สปสช.อนุมัติ Telemedicine ดูแลคนไทยสิทธิบัตรทองในต่างประเทศ

Telemedicine แพทย์ทางไกล

บอร์ด สปสช. อนุมัติบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ดูแลคนไทยสิทธิบัตรทองที่อาศัยหรือเดินทางในต่างประเทศ เริ่ม 15  มกราคม 2567 ให้บริการเฉพาะคำปรึกษาสุขภาพเท่านั้น ไม่รองรับการส่งยา เนื่องจากติดข้อกฎหมาย

วันที่ 8 มกราคม 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บอร์ด สปสช. ได้มีมติรับทราบ “แนวทางการจัดระบบบริการเพื่อดูแลคนไทยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ในต่างประเทศ ผ่านระบบบริการการแพทย์ทางไกล” เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2567 ให้กับประชาชนชาวไทยที่อาศัย หรือต้องเดินทางไปต่างประเทศ

มอบสิทธิประโยชน์นวัตกรรมบริการที่ช่วยเพิ่มการเข้ารับบริการให้ประชาชน อย่างสิทธิประโยชน์บริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ในกรณีที่ผู้มีสิทธิบัตรทองมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย (common illness) สามารถรับบริการการแพทย์ทางไกลผ่านแอปพลิเคชั่นด้านสุขภาพของผู้ให้บริการการแพทย์ทางไกล 4 แห่ง ที่เป็นหน่วยบริการในระบบของ สปสช.ได้ 4 แอปพลิเคชั่นที่ร่วมให้บริการกับ สปสช. ประกอบด้วย

  1. แอปพลิเคชั่น Saluber MD (ซาลูเบอร์ เอ็ม ดี) โดยสุขสบายคลินิกเวชกรรม สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี @Sooksabaiclinic ลงทะเบียนรับบริการได้ที่ https://telemed.salubermdthai.com/
  2. แอปพลิเคชั่น Clicknic (คลิกนิก) โดยคลิกนิกเฮลท์คลินิกเวชกรรม สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี @clicknic
  3. แอปพลิเคชั่น Mordee (หมอดี) โดยชีวีบริรักษ์ คลินิกเวชกรรม สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี @mordeeapp ลงทะเบียนรับบริการได้ที่ https://form.typeform.com/to/qKY8gV4X
  4. โททอลเล่เทเลเมด (Totale Telemed) โดยเดอะโททอลเล่คลินิก สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี @totale

นายคารมกล่าวว่า บริการนี้จะเป็นการพบแพทย์ผ่านระบบออนไลน์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพื่อขอรับคำปรึกษาในเรื่องสุขภาพ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยสร้างความอุ่นใจด้านสุขภาพให้กับคนไทยที่อยู่ในต่างแดนได้ ส่วนเรื่องยานั้น การส่งยาไปจากประเทศไทยยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากติดขัดในด้านกฎหมาย

ดังนั้น ผู้ให้บริการเทเลเมดิซีนอาจออกใบสรุปอาการและยาที่จำเป็นต้องใช้ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้ป่วยที่ต้องไปพบบุคลากรทางการแพทย์ในประเทศนั้น ๆ เพื่อรับการดูแลต่อไป

ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการรับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.nhso.go.th หรือ โทร.สายด่วน 1330 หรือเพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. พิมพ์ @nhso เพื่อสอบถามข้อมูล