1 ปี “ทีมชัชชาติ” ใน กทม. คลอดงบประมาณฐานศูนย์ 9 หมื่นล้าน

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ข่าวล่ามาเร็ว เก็บตกจากที่ประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.) ครั้งที่ 12/2566 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา

ไฮไลต์อยู่ที่วาระประชุมว่าด้วยงบประมาณกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2567 วงเงินรวม 90,000 ล้านบาท รูปแบบทำเป็นงบประมาณแบบสมดุล และแน่นอนว่าในส่วนของงบประมาณรายจ่ายเป็นโครงการหลากหลายด้าน ทั้งเส้นเลือดฝอยและเส้นเลือดใหญ่

ปีแรกใช้ Zero Based Budgeting

โดย “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าราชการ กทม. คนที่ 17 ระบุว่า งบประมาณ กทม.ปี 2567 ถือเป็นปีแรกที่มีการ “รื้อสร้าง” ภายใต้นโยบาย Zero Based Budgeting-งบประมาณแบบฐานศูนย์ ด้วยการปรับทุกอย่างให้เป็นศูนย์ก่อน จากนั้น กทม.นำโครงการเก่ามาพิจารณาว่าคุ้มหรือไม่ที่จะไปต่อ ถ้าไม่คุ้มหรือไม่จำเป็นก็จะไม่นำโครงการเดิมมาทำ

               

แนวคิดนี้มุ่งหวังให้ กทม.สามารถใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องนำเข้าสภากรุงเทพมหานครอีกครั้งหนึ่ง

“จากที่ได้ติดตามอ่าน MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แม้ว่าขณะนี้ยังไม่ทราบว่าสุดท้ายใครจะเป็นรัฐบาล แต่เบื้องต้น นโยบายในหลาย ๆ ด้านของ กทม. และสิ่งที่เราดำเนินการอยู่นั้นมีความสอดคล้องกับ MOU ดังกล่าว ทั้งในแง่ความโปร่งใสซึ่งเป็นหัวใจในการทำงาน การใช้เทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงกระบวนการให้ดีขึ้น การทำ Zero Based Budgeting เป็นต้น อย่างไรก็ดี เราสามารถทำงานร่วมกับทุกคนได้ เพราะเราเป็นหน่วยงานท้องถิ่นซึ่งต้องทำตามรัฐบาลกลางอยู่แล้ว”

ส่งการบ้านรัฐบาลใหม่

ทั้งนี้ กทม.มีนโยบายหลายเรื่องที่เตรียมเสนอรัฐบาลใหม่ เช่น ปัญหาฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 ต้องลงมืออย่างใกล้ชิด โดยนำแผนแห่งชาติขึ้นมาพิจารณาใช้อย่างจริงจัง ต้องทำงานข้ามหน่วยงาน เช่น กรมการขนส่งทางบก ฯลฯ,

Advertisement

ยังมีแนวคิดย้ายท่าเรือคลองเตยในอนาคต, การนำพื้นที่สาธารณะ เช่น ใต้ทางด่วน/ทางรถไฟ มาทำเป็นลานกีฬา ปลูกต้นไม้

การนำพื้นที่ส่วนราชการในกรุงเทพฯ มาทำสวนสาธารณะเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว การบริหารจัดการขนส่งมวลชน ขนส่งสาธารณะในเมือง ตลอดจนเรื่องค่าครองชีพ

216 นโยบายเส้นเลือดฝอย

สำหรับการทำงานเกือบ 1 ปีของทีมชัชชาติ นโยบายที่พูดถึงโดยตลอดคือเส้นเลือดฝอย เพราะเชื่อว่าเมืองกรุงเทพฯ จะดีได้ต้องเริ่มที่โครงการเส้นเลือดฝอยลงไปยังชุมชน ซึ่งต้องร่วมไปกับโครงการเส้นเลือดใหญ่ จึงจะสามารถทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นได้

