เปิดที่มา รอยร้าว ระหว่าง ชูวิทย์ กับ สันธนะ

ชูวิทย์ กับ สันธนะ
ภาพจาก มติชน

เปิดที่มารอยร้าวระหว่าง ชูวิทย์ กับ สันธนะ

วันที่ 2 มีนาคม 2566 ภายหลังที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล มีกำหนดเดินทางไปกองบัญชาการตำรวจนครบาล ถนนศรีอยุธยา เขตดุสิต กรุงเทพฯ ยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

เพื่อให้เร่งรัดคดีที่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และพวกรวม 9 คดี กับนายพันธ์ธวัช หรือนอท นาควิสุทธิ์ และพวกรวม 5 คดี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลตั้งแถวดูแลความปลอดภัยราว 1 กองร้อย

แต่เมื่อถึงเวลาที่นายสันธนะเดินทางมาถึง บช.น. ปรากฏว่านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้พุ่งตัวเข้ามาพยายามเข้าประชิดตัวนายสันธนะ เพื่อท้าต่อยมวยตัวต่อตัว พร้อมโยนนวมให้นายสันธนะ แต่นายสันธนะเดินหนี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาดูแลความปลอดภัย ตั้งแถวมนุษย์กั้นระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย

ขณะที่นายชูวิทย์ได้ถอดเสื้อเชิ้ตออก และเปลี่ยนเป็นเสื้อกล้าม ทาน้ำมันมวยและสวมนวม ตะโกนท้าต่อยนายสันธนะ มาสู้กัน แบบวิถีลูกผู้ชายอยู่ตลอดเวลาขณะที่นายสันธนะยื่นหนังสือกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

โดยนายสันธนะเปิดเผยว่า จะไม่มีเรื่องกับนายชูวิทย์ เพราะให้เกียรติสถานที่ ถ้าจะมีเรื่องที่ไหนก็มีได้ แต่ไม่ใช่ที่นี่ หากตนรู้จักกับนายชูวิทย์ก่อนออกราชการนายชูวิทย์คงไม่สามารถยืนตะโกนอยู่แบบนี้ได้ ในวันนี้ตนเดินทางมาเพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีที่เคยแจ้งความไว้

ชูวิทย์ กับ สันธนะ
ภาพจาก มติชน

แต่เวลาผ่านมานานกว่า 2 เดือนแล้วคดียังไม่มีความคืบหน้า โดยเฉพาะคดีที่ตนแจ้งความเอาผิดนายชูวิทย์กรณีเปิดสถานบันเทิงเกินเวลาและคดียาเสพติดที่โรงแรมเดอะเดวิส

มติชนรายงานว่า ในระหว่างที่นายสันธนะกำลังให้สัมภาษณ์อยู่นั้น ได้หันไปชี้หน้านายชูวิทย์ ก่อนตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ดุดันว่า “มึงไปให้สุด มึงอย่าหยุด ทำต่อไป แล้วไปเจอกันในศาล หรือคุก” ก่อนจะหันมาพูดกับสื่อมวลชนว่า ที่นายชูวิทย์กล้าทำอย่างนี้เป็นเพราะมีคนชื่อแดงหนุนหลังอยู่ หากคนชื่อแดงไม่เคลียร์ตนจะเข้าไปพูดคุยเหมือนกับครั้งที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางออกจาก บช.น.ทันที

“ประชาชาติธุรกิจ” เปิดที่มารอยร้าวลากไส้ธุรกิจสีเทา ระหว่างชูวิทย์กับสันธนะ

ความบาดหมางในครั้งนี้เริ่มจากวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ได้ไปแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ ว่ามีสถานที่บันเทิงแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในโรงแรมดัง ย่านสุขุมวิท เปิดให้บริการเกินเวลา และพบข้อมูลว่ามีการมั่วสุมยาเสพติด โดยมีชื่อนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นเจ้าของโรงแรม และได้มีปากเสียงกัน ทำให้เกิดศึกสงคราม ระหว่างนักแฉกับนักแฉ

ต่อมาชูวิทย์บอกว่า “ชนเป็นชน เพราะเครื่องติดแล้ว” นั่นทำให้ทั้งคู่ต่างแจ้งความกันในคดีต่าง ๆ อย่างมากมาย ทำให้ทุกครั้งที่เจอกัน นายชูวิทย์จึงตั้งใจจะเดินไปมีเรื่องกับนายสันธนะ ทุกครั้งที่เจอกันต่างฝ่ายต่างไม่มีใครกลัวกัน และไม่รู้ว่าศึกครั้งนี้จะจบลงอย่างไร

ชูวิทย์กับสันธนะมีโอกาศถ่ายรูปคู่กัน จากรายการข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ช่วง “ชูวิทย์มีเรื่องเล่า” โดยนายชูวิทย์มีโอกาสไปสัมภาษณ์กับ “ปู” พรรณี ประยูรรัตน์ ภรรยาของนายสันธนะ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 โดยเผยว่า พ.ต.ท.สันธนะเป็นแฟมิลี่แมน รักเมีย รักลูก สามีเป็นลูกคนกลางจากพี่น้องทั้งหมด 6 คน เธอพูดถึงสามีว่า “เขาเป็นคนจิตใจดี ที่เห็นอย่างนั้นนะ แต่ที่จริงเป็นคนมีเมตตาให้เงินคนจน จนดิฉันบ่น ขี้สงสารคน”

เป็นอีกมุมหนึ่งจากภรรยา ผู้หญิงที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.สันธนะที่สุด