
แจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กระทรวงการคลังเคาะแล้วเริ่มแจกเงิน 27 มกราคม 2568 นี้ ใครผ่านเกณฑ์ วิธีตรวจสอบคุณสมบัติ วิธีตรวจสอบสิทธิบนแอปทางรัฐทำอย่างไร รวมถึงความคืบหน้าแจกเงินดิจิทัล เฟส 3 คืบหน้าถึงไหนแล้ว เช็กรายละเอียดทั้งหมดที่นี่
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยว่า เบื้องต้นในวันที่ 27 มกราคม 2568 นี้ รัฐบาลจะดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ผ่านโครงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” และได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว

ส่วนเหตุผลที่เป็นวันที่ 27 มกราคม 2568 เร็วขึ้นจากเดิมที่ระบุก่อนหน้าว่าเป็นวันตรุษจีนตามปฏิทิน คือวันที่ 29 มกราคม 2568 เนื่องจากวันที่ 27 มกราคม ถือว่าเป็น “วันจ่าย” ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีเงินไปจับจ่ายใช้สอยในการซื้อสินค้าเพื่อจัดเตรียม “วันไหว้” คือวันที่ 28 มกราคม 2568 และวันที่ 29 มกราคม เป็น “วันเที่ยว” ของคนไทยเชื้อสายจีน
นอกจากนี้บรรดาร้านค้า หรือบริษัทเล็ก-ใหญ่ของไทย ที่ผู้ก่อตั้งหรือมีผู้บริหารที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน มักจะนิยมแจกเงิน “โบนัส” ให้กับลูกจ้าง ลูกน้อง หรือพนักงานกันในวันตรุษจีนนี้ด้วย
สำหรับช่องทางการโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของกลุ่มเป้าหมาย ในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว รัฐจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ

เงื่อนไขผู้ได้รับเงิน 10,000 บาท เฟส 2
-ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 สำเร็จ
-มีสัญชาติไทยมีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ 15 กันยายน 2567 (เกิดก่อนหรือในวันที่ 16 กันยายน 2507)
-ไม่มีรายได้เกิน 840,000 บาท/ปี
-ไม่มีเงินฝากทุกบัญชีเกิน 500,000 บาท
-ไม่เป็นผู้อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
-ไม่เป็นผู้ต้องขัง 4 ประเภท ได้แก่ นักโทษเด็ดขาด ผู้ต้องขังระหว่าง ผู้ต้องกักขัง และผู้ต้องกักกัน ตามฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
-ไม่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ
วิธีตรวจสอบสิทธิเงิน 10,000 บาท บนแอปทางรัฐ
วิธีตรวจสอบสิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านแอปทางรัฐมีดังนี้
-เปิดแอปทางรัฐ เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย จากนั้นกดปุ่มตรวจสอบสถานะ
-ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล และขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้ท่านกดปุ่มยืนยันข้อมูล
-กรอกเบอร์โทรศัพท์และกดปุ่มรับรหัสทาง SMS (OTP)
-กรอกรหัส OTP และกดปุ่มยืนยันโทรศัพท์มือถือ
-กดปุ่มอนุญาต ให้แอปพลิเคชั่นเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
-ระบบจะแสดงผลว่า สถานะในการรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ของท่านอยู่ในขั้นตอนใด
- หากอยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ
- หากอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือท่านไม่ได้รับสิทธิ
- หากอยู่ในขั้นตอนที่ 5 คือท่านได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท
เงินดิจิทัล เฟส 3 ได้วันไหน
ส่วนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต เฟส 3 จะใช้วงเงินที่เหลืออีก 1.4 แสนล้านบาท คาดจะเริ่มช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2568 หลังจากทดสอบระบบดิจิทัลวอลเลตเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยกลุ่มนี้จะได้รับเงิน 10,000 บาท ในระบบดิจิทัลวอลเลตเท่านั้น จะไม่มีการแจกเป็นเงินสด ส่วนการลงทะเบียนในรอบกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนได้อยู่ระหว่างพิจารณา และจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ในเร็ว ๆ นี้
ก่อนหน้านี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยว่าสาเหตุที่จะทำดิจิทัลวอลเลตไม่ให้เงินสดในเฟสต่อไป เพราะต้องการให้เศรษฐกิจท่านเข้ามามีบทบาท และมีการเชื่อมต่อระหว่างประชาชนกับรัฐบาลมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เงินเยียวยาน้ำท่วม หากระบบดังกล่าวทำแล้วเสร็จจะทำให้การเชื่อมต่อประชาชนกับรัฐบาลรวดเร็วขึ้น ซึ่งเฟส 3 ก็จะเกิดขึ้นในปี 2568 อย่างแน่นอน
โดยกรมบัญชีกลางไม่แจกเป็นเงินสดผ่านพร้อมเพย์ผูกบัตรประชาชน แต่จะเป็นการจ่ายผ่านดิจิทัลวอลเลต (Digital Wallet) เพราะเราต้องใช้เอไอ เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเชื่อมรัฐบาลกับประชาชน
10,000 บาท เฟส 3 ได้บริษัทจัดทำแอปแล้ว
ทางด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำระบบดิจิทัลวอลเลต เฟส 3 เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 ว่าเสร็จประมาณเดือนมีนาคม ซึ่งในเรื่องตัวของระบบดังกล่าวไม่มีปัญหา เพราะขณะนี้ได้ตัวผู้มาดำเนินการจัดทำระบบแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อตัวบริษัทได้
ส่วนความคืบหน้าของระบบดังกล่าว นายประเสริฐมั่นใจว่าหลังจากได้ผู้ทำระบบแล้ว และขณะนี้ใกล้เสร็จแล้ว ทั้งนี้ จะมีการทดลองระบบประมาณ 1 เดือน คาดว่า 3 เดือนจะแล้วเสร็จ น่าจะประมาณช่วงเดือนมีนาคม
สามารถรองรับการใช้งานผู้ที่ลงทะเบียนในเฟส 3 กว่า 30 ล้านคนได้