ผลงานนโยบายเส้นเลือดฝอยเริ่มจาก การรับข้อร้องเรียนผ่านแอป “Traffy Fondue” เมื่อนำแอปนี้มาใช้ จึงเป็นการเปลี่ยนวิธีคิด ทำให้ข้าราชการไม่ต้องมาสนใจผู้ว่าฯ ให้สนใจแค่การบริการประชาชน การเอาใจใส่ประชาชน เพราะผู้ว่าฯ เองก็ใส่ใจการให้บริการประชาชนมากกว่าเช่นกัน

Advertisement

ปัจจุบันมีเรื่องแจ้งมาทั้งหมด 285,771 เรื่อง แก้ไขแล้วเสร็จ 206,844 เรื่อง เป็นของหน่วยงานอื่น 61,870 เรื่อง กำลังดำเนินการอยู่ 8,911 เรื่อง ถือเป็นการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นได้อย่างไร้รอยต่อ เป็นการทลายไซโล (SILO) ที่เคยเป็นแบบต่างคนต่างทำ

โดย กทม.มีการขยายผลใช้ Traffy Fondue เป็นช่องทางรับแจ้งเบาะแสปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งก็เริ่มเห็นผลแล้ว โดยมีคณะกรรมการ/คณะทำงานที่ลงไปดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเข้มข้น เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส “…เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องหนึ่งที่เราคิดว่าทำได้ดี”

สำหรับเส้นเลือดฝอย 216 นโยบาย ได้เริ่มไปแล้ว 190 กว่าเรื่อง อีก 20 เรื่อง กำลังทบทวนว่าเป็นสิ่งที่ทันสมัยหรือไม่ ยังจำเป็นหรือไม่

หลายโครงการที่ได้ดำเนินการไปอาจจะเห็นไม่ชัด แต่แฝงอยู่ในชีวิตของประชาชน เช่น การขุดลอกท่อระบายน้ำ/คูคลอง ปรับระบบการศึกษา เปลี่ยนหลอดไฟดับ เปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอด LED เป็นต้น เพื่อทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ยังมีหลาย ๆ โครงการได้งบประมาณมา ทั้งการปรับปรุงทางเท้า นำสายสื่อสารลงดิน ต่อไปก็จะเริ่มเห็นชัดเจนขึ้น

ติดตั้งถังแดงรับมือไฟไหม้

หนึ่งในปัญหาใหญ่คืออัคคีภัย “ชัชชาติ” กล่าวถึงแนวทางป้องกันเหตุเพลิงไหม้ว่า จากการติดตามเหตุเพลิงไหม้ที่วุฒากาศ 18 พื้นที่เป็นอาคารไม้ มีห้องเช่าไฟไหม้ 31 ห้อง ทีมดับเพลิงเข้าถึงพื้นที่ภายใน 5 นาที น้ำดับเพลิงหัวแดงก็ทำงานได้ แต่เนื่องจากเป็นอาคารไม้ทำให้ไฟลามอย่างรวดเร็ว

บทเรียนจากเหตุครั้งนี้ ต้องพัฒนาเรื่องถังแดง และการเข้าเผชิญเหตุนาทีแรกให้เร็วขึ้นอีก

กทม.ถอดบทเรียนจากผู้ประสบภัยสูงวัยรายหนึ่งที่เกือบถูกไฟคลอกตาย เพราะอยู่บนห้องคนเดียวโดยล็อกประตูเหล็กไว้ เมื่อเกิดเพลิงไหม้ไฟดับจึงมองไม่เห็น ทำกุญแจตก โชคดีที่หยิบกุญแจขึ้นมาไขได้ทัน จึงขอฝากทุกคนด้วยว่า ในกรณีฉุกเฉินต้องมีการติดไฟฉายไว้ในที่ที่หยิบได้สะดวก กุญแจต้องหยิบได้ง่าย โดยเฉพาะตอนไฟดับ เพราะเวลาเกิดเพลิงไหม้จะมีการตัดไฟ

