เปิดศูนย์ดูแลจิตใจในพารากอน หลังเกิดเหตุบุกยิง พบเครียดมาก 9 คน

Care D+ Space พารากอน
ภาพจาก ข่าวสด

กระทรวงสาธารณสุข เปิด Care D+ Space ดูแลจิตใจหลังเกิดเหตุบุกยิงที่สยามพารากอน พบผู้รับบริการ เครียดมาก 9 คน

วันที่ 5 ตุลาคม 2566 ข่าวสด รายงานว่า ที่ Tourist Service Center ศูนย์การค้าสยามพารากอน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. และ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดศูนย์ดูแลเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ Care D+ Space จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญภายในพารากอน

ซึ่งมีการตั้งบูทการดูแลสุขภาพจิต โดยทีมสหวิชาชีพจากกรมสุขภาพจิต มีการคัดกรองสุขภาพจิตผ่านช่องทางดิจิทัล การให้บริการประเมินตนเองด้วยเครื่อง Biofeedback และการให้คำปรึกษาแนะนำดูแลสุขภาพจิตเบื้องต้น โดย นพ.ชลน่านได้ลองเข้าประเมิน Biofeedback พบว่า มีความเครียดทางกายเล็กน้อย ไม่มีความเครียดทางจิตใจ สามารถจัดการกับความเครียดได้ดี

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์เหนือความคาดหมาย มีการทำร้าย มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ กรมสุขภาพจิตมีทีมเยียวยาจิตใจ (MCATT) เข้ามาประเมินสภาพจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด เพื่อรักษาบาดแผลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยสยามพารากอนให้ใช้ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวให้เป็นพื้นที่ให้บริการของ Care D+ Space นอกจากนี้ ยังทำคิวอาร์โคดให้สแกน เพื่อเข้ารับการประเมินได้ หรือสื่อสารผ่านโทรศัพท์ 1667

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ย้ำว่าจุดนี้ไม่ใช่ศูนย์บำบัดด้านจิตเวช แต่เป็นศูนย์เยียวยาด้านจิตใจ เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาคนประสบเหตุ ซึ่งขั้นตอนการรับบริการจะมีให้ประเมินระดับความรุนแรงของความเครียด มี Biofeedback ซึ่งเป็นเครื่องวัดที่บอกสภาวะจิตใจและร่างกายได้ โดยใช้นิ้วมือเข้าไป ใช้เวลา 2 นาที เครื่องอ่านออกมา จากการหลั่งสารในร่างกาย

ADVERTISMENT

ซึ่งบอกลึกถึงขนาดเรามีสภาวะมองตัวเองอย่างไร ควบคุมสติ สมาธิตอบสนองต่อสิ่งเร้า ลักษณะเส้นเลือดเป็นอย่างไร ตีบ หนา แข็งหรือไม่ เป็นต้น จากนั้นจะส่งเข้าสู่นักให้คำปรึกษาแนะนำ ถ้ามีความจำเป็นเจอผู้เชี่ยวชาญ ก็มีจิตแพทย์สื่อสารทางเทเลเมดิซีน

“เราทำมา 2 วันแล้ว ตั้งแต่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยวันแรกมีผู้รับบริการ 23 คน เครียดมาก 9 คน ทุกรายรับการเยียวยาแนะนำ ซึ่งจากนี้จะเปิดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ศูนย์นี้ยังให้บริการชาวต่างชาติได้ เรามีบุคลากรที่สามารถพูดคุยสื่อสารได้ด้วย”

ADVERTISMENT

สำหรับสถิติในช่วงวันที่ผ่านมา พบว่า มีผู้เข้ารับการประเมินแล้วทั้งสิ้น จำนวน 23 ราย มีความเสี่ยงสูงจำนวน 9 ราย มีความเสี่ยงปานกลางจำนวน 11 ราย และมีความเสี่ยงต่ำ จำนวน 1 ราย ซึ่งทุกท่านได้รับคำแนะนำให้คำปรึกษาการดูแลเยียวยาจิตใจ หรือการปฐมพยาบาลทางใจเบื้องต้น (Psychological First Aid : PFA) และการติดตามดูแลต่อเนื่อง

