ครม.เห็นชอบแก้กฎกระทรวง กำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ปรับสภาพแวดล้อมให้เข้าถึงอาคาร-สถานที่ และใช้ประโยชน์ได้อย่างเท่าเทียม
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563 ว่า ครม.เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพและคนชรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งเป็นการแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชรา พ.ศ.2548 ให้ครอบคลุมประเภทและขนาดของอาคารซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลายประเภท และกำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพและคนชรา สังคมไทย ขณะนี้มีจำนวนผู้สูงอายุประมาณ 12 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้มเป็น 20.42 ล้านคน ในปี 2583
- เช็กที่นี่ ออมสิน-ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อปิดหนี้นอกระบบ 20,000 บาท ใครกู้ได้บ้าง!
- กรุงเทพฯ กปน.หยุดจ่ายน้ำ 21 มี.ค. 18 พื้นที่ รับมือน้ำไม่ไหล เช็กที่นี่
- เร่งสายสีแดง มธ.รังสิต-มหิดล ศาลายา คอนโดฯ-บ้านเดี่ยวจ่อเปิดตัวรับเทรนด์ปีมังกร
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง คือ กำหนดให้ 1.อาคารที่ให้บริการสาธารณะ เช่น โรงมหรสพ หอประชุม โรงแรม สถานศึกษา หอสมุด อาคารประกอบของสนามกีฬากลางแจ้งหรือสนามกีฬาในร่ม
2.สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล เช่น โรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
3.อาคารที่ทำการของราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ องค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย
ต้องจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น 1.กำหนดให้มีที่จอดรถยนต์สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ ดังนี้ อาคารที่มีที่จอดรถยนต์ไม่เกิน 25 คัน ต้องมีที่จอดรถยนต์คนพิการและผู้สูงอายุ ไม่น้อยกว่า 1 คัน
อาคารที่มีที่จอดรถยนต์ตั้งแต่ 26 – 50 คัน ต้องมีที่จอดรถยนต์คนพิการและผู้สูงอายุ ไม่น้อยกว่า 2 คัน
อาคารที่มีที่จอดรถยนต์ตั้งแต่ 51 – 75 คัน ต้องมีที่จอดรถยนต์คนพิการและผู้สูงอายุ ไม่น้อยกว่า 3 คัน
อาคารที่มีที่จอดรถยนต์ตั้งแต่ 76 – 100 คัน ต้องมีที่จอดรถยนต์คนพิการและผู้สูงอายุ ไม่น้อยกว่า 4 คัน
อาคารที่มีที่จอดรถยนต์ตั้งแต่ 101 – 150 คัน ต้องมีที่จอดรถยนต์คนพิการและผู้สูงอายุ ไม่น้อยกว่า 5 คัน
อาคารที่มีที่จอดรถยนต์ตั้งแต่ 151 – 200 คัน ต้องมีที่จอดรถยนต์คนพิการและผู้สูงอายุ ไม่น้อยกว่า 6 คัน
ทั้งนี้ ที่จอดรถยนต์สำหรับคนพิการและผู้สูงอายุต้องจัดให้ใกล้ทางเข้าออกอาคารมากที่สุด มีพื้นผิวเรียบ มีระดับเสมอกันและมีสัญลักษณ์รูปคนพิการนั่งวีลแชร์ (Wheelchair) อยู่บนพื้นของที่จอดรถ
2.กำหนดให้มีทางลาด โดย 1) มีความกว้างไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร กรณีทางลาดแบบสวนกันได้ ต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร 2) มีความลาดชันไม่เกิน 1:12 และมีความยาวแต่ละช่วงไม่เกิน 9 เมตร หากทางลาดยาวเกิน 9 เมตร ต้องให้มีชานพักขนาดไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร คั่นระหว่างแต่ละช่วง 3) ทางลาดที่ไม่มีผนังกั้นให้ยกขอบสูงไม่น้อยกว่า 15 เซนติเมตร และทางลาดที่มีความยาวตั้งแต่ 1.8 เมตรขึ้นไป ต้องมีราวจับทั้งสองด้าน สำหรับทางลาดที่มีความกว้างตั้งแต่ 3 เมตรขึ้นไป ต้องมีราวจับห่างกันไม่เกิน 1.5 เมตร โดยทำจากวัสดุผิวเรียบ ลักษณะกลม มีความมั่นคงแข็งแรงและไม่เป็นอันตรายต่อการจับ
3.กำหนดให้สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องจัดให้มีห้องสุขาสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชรา ที่เข้าใช้ได้ตลอดเวลาทำการอย่างน้อย 1 ห้อง มีโถชนิดนั่งราบที่สูงจากพื้นไม่เกิน 40 เซนติเมตร มีที่ปล่อยน้ำเป็นคันโยกหรือปุ่มกดขนาดใหญ่ที่สะดวกต่อการใช้งาน
4.กำหนดให้โรงมหรสพหรือหอประชุม ต้องจัดให้มีพื้นที่สำหรับวีลแชร์ อย่างน้อย 2 ที่นั่ง ต่อจำนวนไม่เกิน 100 ที่นั่ง และเพิ่มขึ้น 1 ที่นั่ง ต่อจำนวนทุก 50 ที่นั่ง โดยต้องเป็นพื้นราบอยู่ในตำแหน่งที่เข้าออกได้สะดวก
5.กำหนดให้โรงแรม ต้องจัดให้มีห้องพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกชั้น ชั้นละไม่น้อยกว่า 1 ห้อง สำหรับโรงแรมที่เป็นอาคารชั้นเดียวต้องจัดให้มีห้องพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่น้อยกว่า 1 ห้อง ต่อจำนวนห้องพักไม่เกิน 10 ห้อง และเพิ่มขึ้นอีก 1 ห้อง ต่อจำนวนห้องพักทุก 10 ห้อง โดยต้องอยู่ใกล้บันไดหรือทางหนีไฟหรือลิฟต์ดับเพลิง และต้องมีสัญญาณเตือนภัยทั้งที่เป็นเสียง แสง และระบบสั่น
6.กำหนดให้อาคารชุด หอพัก อาคารอยู่อาศัยรวม ต้องจัดสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณพื้นที่ส่วนกลางตลอดจนพื้นที่บริการสาธารณะ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร นอกจากนี้ ศาสนสถานหรือฌาปนสถานอย่างน้อยต้องมีทางลาดหรือลิฟต์หรืออุปกรณ์ขึ้นลงทางลาดที่ทุกคนสามารถเข้าใช้ได้สะดวก
น.ส.รัชดากล่าวว่า ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปรับสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของคนพิการและผู้สูงอายุ ให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ในอาคาร สถานที่ และบริการต่างๆ รวมทั้งมีส่วนร่วมกิจกรรมในสังคม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและเสริมสร้างให้คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำให้สามารถเข้าถึงบริการของรัฐอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม