
กรมอุตุฯเตือนภาคใต้ ตั้งแต่สุราษฎร์ธานี รับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก ช่วง 15-18 ม.ค.นี้ เฉลี่ย 50-100 มิลลิเมตร ชี้สงขลา พัทลุง ปัตตานี นราธิวาส อาจจะมากกว่านั้น คาด 150 มิลลิเมตรอาจเกิดขึ้นได้ แต่เป็นช่วงสั้น ๆ หลัง 19 ม.ค. อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น มีหมอกในตอนเช้าและร้อนขึ้นในตอนกลางวัน เตือนพี่น้องใน กทม.เตรียมรับมือฝุ่นเพิ่มขึ้น
รายการคุยรอบด้านกับงานกรมอุตุนิยมวิทยาวันนี้ เมื่อเวลา 12.00 น. วิทยากร : สมควร ต้นจาน ผอ.กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา และผู้ดำเนินรายการ : ชนานันท์ จั่นเทศ โดยกรมอุตุนิยมโพสต์แจ้งเตือนในเพจก่อนเข้ารายการว่า “เตรียมรับมือฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในอ่าวไทย ช่วงวันที่ 15-18 มกราคม 2568”
ผอ.สมควร เปิดเผยว่าช่วงนี้อากาศจะมีการเปลี่ยนแปลง ช่วงวันที่ 15-18 มกราคม 2568 จะมีมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะอากาศเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอุณหภูมิลดลงบ้าง ที่จะต้องติดตามคือกระแสลมเรื่องของมวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมา แต่ที่เราจะต้องติดตามคือ “กระแสลม” ที่เป็นมวลอากาศเย็นที่ลงมาจะทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ “ลมหนาว” แรงขึ้น
นายสมควรกล่าวว่า เมื่อลมหนาวแรงขึ้นจะทำให้ภาคใต้ของไทย โดยเฉพาะตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 15-18 มกราคม 2568 ในช่วงแรกตั้งแต่วันที่ 15-16 มกราคม 2568 หลัก ๆ จะมีฝนตกหนักในช่วงนี้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
โดยจังหวัดเหล่านี้คือพื้นที่ที่มี “ความเสี่ยง” เรื่องฝนตกหนักและอาจมีบางพื้นที่ที่จะมีฝนตกหนักมาก บริเวณจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส และบางพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและพัทลุงด้วย โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรงขึ้น ตอนบนอาจมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และห่างฝั่งอาจจะสูงมากกว่านี้ได้
“นี้คือสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังและดูประกาศแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงนี้” นายสมควรกล่าวย้ำ
พรุ่งนี้ (15 ม.ค. 68) หลัก ๆ จะเป็นเรื่องของฝนก่อนที่ลมจะแรงตามมา คือฝนกับลมจะพร้อมกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่มวลอากาศเย็นปานกลางค่อนข้างแรง ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ฝนน้อยก็จะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยจะเริ่มตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง และวันต่อ ๆ ไปก็จะเป็นจังหวัดทางภาคใต้ตอนล่างมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งฝนตกหนักนี้จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ คลื่นลมในทะเลจะแรงขึ้น โดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทย เรือเล็กอยากจะให้งดออกจากฝั่งตั้งแต่ 16-18 มกราคม 2568
ส่วนความหนักหน่วงของการกระจายของฝน นายสมควรกล่าวว่า ปริมาณฝนที่จะเกิดขึ้น ตั้งแต่สุราษฎร์ธานีถึงนครศรีธรรมราชจะอยู่ในเกณฑ์ฝนปานกลางถึงหนัก ประมาณ 50 มิลลิเมตรไปจนถึงไม่เกิน 100 มิลลิเมตร
“แต่ตั้งแต่จังหวัดสงขลา พัทลุง ปัตตานี นราธิวาส อาจจะมากกว่านั้น 150 มิลลิเมตรอาจเกิดขึ้นได้ แต่เป็นช่วงไม่นาน สั้น ๆ หนักสุดจะอยู่วันที่ 15 มกราคม และยังคงเหลืออยู่จนถึง 16-17 มกราคม 2568” นายสมควรกล่าว

ส่วนเรื่องอากาศหนาวเย็นน นายสมควรกล่าวต่อว่า ฤดูหนาวปีนี้ถือว่าสมศักดิ์ศรี หลายเพจมีการนำเสนอหรืออวดกันเรื่องอุณหภูมิที่หนาวเย็น โดยเฉพาะกรุงเทพฯที่อุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ถือว่าเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง ขณะที่ภาคเหนือ อีสานตอนนี้ยังได้สัมผัสอุณหภูมิที่หนาวถึงหนาวจัด เช่นที่จังหวัดเลยอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 6.5 องศาเซลเซียส ช่วงนี้ทางภาคเหนือ และอีสาน ยังมีอากาศหนาวเย็นอยู่ แต่ช่วงวันที่ 15-16 มกราคม 2568 นี้ อุณหภูมิจะเริ่มขยับสูงขึ้น เมื่อมวลอากาศเย็นขยับสูงขึ้นก็จะทำให้อุณหภูมิจะเริ่มเป็นขาขึ้น หรือสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในช่วงตอนกลางวัน
“ระลอกนี้ยังสัมผัสอากาศเย็นได้จนถึงวันที่ 19 มกราคม 2568 หลังจากนั้นอุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้นทั่วประเทศไทย อากาศก็จะเริ่มร้อนขึ้นค่อนข้างเร็ว และที่จะมาพร้อมกันคือเรื่องของหมอก ทำให้ภาคเหนือ ภาคอีสาน มีหมอกเพิ่มขึ้น ต้องระมัดระวังเรื่องการมองเห็น หรือทัศนวิสัยต่ำลง อาจมีหมอกหนาเกิดขึ้นหลายพื้นที่ ส่วนพี่น้องที่อยู่ใน กทม.และปริมณฑลต้องระมัดระวังเรื่องของฝุ่นที่จะตามมา เนื่องจากสภาพลมที่อ่อนลง”
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 14-18 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ม.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