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า การดูแลทางจิตสำคัญ เราพร้อมเป็นเพื่อน ให้คำปรึกษาแนะนำคนรับผลกระทบ ให้กำลังใจทุกคนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนไทยที่รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ถ้าช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น ความเชื่อมั่นจะกลับมาเร็ว ผลกระทบจะลดน้อยลงโดยเฉพาะมิติทางเศรษฐกิจ ช่วยกันดูแลมิติทางสุขภาพ โดยเฉพาะฐานเล็กที่สุดคือครอบครัว

เมื่อถามถึงกรณีมีการบอกว่าผู้ก่อเหตุติดเกม จะมีการดำเนินการเพื่อป้องกันการหมกมุ่นติดเกมอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในเชิงนโยบายเราเห็นเรื่องนี้สำคัญ จึงมีนโยบายเกี่ยวกับสุขภาพจิตและยาเสพติด ประกาศเป็น Quick Win อย่าง Mental Health Anywhere ตรวจสุขภาพกายหรือจิต คิดว่ามีความเครียด มีปัญหาด้านสุขภาพจิต สามารถเข้าถึงแหล่งให้ความรู้คำปรึกษาได้ เรามีนโยบายตรงนี้

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า อย่างวันนี้เรามีการสแกนคิวอาร์โคด ต่อสายพูดคุยได้ จะมีแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ แชตคุยกัน เพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นก่อน สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือ มีสภาวะด้านจิตและสติปัญญาดี อย่างกลุ่มเด็ก เราประสานโรงเรียน มหาวิทยาลัย เพื่อให้เขารู้ตัวเอง มีวิธีการตัดสินต่อการตอบสนองต่าง ๆ ได้

ด้าน พญ.อัมพร กล่าวว่า งานสุขภาพจิตโรงเรียน เราไม่ได้แค่เข้าไปคัดกรอง ส่งต่อ แต่ต้องดูแลพฤติกรรมการเสพติดปัญหาต่าง ๆ ส่วนการติดเกมไม่ว่าเกี่ยวข้องกับรายนี้หรือไม่ แต่ปัญหาพฤติกรรมเด็กและวัยรุ่น สังคมต้องให้ความสนใจ เป็นอีกหนึ่งงานสำคัญของกรมสุขภาพจิตต่อไป

ซึ่งการติดเกมเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพจิต เนื่องจากเป็นการหมกมุ่นกับกิจกรรมนั้น จนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน พักผ่อน คบหาเพื่อนฝูง ทักษะทางสังคม สัมพันธภาพในครอบครัว ถือเป็นปัญหาสุขภาพจิต แม้ไม่ใช่โรคทางจิตเวชก็ตาม

พญ.อัมพร กล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องห่วงพิเศษ คือ กลุ่มที่เกี่ยวกับความรุนแรง เกมที่มีความรุนแรง สิ่งที่อยู่ในกระแสโซเชียลที่มีความรุนแรง เป็นสิ่งที่พวกเราต้องจำกัดและกำจัดออกไปจากสังคมให้เหลือน้อยที่สุด

อีกสิ่งคือเวลาเหตุเกิดบ่อยครั้ง มีการสื่อสารรายละเอียดการก่อเหตุหรือผู้ก่อเหตุเกินเหมาะสม แต่ละครั้งที่เกิดความรุนแรงเป็นไปได้ไหมว่า ผู้ก่อเหตุเลียนแบบจากครั้งที่ผ่านมา แล้วมาเกิดครั้งนี้ครั้งหน้า ผู้ก่อเหตุไม่ควรมีพื้นที่ยืนในพื้นที่ข่าว ไม่ควรแตะตรงนั้น ควรไปที่การป้องกันเหตุการณ์และคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นแทน

เปิดจุดบริการ 7 วัน ก่อนประเมินผลการดูแล

นพ.ศรุตพันธุ์ จักรพันธุ์ ณ อยุธยา ผอ.สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า Care D+ Space หรือฟื้นฟูจิตใจหลังภยันตราย เป็นความร่วมมือระหว่าง สธ. กทม. และสยามพารากอน การให้บริการจะแบ่งออกเป็นจุด ๆ ได้แก่ สถานีแรกเป็นจุดลงทะเบียน จะมีให้สแกนคิวอาร์โคกเพื่อทำการประเมินความเครียดด้วยตนเอง ว่าความเครียดอยู่ระดับใด น้อย กลาง หรือมาก

