มไหนฟื้นช้าสุด
“ณัชพล โรจนโรวรรณ” กล่าวว่า ก่อนอื่นจะอธิบายอย่างนี้ก่อนว่า ของหลักทรัพย์กสิกรไทย เราไม่ได้ดูกองรีทหรือพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ทุกตัวที่มีอยู่ในตลาด ก็จะมีอยู่กลุ่มหนึ่งสักประมาณ 20 ตัว ฉะนั้นอันนี้ผมพูดวันนี้ผมก็จะพูดจากฐาน 20 ตัวที่ผมดูอยู่ อีกส่วนหนึ่งก็คือเวลาดูกำไรของผมจะดูเป็น Core Profit ก็คือกำไรปกติ ไม่ได้ดูเป็น Net Profit เพราะ Net Profit จะมีรายการที่มันอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับการดำเนินงาน
ในของไตรมาส 1 ถ้าเอาภาพรวมของทั้งกลุ่มที่ผมดู มันก็มีทิศทางที่ดูดีขึ้น QOQ ก็คือถ้าเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2564 มาเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2565 มันก็ดูดีขึ้นสักประมาณ 5-6% ถ้าเอากำไรโดยรวมของทั้งกลุ่มไปเทียบแบบ YOY ก็คือไปเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2564 ก็ดูแล้วมันจะดีขึ้นกว่าเดิมนิด ๆ แค่ 1.6% เท่านั้นเอง ฉะนั้นถ้าเราเทียบ YOY จะดูไม่ค่อยฟื้นตัวขึ้นเท่าไหร่นัก
“ผมก็เชื่อว่าไตรมาส 2 ไตรมาส 3 และไตรมาส 4 มันก็น่าจะมีแนวโน้มทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ว่าในรายละเอียดตัวพวกกองรีท พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์หรืออินฟราฟันด์ ที่ผมดูก็ตามแต่ละกลุ่มมันมีสินทรัพย์อ้างอิงที่เป็นคนละรูปแบบกัน ซึ่งแต่ละตัวมันก็จะมีการฟื้นตัวที่แตกต่างกันออกไป” นายณัชพล กล่าว
เอากลุ่มที่ยังไม่ค่อยได้มีโกรทก่อน อย่างออฟฟิศหรือตัวพวกโรงงาน-คลังสินค้า ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา 2 กลุ่มนี้ ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ค่อนข้างน้อย อาจจะโดนด้านของอัตราการเช่า (occupancy rate) บ้างแต่ว่ามันไม่ได้ลดเยอะ ไม่ได้กระทบเยอะ ฉะนั้นในช่วงการฟื้นตัว เราก็จะเห็นภาพไม่ได้ฟื้นตัวเป็นเปอร์เซ็นต์โกรทที่สูง ส่วนอีกกลุ่มที่ที่น่าจะฟื้นตัวได้ดีก็จะเป็นกลุ่มที่เราอาจจะเห็นโกรทปีนี้ ที่มันดีกว่าปีที่แล้ว ก็เป็นกลุ่มพวกห้างสรรพสินค้า ปีที่แล้วได้รับผลกระทบกันค่อนข้างหนัก และก็ปัจจุบันก็เชื่อว่ากำลังอยู่ในช่วงการฟื้นตัว
Q : ในช่วงครึ่งปีหลังประเมินแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกอย่างไร หลังจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น
“ณัชพล โรจนโรวรรณ” ตอบคำถามนี้ว่า ในการประมาณการของผม ยังไงก็ให้สถานการณ์ต่าง ๆ มันค่อนข้างดีขึ้นไปเรื่อย ๆ อยู่แล้ว อย่างไตรมาส 1 ที่มันก็ดีขึ้นต่อเนื่อง โอเคมันอาจจะมีโอมิครอน พอมาไตรมาส 2 ผมคิดว่ามันก็ดีขึ้นกว่าไตรมาส 1 พอมาไตรมาส 3 โรงเรียนเปิดหรืออะไรเปิดแบบเต็มที่แล้ว มันก็จะค่อย ๆ ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป แต่ว่าเรื่องนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผมคิดว่าอาจจะยังมาไม่ได้เยอะมากนัก อาจจะยังมีตรงนี้ที่ขาดหายไปอยู่
Q : สำหรับปีนี้ก็จะมีความกังวลในเรื่องของแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ทิศทางเงินเฟ้อ ประเมินอย่างไรบ้างว่าทั้ง 2 สิ่ง นี้จะกระทบต่อการลงทุนในกองรีทหรือกระทบกองรีทอย่างไร
โดย “ณัชพล โรจนโรวรรณ” อธิบายว่าจริง ๆ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้นถ้าเอาตามหลักการมันก็จะมีกระทบเรื่องของพวกต้นทุนทางการเงิน ถ้ากองไหนมันมีหนี้เงินก็จะจ่ายดอกเบี้ยอะไรแบบนี้เพิ่มขึ้น แต่เผอิญพวกกองรีทพวกนี้สัดส่วนหนี้ภายในบริษัทค่อนข้างน้อย โดยเฉลี่ย ๆ คนที่มีหนี้ก็จะมีหนี้อยู่แค่ระดับประมาณ 30% ของมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดเท่านั้นเอง ซึ่งถือว่าไม่ได้เยอะ
