กทม. ชวนปิดไฟ 1 ชั่วโมง ลดโลกร้อน พร้อมเมืองใหญ่ทั่วโลก เสาร์นี้

กทม. ชวนปิดไฟ 1 ชั่วโมง
ภาพจาก PIXABAY

กทม. ชวนปิดไฟ 1 ชั่วโมง ลดโลกร้อน พร้อมเมืองใหญ่ทั่วโลก เสาร์นี้ (25 มี.ค.)

วันที่ 20 มีนาคม 2566 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญต่อปัญหาภาวะโลกร้อนซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วโลก จึงได้รณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนและทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในกิจกรรมที่ดำเนินการคือกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน

โดยร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wild Fund for Nature) หรือ WWF ประเทศไทย และภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน รณรงค์ในกิจกรรมดังกล่าว ด้วยการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ร้านค้า และประชาชนลดการใช้พลังงานและปิดไฟที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟประดับ ไฟอาคาร ป้ายโฆษณา การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน ลดการใช้เครื่องปรับอากาศในอาคารบ้านเรือน เป็นเวลา 1 ชั่วโมง

พร้อมกับเมืองต่าง ๆ กว่า 7,000 เมือง 190 ประเทศทั่วโลก ระหว่างเวลา 20.30-21.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนมีนาคมของทุกปีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2551 ผลจากการจัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour)” ในปี 2565 ในพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ 78 เมกะวัตต์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวการปัญหาโลกร้อนได้ 20 ตัน

และคิดเป็นมูลค่า 176,172 บาท และจากการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2551-2565 สามารถลดกระแสไฟฟ้าได้ 22,476 เมกะวัตต์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวการปัญหาโลกร้อนได้ 12,255 ตัน คิดเป็นมูลค่า 81 ล้านบาท

กทม. ชวนปิดไฟ 1 ชั่วโมง
ภาพจากเพจ กรุงเทพมหานคร

สำหรับปี 2566 WWF กำหนดให้การจัดกิจกรรมปิดไฟ ตรงกับวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม โดยในปีนี้กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) สถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ERI) องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) และภาคีเครือข่าย ภายใต้การดำเนินงานโครงการพลังงานสะอาดเข้าถึงได้และมั่นคง

สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Clean, Affordable and Secure Energy for Southeast Asia : CASE) จัดงาน “Energy เอเนอร์จิ้น : จินตนาการเพื่อพลังงานที่เป็นมิตรต่อชีวิตและโลก” ในวันที่ 25-26 มีนาคม 2566 ระหว่างเวลา 16.30-21.30 น. ณ บริเวณลานด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน

โดยมีกิจกรรมส่งเสริมลดการใช้พลังงานหลากหลายรูปแบบ อาทิ ฟังทอล์ก เดินดูบูท และเยี่ยมชมนิทรรศการ เพื่อ “ร่วมจินตนาการ…เปลี่ยนผ่านพลังงานในรุ่นเรา” อีกทั้งร่วมฟังเวทีเสวนานโยบายด้านพลังงาน และมาร่วมปิดไฟที่ไม่จำเป็น ในกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2023)

กิจกรรมในวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม เริ่มตั้งแต่เวลา 16.30 น. ผู้ร่วมงานจะได้รับฟัง Talk จากเวที “The Ener จิ้น’s Talk : เป้าหมาย Net Zero…สู่อนาคตพลังงานสะอาด” เพื่อเปิดมุมมองเรื่องการใช้พลังงานในเมือง และเปิดไอเดียภูมิทัศน์ของเทคโนโลยีพลังงานปัจจุบัน การเสวนา “เปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างไรให้เป็นธรรม” จัดโดย บริษัท ป่าสาละ จำกัด

เพื่อเสนอกลไกและหาทางออกด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรมและให้สังคมได้ประโยชน์ร่วมกัน และปิดท้ายด้วยกิจกรรม “Earth Hour : ปิดเพื่อเปลี่ยน…สู่อนาคตพลังงานสะอาด” ในกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2023)” เวลา 20.30-21.30 น. โดยระหว่างการปิดไฟ รับฟังทอล์กเปลี่ยนความเข้าใจผิดเรื่องการประหยัดพลังงาน