นพ.ศรุตพันธ์ กล่าวอีกว่า สถานีที่สองจะเป็นสถานีเช็กอินเปิดโอพีดีการ์ด ซึ่งจริง ๆ ไม่ว่าประเมินแล้วเครียดหรือไม่เครียดก็มาจุดนี้ได้ เพราะจะมีนักวิชาชีพ ทั้งนักวิชาการสาธารณสุขและพยาบยาลช่วยประเมินอีกครั้งว่าระดับเครียดอยู่ระดับใด หากมีความเครียดน้อยก็มีสถานีที่ 3 จะมีโปรแกรมกระตุ้น คือ เซียมซีความสุข เป็นกลเม็ดสร้างความสุข

นพ.ศรุตพันธ์ กล่าวต่อว่า ถ้าเครียดกลางถึงมากมาสถานีที่ 4 พบนักจิตวิทยา พยาบาลจิตเวช เราจะมีเครื่อง Biofeedback ในการประเมินด้วย จะบอกว่าเครียดระดับไหนและส่งเข้าปรึกษา มีทั้งนักจิตวิทยา และมีการเทเลเมดิซีนกับแพทย์ที่สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา

บางช่วงจะมีแพทย์มาประจำ และมียาเบื้องต้นสำหรับออกหน่วย เช่น ยาคลายเครียด ยานอนหลับ ทั้งทั้งหมดจะมีการติดตาม เนื่อจากโรคเครียดหลังเผชิญเหตุอันตราย อาจอยู่ได้ 1-2 สัปดาห์ ถ้าเกิน 1 เดือนจะเป็นโรค PTSD ก็จะมีการติดตาม

“เท่าที่เจอตอนนี้มีเข้ามาประมาณ 30 กว่าเคสที่มีความเครียด ส่วนใหญ่จะเป็นเครียดน้อย มีเครียดมากประมาณ 10 ราย ส่วนใหญ่จะมีโรคเก่า หรือเห็นเหตุการณ์ตรงนั้น ส่วนใหญ่เป็นพนักงานห้างที่หลบอยู่ตรงนั้น เรามีคิวอาร์โคดให้สแกนที่เราสามารถโทร.กลับได้”

นพ.ศรุตพันธุ์ กล่าวต่อว่า วันหนึ่งมีคนเข้าออกห้างนี้กว่าแสนคน ช่วงเวลาเกิดเหตุก็หลายคน จุดนี้เราสามารถรองรับ 40-50 คนต่อวัน และจะเปิดประมาณ 7 วัน คือวันที่ 5-11 ต.ค. 2566 แล้วประเมินผลอีกที เพราะโดยเฉลี่ยโรคจะหนัก ๆ ใน 7 วันแรก ถ้ามีก็มาปรึกษาก่อน เราก็จะแนะนำรักษา

นพ.ศรุตพันธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับคนที่มีอาการมาก เราจะมาดูว่าเป็นโรคอะไร และให้การรักษา ถ้าเครียดจากเหตุการณ์ก้ให้รู้จักผ่อนคลาย เพราะส่วนใหญ่จะกลัว นอนไม่กลับ ก็จะช่วยให้หายกลัว อยู่ในที่ปลอดภัย มีกิจกรรมที่ทำที่ชอบไม่ให้วนเวียนอยู่กับความกลัว เราจะมีการติดตามต่อเนื่องแต่ละสัปดาห์จนถึง 1 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่ 1-2 สัปดาห์จะจบไม่มีปัญหา หากเกิน 1 เดือนจะไม่ดี มีความเสี่ยงสูง

นพ.ศรุตพันธุ์ กล่าวต่อว่า เราเป็นหน่วยเบื้องต้น ถ้าเรารักษา 7-10 วันไม่ดี เราจะให้ไปรักษาใกล้บ้าน เราจะแนะนำว่ามีตรงไหนใกล้ สำหรับภาพรวมสถานการณ์ถือว่าดี เพราะน้อยกว่าโคราช ความรุนแรงต่างกัน และคนที่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์แต่อยากรับบริการก็เข้ามาได้เช่นกัน