ออมสิน-ธอส. พร้อมตรึงดอกเบี้ย หั่นกำไรดูแลลูกค้า

บ้าน
แฟ้มภาพ

ออมสิน พร้อมหั่นกำไร ตรึงดอกเบี้ย ดูแลลูกค้า ด้าน “ธอส.” ชี้คงดอกเบี้ยช่วยลูกค้าอย่างน้อยถึง ก.ย. แนะผู้อยากมีบ้านรีบตัดสินใจ ก่อนดอกเบี้ยขึ้น

วันที่ 20 มิถุนายน 2565 นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า กรณีที่ขณะนี้มีแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นทั่วโลกนั้น ในส่วนของธนาคารออมสินก็พร้อมที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด ส่วนจะนานถึงเมื่อไหร่นั้นไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากจะต้องพิจารณาประกอบกับปัจจัยทางเศรษฐกิจต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วมากไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่งของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของต่างประเทศด้วย

ทั้งนี้ การตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้มีผลต่อกำไรของธนาคารที่อาจหายไปบางส่วน ซึ่งธนาคารออมสินก็พร้อมที่จะแบกรับไว้เอง อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 นี้ ธนาคารออมสินก็สามารถทำกำไรได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ความสามารถในการตรึงอัตราดอกเบี้ยก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของฐานะของธนาคาร ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ สิ้นเดือน พ.ค. ในระดับ 2.7% และมีเงินสำรองในระดับที่สูงถึง 165% และ BIS Ratio สูงถึง 16-17% จากมาตรการฐาน ธปท.ที่ขั้นต่ำอยู่ที่ 8.5%

“ถ้าอัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับขึ้น ผู้กู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยแบบฟิกซ์จะยังไม่ได้รับผลกระทบในการผ่อนชำระเงินงวด แต่กรณีคนที่กู้ใหม่เงินงวดอาจปรับขึ้น เช่น หากกู้ 1 ล้านบาท ตามปกติอาจผ่อนชำระ 7,000 บาท/งวด ก็จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 7,500-8,000 บาท/งวด”

ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า แม้ขณะนี้ทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ ธอส.พร้อมตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ ช่วยเหลือลูกค้าออกไปอย่างน้อยถึงเดือน ก.ย. 65 ส่วนหลังจากนั้นจะต้องดูทิศทางตลาดดอกเบี้ย รวมถึงดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนว่าจะมีการปรับขึ้นเท่าไร ขึ้นกี่ครั้ง แต่ ธอส.ก็พร้อมเข้าไปช่วยบรรเทาผลกระทบช่วยลูกค้าที่กู้ซื้อบ้านกับ ธอส.ให้ได้รับผลกระทบน้อยกว่าภาพรวมตลาด

“การที่ ธอส.สามารถเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าได้ เนื่องจากธนาคารมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง และมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเกินกว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว และช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาก็มีการนำกำไรบางส่วนไปช่วยตรึงดอกเบี้ยช่วยลูกค้าไว้”

นายฉัตรชัยกล่าวว่า ขณะนี้เป็นจังหวะดีของผู้ที่ต้องการซื้อบ้านจะต้องรีบตัดสินใจ เพราะสินเชื่อยังคงมีดอกเบี้ยต่ำและดอกคงที่เหลืออยู่ เช่น โครงการบ้านล้านหลัง เฟสสอง ดอก 1.99% ขณะนี้ขยายวงเงินกู้ไปถึง 1.5 ล้านบาท และเหลือวงเงินสินเชื่อเพียง 4 พันกว่าล้านบาท เพราะไม่เช่นนั้นในอนาคตคาดว่าภาพรวมดอกเบี้ยจะปรับขึ้นแน่

ส่วนการปล่อยสินเชื่อเดือน มิ.ย.นี้ คาดจะปล่อยกู้ได้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท และทั้งปีจะปล่อยกู้ช่วยคนไทยมีบ้านได้เกิน 3 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.2 แสนล้านบาท