
บอร์ดการรถไฟฯ เคาะหั่นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีแดง เหลือ 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาล เตรียมเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อ สัปดาห์หน้า คาดผู้ใช้เพิ่มขึ้นสูงสุด 5-20% รัฐชดเชยปีละ 80 ล้านบาท
วันที่ 21 กันยายน 2566 มติชน รายงานว่า นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติดำเนินการตามนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล สำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต
เบื้องต้นจะเสนอเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงคมนาคม พิจารณาในสัปดาห์หน้า ซึ่งตามขั้นตอนในการขอปรับค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 20 บาทนั้น จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ตามมาตรา 27 ที่ระบุว่า หากหน่วยงานมีมาตรการหรือโครงการใด ๆ ที่กระทบต่อรายได้ขององค์กร สามารถดำเนินการได้ ซึ่งจะต้องกำหนดแผนหรืองบประมาณที่ใช้จ่าย รวมทั้งระยะเวลาดำเนินการ และประโยชน์ที่จะได้รับด้วย
นายนิรุฒกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หากกระทรวงทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบแล้ว จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ซึ่งในส่วนของขั้นตอนการตรวจสอบทางการเงิน ตามมาตรา 27 จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง โดยคาดว่าการปรับค่าโดยสารในครั้งนี้จะทันกับนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนแน่นอน
“หลังจาก ครม.อนุมัตินโยบายดังกล่าวแล้ว ร.ฟ.ท.จะต้องหารือกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และธนาคารกรุงไทย เพื่อปรับปรุงระบบซอฟต์แวร์ของรถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ ให้สามารถเชื่อมถึงกันได้ แต่จะแล้วเสร็จเมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ปรับปรุงระบบ ซึ่งในครั้งนี้คือธนาคารกรุงไทย” นายนิรุฒกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษานโยบายดังกล่าว พบว่า ร.ฟ.ท.จะสูญเสียรายได้ และรัฐต้องสนับสนุนเงินชดเชยประมาณ 80 ล้านบาทต่อปี แต่การลดค่าโดยสารนั้น จะช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประชาชนให้หันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 5-20% ต่อปี ซึ่งจะมีผลทำให้รายได้ของ ร.ฟ.ท.เพิ่มขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรถไฟชานเมืองสายสีแดงมีผู้โดยสารใช้บริการอยู่ที่ 2 หมื่นคนต่อวัน