ในส่วนของ กทม. พยายามปรับเรื่องการช่วยเหลือด้านการดับเพลิง มีการตั้งศูนย์บรรเทาภัย รับลงทะเบียนผู้ประสบภัย จัดหาที่อยู่อาศัย และความช่วยเหลือเบื้องต้น

“พื้นที่ที่ไม่ได้จัดตั้งเป็นชุมชน แต่มีความประสงค์ถังแดง เป็นนโยบายที่เราจัดให้ได้ เพราะทุกคนก็จ่ายภาษีเหมือนกัน ต้องช่วยหมด ขณะเดียวกันก็ต้องดูเรื่องมาตรการอนุมัติให้เป็นชุมชน ซึ่งน่าจะทำให้สะดวกขึ้น เพราะมีข้อดีตรงที่เชื่อมเข้าระบบ กทม. ทำให้มีฐานข้อมูล มีอาสาสมัครและเข้าถึงความช่วยเหลือต่าง ๆ ได้มากขึ้น”

มหานครหลอดไฟ LED

ถัดมา “เอกวรัญญู อัมระปาล” โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า ความคืบหน้าการแก้ไขไฟฟ้าส่องสว่างดับและเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าเป็น LED ซึ่ง กทม.รับผิดชอบอยู่ 1 แสนกว่าดวง ได้มีการประสานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อจูนข้อมูลให้ตรงกัน ปัจจุบันสำรวจไฟฟ้าส่องสว่างทั้งสิ้น 147,566 ดวง แก้ไขแล้ว 28,014 ดวง ยังมีไฟดับอยู่ 165 ดวง

ผลการติดตั้ง LED IOT มีดังนี้ หลอดไฟ 120W จำนวน 4,419 ดวง แล้วเสร็จ 207 ดวง (ถนนพระรามที่ 4 ถนนอังรีดูนังต์ ซอยรางน้ำ ถนนเทิดราชัน) 150W 746 ดวง แล้วเสร็จ 746 ดวง (ถนนพระรามที่ 4 ถนนราชวิถี ถนนราชปรารภ ถนนราชดำริ ถนนเพลินจิต ถนนนวมินทร์ ถนนบางขุนเทียนชายทะเล ถนนนิมิตใหม่ ถนนรัชดา) และ 50W 20,000 ดวง แล้วเสร็จ 4,434 ดวง
การติดตั้งโคมไฟริมคลองแสนแสบ 1,285 โคม อยู่ระหว่างดำเนินการ 1,134 โคม แล้วเสร็จ 151 โคม ส่วนจุดโคมไฟริมคลองบางลำพู 208 โคม อยู่ระหว่างดำเนินการ 70 โคม แล้วเสร็จ 138 โคม

คนกรุงแห่เลือกตั้ง 73.96%

โฆษก กทม.รายงานผลการเลือกตั้ง ซึ่งจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4,479,599 คน มาใช้สิทธิ 3,312,916 คน คิดเป็น 73.96% เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ประชาชนกรุงเทพฯ ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิมากกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา
สถิติเขตเลือกตั้งที่มีผู้มาใช้สิทธิมากที่สุด ได้แก่ เขตเลือกตั้งที่ 31 “เขตทวีวัฒนา เขตตลิ่งชัน (ยกเว้นแขวงบางเชือกหนัง)” 77.78% มีบัตรเสีย 1.45%

ผลนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. กทม. แบบบัญชีรายชื่ออย่างไม่เป็นทางการ เรียง 3 ลำดับแรก 1. พรรคก้าวไกล 1,600,689 คะแนน 2. พรรครวมไทยสร้างชาติ 630,997 คะแนน 3. พรรคเพื่อไทย 600,267 คะแนน โดยต้องรอทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันอีกครั้ง

ทั้งนี้ กทม.สรุปบทเรียนเพื่อให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปราบรื่นมากที่สุด เช่น พัฒนาหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าให้ดีขึ้น ติดตั้งกล้อง CCTV ห้องเก็บหีบบัตรเลือกตั้งเพื่อความโปร่งใส โดยให้มีความพร้อมระบบสำรองไฟ เป็นต้น