กทม. ชวนปิดไฟ 1 ชั่วโมง
ภาพจากเพจ กรุงเทพมหานคร

โดย รศ.ดร.แนบบุญ หุนเจริญ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะมีการแสดงดนตรี และโชว์การแสดงหุ่นเงา โดยกลุ่ม Mommy Puppet ในเรื่องการเดินทางสู่อนาคตด้านพลังงาน ก่อนการรายงานผลการปิดไฟจากการไฟฟ้านครหลวง

สำหรับจุดปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ ประกอบด้วย 5 สถานที่หลัก ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง  วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เสาชิงช้า สะพานพระราม 8 และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง)

นอกจากนี้ สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ได้รณรงค์เชิญชวนผู้ประกอบการ เจ้าของอาคาร สถานที่ อาทิ เอ็มควอเทียร์ ดิ เอ็มโพเรียม เซ็นทรัลเวิลด์ และห้างสรรพสินค้าเครือเซ็นทรัล ไอคอนสยาม ไบเทค บางนา อาคารการไฟฟ้านครหลวง (บางนา) เทอร์มินอล 21 อาคารปูนซิเมนต์ไทย เกทเวย์@บางชื่อ อาคารใบหยก โรงแรมเดอะสุโกศล แฟชั่นไอส์แลนด์ พาราไดซ์พาร์ค อาคารทิปโก้ ฯลฯ ร่วมปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ และยังมีอาคารบ้านเรือนในถนนมากกว่า 100 สาย พร้อมใจกันร่วมปิดไฟที่ไม่ใช้งาน ลดใช้พลังงานในวันดังกล่าวด้วย

ส่วนวันที่ 26 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 16.30 น. ผู้เข้าร่วมจะได้รับฟังทอล์กจากเวที “The Ener จิ้น’s Talk : การเปลี่ยนผ่านพลังงานบนความต้องการของประชาชน” รวมไปถึงการนำเสนองานวิจัยผ่านบทสนทนาในเวที “Energy Conversation : เส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดของประเทศไทย” ปิดท้ายด้วยเสวนาพรรคการเมือง “ชวนพรรคร่วมคิด : ให้พลังงานเป็นมิตรต่อโลก ไปกับความต้องการของประชาชน”

กทม. ชวนปิดไฟ 1 ชั่วโมง
ภาพจากเพจ กรุงเทพมหานคร

ซึ่งทั้ง 2 วันของการจัดงาน จะมีการออกบูทของเครือข่ายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เช่น Muvmi, Ari around, Flo ไอศกรีมไข่ผำ, สินค้ารักษ์โลก บูทนิทรรศการ “ร่วมจินตนาการ…เปลี่ยนผ่านพลังงานในรุ่นเรา” และบูทคัดแยกขยะของสำนักสิ่งแวดล้อม รวมถึงนิทรรศการจากเครือข่ายองค์กรที่ทำงานด้านพลังงาน และภายในงานจะมีกิจกรรมที่สามารถร่วมสนุกลุ้นรับของที่ระลึกตลอดงาน

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวในตอนท้ายว่า กรุงเทพมหานครขอเชิญชวนทุกภาคส่วนและพี่น้องประชาชน ทั้งที่อยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้ร่วมกันแสดงพลังลดภาวะโลกร้อน โดยพร้อมใจกันปิดไฟที่ไม่ใช้งานเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2566 ตั้งแต่ 2 ทุ่มครึ่ง ถึง 3 ทุ่มครึ่ง พร้อมกับนานาประเทศทั่วโลก และเชิญชวนร่วมแชร์การมีส่วนร่วมกิจกรรม

ด้วยการติดแฮชแท็ก คำว่า #EarthHour หรือ #BiggestHourForEarth หรือ #ShapeOurFuture หรือ #อนาคตเราสร้างได้  ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องช่วยกันโอบกอดโลกด้วยความรัก เพราะโลกคือ “บ้าน” หลังเดียวของเราทุกคน มาร่วมกันเปลี่ยนโลกในวันนี้ เพื่อโลกของเรา เพื่อลูกหลานของเราในอนาคต