ลุ้นประชุมอีซีบี-บีโอเจ-จีนล็อกดาวน์ หนุนเงินบาทแตะ 37 บาทต่อดอลลาร์

ลุ้นประชุมอีซีบี-บีโอเจ-จีนล็อกดาวน์ หนุนเงินบาทแตะ 37 บาทต่อดอลลาร์
FILE PHOTO: European Central Bank (ECB) REUTERS/Kai Pfaffenbach/File Photo

แบงก์ประเมินกรอบเงินบาทเคลื่อนไหว 36.50-37.00 บาทต่อดอลลาร์ ลุ้น “ยอดขายบ้านสหรัฐฯ -ประชุมอีซีบี-บีโอเจ” มองจีนล็อกดาวน์ หนุนโอกาสเงินบาทแตะ 37 บาทต่อดอลลาร์ 

วันที่ 17 กรกฎคม 2565 นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า (วันที่ 18-22 กรกฎาคม 65) เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 36.30-37.00 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม จะเป็นตัวเลขยอดขายบ้านของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นตัวสะท้อนความเชื่อมั่นผู้บริโภค หากตัวเลขออกมาค่อนข้างแย่ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 1% ตามตลาดคาดการณ์ รวมถึงตัวเลข PMI ซึ่งหากดัชนีออกมาต่ำกว่า 50 จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าได้

ขณะเดียวกัน ประเด็นที่จับตา คือ การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) โดยตลาดจะรอดูทีท่าการประชุมว่าจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ และแนวโน้มเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เพราะถ้าออกมาแย่จะเป็นแรงกดดันความเชื่อมั่นกลุ่มยูโรค่อนข้างมาก และหากปรับขึ้นดอกเบี้ย จะทำให้ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าได้อีก

นอกจากนี้ยังมีการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งคาดว่าการดำเนินนโยบายยังคงไม่ได้เปลี่ยนทีท่า จึงเป็นแรงกดดันค่าเงินเยนให้อ่อนค่าได้เพิ่มเติม ดังนั้น แนวโน้มจะเห็นเงินบาทแข็งค่าได้ลำบาก รวมถึงยังคงต้องติดตามการล็อกดาวน์จีนจะเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งจะเป็นตัวสำคัญที่จะทำให้ค่าเงินบาทสามารถหลุดไปแตะระดับอ่อนค่าที่ 37 บาทต่อดอลลาร์ได้เช่นกัน

สำหรับเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า นักลงทุนขายสุทธิในตลสดหุ้นอยู่ที่ 1,141 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร (บอนด์) สุทธิ 1,426 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ทำให้เงินทุนไหลออก จึงเห็นเงินบาทอ่อนค่าในรอบ 15 ปี 8 เดือน

Advertisment

อย่างไรก็ดี ทิศทางฟันด์โฟลว์ในสัปดาห์หน้า มองว่า ตลาดหุ้นยังคงเห็นการเทขายสุทธิอยู่ แต่อาจจะไม่มากนัก เช่นเดียวกับตลาดบอนด์ขายสุทธิ เพราะตลาดมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย (Recession) และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) ปรับลดลง ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อ เพื่อรอดูทิศทางตลาด

“ประเด็นสำคัญที่จะทำให้เห็นเงินบาทอ่อนหลุดไปแตะ 37 บาทต่อดอลลาร์ จะเป็นการล็อกดาวน์ในจีน ซึ่งเป็นตัวที่ต้องลุ้น และทิศทางการประชุมของธนาคารกลางสำคัญๆ ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ดังนั้น จะเห็นเงินบาทกลับมาแข็งค่าเยอะๆ คงจะลำบากหน่อย”

นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการสายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้าอยู่ที่ 36.50-36.90 บาทต่อดอลลาร์ โดยติดตามยอดขายบ้านในสหรัฐฯ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน และทองคำ รวมถึงท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขณะที่หลายประเทศหันมาขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวกันมากขึ้น

“นักลงทุนคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรงต่อเนื่องแม้ต้องแลกกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระยะถัดไป หนุนค่าเงินดอลลาร์ในตลาดโลก และอาจกระตุ้นเงินไหลออกจากภูมิภาคนี้ ขณะที่ไทยยังขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอีกทาง และหากจะเห็นเงินบาทแตะ 37 บาทต่อดอลลาร์ เงื่อนไขว่าตลาดคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง เช่น 1.00% ตามด้วย 0.75% ในรอบการประชุมถัดไป ราคาทองคำร่วง และจีนล็อกดาวน์”

Advertisment