วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ลดฝุ่นพิษ PM 2.5 ให้เหมาะสม เพื่อใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไอเท็มสำคัญที่ต้องมีประจำบ้านในนาทีนี้คงหนีไม่พ้น “เครื่องฟอกอากาศ” เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 ได้ปกคลุมอยู่ทั่วกรุงเทพฯและประเทศไทยมาหลายปีแล้ว
กระทั่งช่วงนี้ ค่าฝุ่นก็ยังเกินค่ามาตรฐาน ทว่าเครื่องฟอกอากาศก็มีให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายขนาด หลายราคา ต่างก็โชว์คุณสมบัติอย่างหลากหลายรูปแบบ ให้ลูกค้าได้ทำการบ้าน และซื้อหา
สำหรับคำแนะนำการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศสำหรับผู้ที่สนใจซื้อ ให้แนวทางควรพิจารณาดังนี้
1.ขนาดของห้อง มีผลต่อการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ โดยให้หลักการไม่ต่างจากการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับพื้นที่ขนาดห้อง
2.ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) อัตราการเปลี่ยนถ่ายอากาศต่อชั่วโมง เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ค่าที่บอกว่าเครื่องนี้ฟอกสิ่งสกปรกออกจากอากาศได้ปริมาณมากแค่ไหนใน 1 นาที ประกอบด้วยเลข 3 ชุด ชุดทำความสะอาดที่มีฝุ่นละออง (Dust), ชุดอากาศที่มีเกสรดอกไม้ (Pollen), ชุดอากาศที่มีควันบุหรี่ (Smoke)
3.Function ต่าง ๆ ที่ควรพิจารณา ได้แก่ ระบบ Auto Mode, ความเงียบของเครื่องขณะทำงาน Noise Level เพื่อไม่รบกวนการนอนหลับ และการบริการหลังการขาย อะไหล่ของเครื่องทดแทนที่ชำรุด ศูนย์บริการที่สะดวกต่อการติดต่อ และนำเครื่องเข้าไปส่งซ่อม
4.อัตราการกินไฟ อาจเทียบเคียงกันสัก 2-3 ยี่ห้อ ตัวไหนคุณภาพเท่าเทียมกันกินไฟน้อยสุด
5.Air Volume จะเป็นเครื่องที่สามารถทำความสะอาดตัวเองได้ ในกรณีที่กรองสิ่งสกปรกเข้าไปในตัวเครื่องเป็นจำนวนมาก
ที่มา : วารสารศิริราช
10 จังหวัด จมฝุ่นพิษ PM 2.5 หนักสุดที่แม่สาย เชียงราย
สภาลมหายใจชี้สั่ง ‘ห้ามเผา’ ขัดแย้งหนัก-ไม่แก้ฝุ่นควันภาคเหนือ
ชง กกร. ดึง “เครื่องฟอกอากาศ-ดูดฝุ่น” เป็นสินค้าควบคุม ป้อง PM 2.5
