ในประเทศ

เปิด 4 ทริปท่องเที่ยว ทะเล-น้ำตก-เขื่อน กับการรถไฟฯ

เปิด 4 ทริปท่องเที่ยว

หลังจากการเปิดจองตั๋วของขบวนรถไฟลอยน้ำที่ได้รับผลตอบรับอย่างถล่มทลาย นอกจากทริปนี้แล้ว การรถไฟฯยังมีขบวนท่องเที่ยวอีกถึง 3 ขบวน

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 หลังจากเปิดจองตั๋วขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์หรือรถไฟลอยน้ำวันแรกเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ข้อมูลจากฝ่ายประชาสัมพันธ์การรถไฟแห่งประเทศไทยบอกมาว่า ยอดจองตั๋วถล่มทลาย โดยเฉพาะยอดจองตั๋วผ่านทางช่องทางออนไลน์ ระบบ D-Ticket

ตารางการเดินรถไฟลอยน้ำ เที่ยวไป (ขบวนที่ 921) ขบวนรถไฟออกจากสถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) เวลา 06.00 น. จากนั้นหยุดรับ-ส่ง ผู้โดยสารตามสถานีต่าง ๆ คือ สถานีสามเสน ชุมทางบางซื่อ บางเขน หลักสี่  ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี ชุมทางแก่งคอย ถึงจุดชมวิว “รถไฟลอยน้ำ” กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขบวนรถจะหยุดกลางสันเขื่อนมีเวลาให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม ดื่มด่ำกับความงดงาม 20 นาที และเดินทางไปที่สถานีโคกสลุง มีเวลาให้นักท่องเที่ยว ชิม ช็อป สินค้าพื้นเมือง OTOP ประมาณ 30 นาที

จากนั้นขบวนรถจะพานักท่องเที่ยวมาถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 10.35 น. นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะรับประทานอาหารกลางวันจากร้านค้าของกลุ่มชุมชนท้องถิ่น

หรือท่องเที่ยวรอบนอกตัวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยใช้บริการรถตู้ อัตราค่าบริการท่านละ 70 บาทตลอดเส้นทาง ที่จะนำชมสถานที่ท่องเที่ยวทุ่งทานตะวัน ณ บ้านกล้วย & ไข่ ชมสวนเฟิร์นยักษ์ และถ่ายรูปกับบรรยากาศสไตล์ชิก ๆ ที่จุดชมวิว ณ ไร่ทรัพย์ประยูร

และขึ้นขบวนรถไฟเที่ยวกลับ (ขบวนที่ 926) ออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 15.30 น. และหยุดรับ-ส่ง ผู้โดยสารตามสถานีต่าง ๆ คือ สถานีชุมทางแก่งคอย สระบุรี อยุธยา รังสิต ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน ชุมทางบางซื่อ สามเสน ถึงสถานีกรุงเทพฯ เวลา 18.50 น.

ขบวนรถไฟลอยน้ำมีอัตราค่าโดยสารทั้งผู้ใหญ่และเด็กราคาเดียวกัน คือ รถธรรมดา กรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไป-กลับ ราคา 330 บาท สระบุรี/แก่งคอย-โคกสลุง ไป-กลับ ราคา 130 บาท และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพฯ เฉพาะเที่ยวกลับ ราคา 150 บาท

รถปรับอากาศ กรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไป-กลับ ราคา 560 บาท สระบุรี/แก่งคอย-โคกสลุง ไป-กลับ ราคา 260 บาท และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพฯ เฉพาะเที่ยวกลับ ราคา 250 บาท

นอกจากขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์หรือรถไฟลอยน้ำแล้ว การรถไฟแห่งประเทศไทยยังมีรถไฟนำเที่ยวอีก 3 เส้นทาง อันได้แก่ รถไฟขบวนนำเที่ยวชายทะเลหัวหินและสวนสนประดิพัทธ์, รถไฟขบวนนำเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย กาญจนบุรี, รถไฟขบวนนำเที่ยวพิเศษ รถจักรไอน้ำ

นั่งรถไฟเที่ยวชายทะเล

รถไฟขบวนนำเที่ยวชายทะเลหัวหินและสวนสนประดิพัทธ์ ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเดินทางได้เลือกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวได้ ไม่ว่าจะเป็นชายทะเลหัวหิน หรือชายทะเลสวนสนประดิพัทธ์ เปิดให้เดินทางในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนขัตฤกษ์ โดยมีตู้โดยสารให้เลือกเดินทาง 2 ประเภท โดยอัตราค่าโดยสารรวมไป-กลับเท่ากันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คือประเภทตู้โดยสารแบบปรับอากาศ ราคา 240 บาท ประเภทตู้โดยสารรถนั่งธรรมดาชั้น 3 ราคา 120 บาท

โดยมีตารางการเดินทางเวลา 06.30 น. รถจะออกจากสถานีกรุงเทพฯ หรือที่เรียกกันติดปากว่าสถานีหัวลำโพง ก่อนจะไปจอดที่สถานีนครปฐมในเวลา 07.40 น. มีเวลา 40 นาที สำหรับการนมัสการพระปฐมเจดีย์หรือเดินเลือกซื้อของ ก่อนรถจะออกจากสถานีนครปฐมในเวลา 08.20 น. เพื่อมุ่งหน้าสู่สถานีหัวหินที่จะมีกำหนดการในการเดินทางไปถึงในเวลา 10.30 น.

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังชายหาดหัวหิน สามารถลงที่สถานีนี้ก่อนออกเดินทางไปยังชายหาดด้วยรถสองแถว แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปที่ที่หยุดรถสวนสนประดิพัทธ์ สามารถนั่งรถไฟต่อไปอีก 10 นาที ก็สามารถแวะท่องเที่ยวที่สวนสนประดิพัทธ์

สำหรับการเดินทางเที่ยวกลับรถไฟจะออกจากที่หยุดสวนสนประดิพัทธ์ในเวลา 15.31 น. และหยุดแวะรับผู้โดยสารที่สถานีรถไฟหัวหินในเวลา 15.39 น. ก่อนมุ่งหน้าสู่สถานีกรุงเทพมหานครในเวลา 19.25 น.

นั่งรถไฟเที่ยวน้ำตก กาญจนบุรี

รถไฟขบวนนำเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย กาญจนบุรี ทริปนำเที่ยวอัดแน่นสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนมัสการพระปฐมเจดีย์ แวะถ่ายรูปที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว เที่ยวชมรถไฟสายประวัติศาสตร์หรือทางรถไฟสายมรณะที่ถูกสร้างโดยเฉลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนแวะเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย ก่อนกลับแวะชมสุสานทหารสัมพันธมิตร เดินตลาดเชลยศึก

สำหรับอัตราค่าโดยสารก็เช่นเดียวกันกับขบวนทะเลหัวหินและสวนสนประดิพัทธ์ คือมีตู้โดยสารให้เลือกเดินทาง 2 ประเภท โดยอัตราค่าโดยสารรวมไป-กลับ เท่ากันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คือประเภทตู้โดยสารแบบปรับอากาศ ราคา 240 บาท ประเภทตู้โดยสารรถนั่งธรรมดาชั้น 3 ราคา 120 บาท

ตารางการเดินทางรถไฟออกจากสถานีกรุงเทพฯในเวลา 06.30 น. ก่อนแวะให้การนมัสการพระปฐมเจดีย์หรือเดินเลือกซื้อของเป็นเวลา 40 นาที ตั้งแต่เวลา 07.40-08.20 น. ก่อนรถไฟจะมุ่งหน้าสู่สะพานข้ามแม่น้ำแคว โดยจะถึงในเวลา 09.25 น. โดยสามารถแวะเที่ยวชมและถ่ายภาพได้ 35 นาที ก่อนเดินทางสู่สถานีถ้ำกะแชที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ชมเส้นทางรถไฟสายมรณะ หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศ

และออกเดินทางจากสถานีน้ำตก อันเป็นที่ตั้งของน้ำตกไทรโยคน้อย โดยสามารถชมธรรมชาติและเล่นน้ำตกได้ในเวลา 3 ชั่วโมง 14.25 น. รถไฟจะเดินทางออกจากสถานีน้ำตก มุ่งหน้าสู่สถานีกาญจนบุรีโดยจะหยุดเพื่อรับส่งที่สถานีกาญจนบุรีในเวลา 15.49 น. โดยสามารถท่องเที่ยวในพื้นที่กาญจนบุรี เช่น สุสานทหารสัมพันธมิตร ฯลฯ ได้อีก 1 ชั่วโมง

16.53 น. ขึ้นรถไฟที่สถานีกาญจนบุรีมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร 19.25 น. ถึงสถานีกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ

ย้อนอดีตกับขบวนรถจักรไอน้ำ

สำหรับขบวนรถจักรไอน้ำเป็นขบวนพิเศษที่จัดเพียง 6 ครั้งใน 1 ปี คือวันสถาปนาการรถไฟแห่งประเทศไทย (23 มีนาคม) วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี (3 มิถุนายน) วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 23 ตุลาคม และวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม

โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจะจัดเส้นทางการนั่งรถไฟทุก ๆ ปี ในเส้นทางต่าง ๆ หมุนเวียนไป โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยฝากกระซิบมาบอกถึง 5 ทริปข้างหน้า ได้แก่ วันที่ 5 ธันวาคม 2565 เส้นทางกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา

วันที่ 26 มีนาคม 2566 เส้นทางกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา วันที่ 3 มิถุนายน 2566 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครปฐม วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 เส้นทางกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา และ 12 สิงหาคม 2566 เส้นทางกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา

โดยในแต่ละทริปจะมีตู้โดยสาร 2 ประเภท คือ รถปรับอากาศราคา 799 บาทต่อคน และประเภทตู้โดยสารรถนั่งธรรมดาชั้น 3 ราคา 299 บาท ยกเว้นทริปกรุงเทพฯ-นครปฐม ในวันที่ 3 มิถุนายน 2565 ที่รถปรับอากาศจะมีบริการนำเที่ยวพ่วงไปด้วยทำให้มีราคา 1,999 บาท

ช่องทางการจองตั๋ว

สำหรับรถโดยสารแต่ละประเภทสามารถจับจองได้ที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ หรือทางช่องทางออนไลน์ผ่านระบบ D-Ticket ของการรถไฟแห่งประเทศไทย

ยกเว้นขบวนรถจักรไอน้ำ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแจ้งช่วงเวลาในการจองตั๋วสำหรับการเดินทางอีกครั้งหนึ่ง