ฉะนั้นผมก็เลยมองว่าอัตราดอกเบี้ยในมุมแรกที่เราพูดถึงอาจจะกระทบไม่เยอะสักเท่าไหร่ อีกมุมหนึ่งมุมที่สองที่ผมจะพูดถึงมันจะเป็นเรื่องของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) อย่างปีนี้บอนด์ยีลด์ขึ้นมาค่อนข้างเยอะแล้ว จากต้นปีอยู่ที่ประมาณสัก 1.9% อันนี้เป็นบอนด์ยีลด์ 10 ปีของไทย ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3%
“ถ้าเราไปดู INDEX ของกลุ่มรีทหรือพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ก็ปรับตัวลดลงมาเหมือนกัน แต่ดูแล้วปรับตัวลดลงมาไม่เยอะเท่าไหร่ ปรับตัวลดลงมาสักประมาณ 7% ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงวันนี้ แม้ว่าบอนด์ยีลด์จะเป็นทางขาขึ้นแต่ผมมองว่าราคาพวกกองรีทตอนนี้มันต่ำมาก ๆ แล้ว มันไม่น่าจะลงไปมากกว่านี้สักเท่าไหร่แล้ว” นายณัชพล กล่าว
“ณัชพล โรจนโรวรรณ” ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า มันมีประเด็นที่เขาพูดกันหนาหูในตลาดก็คือ เรื่องของประเด็นอัตราเงินเฟ้อในประเทศไทยที่น่าจะสูงขึ้น อาจจะ 4-5% หรือเขาบอกว่าไตรมาส 3 อาจจะสูงถึง 7% ก็ถ้าดูในช่วงนี้ตลาดค่อนข้างอาจจะผันผวนนิดนึง ผมก็มองว่ากองรีทก็จะเป็น Safe Haven ในการเป็นที่พักเงินให้กับนักลงทุนได้
ถ้าเราซื้อพวกหุ้นในกองรีทอย่างรีทตัวที่ผมแนะนำก็ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่สูงบางตัวอาจจะ 7% หรือ 8-9% สมมุติซื้อตัวที่ได้ 8% สิ้นปีเราได้อัตราผลตอบแทนมา 8% มาเทียบกับอัตราเงินเฟ้อที่ 5% ก็ถือว่าเรายังรวยขึ้นอยู่ เรายังรวยขึ้น 3% ผมก็เลยมองว่ากลุ่มรีทตอนนี้ก็ถือว่าเหมาะเหมือนกันที่จะเป็นที่พักเงินในกับนักลงทุน
Q : สุดท้ายสำหรับคำแนะนำในการซื้อกองรีทตัวที่น่าสนใจ มีโอกาสเติบโต มีผลประกอบการที่ดี แนะนำตัวไหน
“ในบรรดาตัวที่ผมดูอยู่ พอดีผมดูอยู่แค่ 4 ตัว จะมีตัว ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์อัลไล (ALLY) , ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) , ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์ (LHSC) และก็กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท (LPF) ” นายณัชพล กล่าว
ซึ่งผมจะชอบไปทางตัว ALLY มากที่สุด ไตรมาส 1 ที่เขาประกาศผลประกอบการออกมา เขาก็บอกด้วยว่าส่วนลดค่าเช่าตอนนี้อยู่ที่ 11% ถ้าเทียบกับตัวอื่น ๆ ในกลุ่มถือว่าเป็นส่วนลดค่าเช่าที่น้อยที่สุด โดยปกติแล้วผมก็จะมีการประมาณการกำไรทั้งปี ซึ่งตัว ALLY เป็นตัวที่ออกมาดีกว่าที่เราคาด ก็คือไตรมาสที่ 1 Core Profit ของเขาคิดเป็นสักประมาณ 30% ของปีที่แล้วคาดการณ์
ซึ่งจริง ๆ แล้วโดยปกติแต่ละไตรมาส ถ้าเราคาดทั้งปีสมมุติ 100% แต่ละไตรมาสถ้ามันเท่า ๆ กัน มันควรจะ 25% แต่ว่าตัวนี้มันทำได้ 30% ก็ถือว่าดีกว่าที่เราคาดไว้ ฉะนั้นมันมีโอกาสที่อนาคตอาจจะต้องปรับเพิ่มพวกประมาณการอะไรต่าง ๆ ด้วย สินทรัพย์อ้างอิงของเขา บางคนอาจจะยังไม่รู้ ก็พูดคราว ๆ ก็คือจะเป็นพวกคอมมิวนิตี้ มอลล์ พวก the crystal , I’m Park , คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) สถานที่ตั้งของเขาส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ที่แถวชานเมือง จะไปอยู่ใกล้ ๆ พวกหมู่บ้านหรือว่าแหล่งที่อยู่อาศัยซะส่วนใหญ่
“โดยธรรมชาติของพวกคอมมิวนิตี้มอลล์ เขาจะพึ่งพิงคนที่มาเดินห้างที่เป็นคนไทย การที่ปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะมีไม่เยอะสักเท่าไหร่มันจะไม่ได้กระทบกับตัวกองนี้สักเท่าไหร่”
การคาดการณ์ของผมในอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของตัว ALLY ปีนี้ ผมคาดการณ์ ณ ราคาตลาดปัจจุบันอยู่ที่ประมาณสัก 7.9% ซึ่งก็ถือว่าเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตัวอื่น