
เผยแพร่ครั้งแรก 17 ธันวาคม 2567 | อัพเดตข้อมูล 18 ธันวาคม 2567
แอป ‘เป๋าตัง’ เพิ่มบริการใหม่ ทำใบขับขี่สากล สะดวก ง่าย ทำได้ทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง และรอรับใบขับขี่สากลได้ที่บ้าน ผ่านไปรษณีย์ ทำอย่างไร ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง รวบรวมให้แล้ว ที่นี่
ถือเป็นความสะดวกสบายอีกขั้น เมื่อ กรมการขนส่งทางบก จับมือธนาคารกรุงไทย เปิดบริการใหม่ ทำใบขับขี่สากล ผ่านแอปพลิเคชั่น ‘เป๋าตัง’ อำนวยความสะดวกให้ประชาชน สามารถขอทำใบขับขี่สากลได้ทุกที่ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานขนส่ง และรอรับที่บ้านได้ทันที
“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลน่าสนใจ ของการทำใบขับขี่สากล ผ่านแอป ‘เป๋าตัง’ ว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และมีขั้นตอน มีค่าใช้จ่ายอย่างไร
เอกสารที่ต้องใช้ ทำใบขับขี่สากล
- รูปหน้าตรง ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน แต่งกายสุภาพ สามารถสวมแว่นตาได้ ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5 MB พื้นหลังสีขาว ไม่มีเงาตกกระทบ
- พาสปอร์ตอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- ใบขับขี่อายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 3 เดือน (ไม่สามารถใช้ใบขับขี่ชั่วคราว 2 ปี)
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก ระบุว่า ผู้ขอใบขับขี่สากล ต้องได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล หรือใบอนุญาตขับถจักรยานยนต์ ส่วนบุคคลชั่วคราว มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
ขั้นตอนทำใบขับขี่สากล แอปเป๋าตัง
การเข้าเมนูเพื่อทำใบขับขี่สากล ผ่านแอปเป๋าตัง สามารถทำได้ 2 วิธี
วิธีที่ 1
- เข้าแอป ‘เป๋าตัง’ เลือก ‘บริการ’ ในแถบเมนูด้านล่าง
- กดเมนู ‘กรมการขนส่งทางบก’
- แอปจะขึ้นข้อมูลเอกสารที่ต้องใช้ กด ‘ถัดไป’
- เลือกประเภทใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (ต้องเลือกให้ตรงกับประเทศที่ไปเท่านั้น ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อประเทศ ก่อนเลือกสมัครในแต่ละประเภทได้)
- อนุสัญญาเจนีวา 1949 อายุ 1 ปี ใช้ได้ 102 ประเทศ
- อนุสัญญาเวียนนา 1968 อายุ 3 ปี ใช้ได้ 91 ประเทศ
- กรอกข้อมูลบัตรประชาชน จากนั้นสแกนใบหน้า
- อัพโหลดรูปหน้าตรงถ่ายไม่เกิน 6 เดือน (อัพโหลดได้สูงสุด 5 ครั้ง)
- ยืนยันที่อยู่จัดส่ง พร้อมชำระค่าคำขอและค่าจัดส่งผ่านแอป เป๋าตัง
- รอรับใบขับขี่สากลที่บ้าน
วิธีที่ 2
- กดเข้าจาก “Banner”
- แสดงหน้าข้อกำหนดและเงื่อนไข
- กดปุ่ม เริ่มเลย
- อ่านรายละเอียดเงื่อนไข กด ”ถัดไป”
- เลือกประเภทอนุสัญญาและตรวจสอบรายชื่อประเทศ
- กรอกรหัสหลัง บัตรประชาชน 12 หลัก กดปุ่ม “ถัดไป”
- ให้ความยินยอมสแกนใบหน้า ยินยอม/ไม่ยินยอม
- ขั้นตอนการสแกนใบหน้า เพื่อยืนยันตัวตน
- สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน
- อัพโหลดรูปภาพ
- ระบุที่อยู่จัดส่งเอกสารและเบอร์โทร.ที่สามารถติดต่อได้
- ตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องกด “ถัดไป”
- เลือกช่องทางการชำระเงิน
- ชำระเงินสำเร็จ พร้อมสามารถติดตามสถานะการดำเนินการได้
ทั้งนี้ ข้อมูลในการทำใบขับขี่สากลนั้น กรมการขนส่งทางบกได้เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างธนาคารกรุงไทย ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง และเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาใช้ในการให้บริการ ประกอบไปด้วยข้อมูลจาก กรมการปกครอง, กรมการกงสุล และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งครอบคลุมกระบวนงานทั้งหมดของการขอรับใบอนุญาต
ทำใบขับขี่สากล แอปเป๋าตัง เสียค่าใช้จ่ายเท่าไร ?
ค่าบริการทำใบขับขี่สากล ผ่านแอปเป๋าตัง จะอยู่ที่ 565 บาท ประกอบไปด้วย
- ค่าธรรมเนียมคำขอ : 500 บาท
- ค่าธรรมเนียมคำขอ : 5 บาท
- ค่าบริการจัดส่ง : 60 บาท
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทย มีการประชาสัมพันธ์ว่า ยกเว้นค่าบริการชำระเงินของธนาคาร ช่วงวันที่ 17 ธันวาคม 2567-31 ธันวาคม 2568
ทำใบขับขี่สากล แอปเป๋าตัง ตรวจสอบสถานะอย่างไร ?
- เข้าเมนูกรมการขนส่งทางบก ในแอปเป๋าตัง
- เลือกเมนู “ติดตามสถานะ”
- ระบบแสดง รายการใบอนุญาต ทั้งหมดที่จัดทำไว้
- ในแต่ละรายการ ระบบจะแสดงรายละเอียดสถานะการจัดทำใบอนุญาต
จุดเริ่มต้น ขยายบริการอิเล็กทรอนิกส์
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก จะต่อยอดกับธนาคารกรุงไทยในการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่องในทุกกระบวนงาน เช่น การต่ออายุใบอนุญาตขับรถ การชำระภาษีประจำปี เป็นต้น
ขณะที่ นายธวัชชัย ชีวานนท์ ประธานผู้บริหาร Product & Business Solutions ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประเทศที่มีการให้บริการดิจิทัลสำหรับการขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การกรอกข้อมูล การอัพโหลดรูปถ่าย การชำระค่าธรรมเนียมผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น Paotang Pay, บัญชีธนาคารกรุงไทย และ G-Wallet พร้อมบริการจัดส่งใบอนุญาต ทางไปรษณีย์ ซึ่งบริการนี้ช่วยอำนวยความสะดวก ลดความยุ่งยากในการจัดเตรียมเอกสาร ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และลดเวลาการดำเนินการ สอดรับกับนโยบายกระทรวงคมนาคมการยกระดับการให้บริการภาครัฐ
และในอนาคต ธนาคารยังมีแผนที่จะขยายบริการให้ครอบคลุม อาทิ การชำระภาษีรถยนต์ พ.ร.บ.ประกันภัย และการเชื่อมต่อกับระบบการชำระค่าปรับจราจร จนไปถึงการเชื่อมโยงระบบสาธารณสุข เพื่อรองรับการขอใบรับรองแพทย์ดิจิทัลสำหรับการต่ออายุใบอนุญาตขับรถภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น