ศบค.คุมเข้มนักท่องเที่ยว จ่อเปิดด่านทางบก เข้า-ออกไทย 24 ธ.ค.

ศบค.
ภาพจากเว็บไซต์ ทำเนียบรัฐบาล

ศบค. เผยครึ่งเดือนธันวาคม นักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น คุมเข้มมาตรการสกัดโอไมครอน เตรียมลงพื้นที่หลักจัดงานปีใหม่ จ่อเปิดด่านหนองคาย เข้าและออกประเทศไทยช่องทางบกแห่งแรก 24 ธ.ค.

วันที่ 17 ธันวาคม 2564 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ 3,537 ราย หายป่วยแล้ว 5,459 ราย และเสียชีวิต 41 ราย

ขณะที่ยอดสะสม พบว่า หายป่วยแล้ว 2,093,265 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,156,634 ราย และผู้ป่วยกำลังรักษา 43,479 ราย

ข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 พบว่าหายป่วยแล้ว 2,120,691 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,185,497 ราย เสียชีวิตสะสม 21,327 ราย

ขณะที่จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 16 ธ.ค. 2564) รวม 98,856,753 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 16 ธันวาคม 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ 416,336 โดส

เข็มที่ 1 : 110,704 ราย
เข็มที่ 2 : 162,632 ราย
เข็มที่ 3 : 143,000 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 50,314,980 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 43,974,460 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 4,567,313 ราย

สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 273,218,485 ราย อาการรุนแรง 89,344 ราย รักษาหายแล้ว 245,296,117 ราย
เสียชีวิต 5,352,581 ราย

ส่วนอันดับสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก 1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 51,435,652 ราย 2.อินเดีย จำนวน 34,721,174 ราย 3.บราซิล จำนวน 22,204,941 ราย 4.สหราชอาณาจักร จำนวน 11,097,851 ราย
5.รัสเซีย จำนวน 10,131,646 ราย และประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 24 จำนวน 2,185,497 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันนี้ อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 578 ราย นครศรีธรรมราช 208 ราย ชลบุรี 166 ราย สงขลา 137 ราย สมุทรปราการ 128 ราย สุราษฎร์ธานี 89 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 78 ราย พัทลุง 77 ราย ปัตตานี 74 ราย และเชียงใหม่ 65 ราย

ส่วนผู้เสียชีวิตจำนวน 41 รายในวันนี้ แบ่งเป็นชาย 21 ราย หญิง 20 ราย เป็นคนไทย 39 ราย เมียนมา 1 ราย อังกฤษ 1 ราย ค่ากลางอายุอยู่ที่ 75 ปี (24-93 ปี) เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 33 ราย คิดเป็นสัดส่วน 80% อายุน้อยกว่า 60 ปี และมีโรคเรื้อรัง 6 ราย คิดเป็น 15% ไม่มีโรคเรื้อรัง 2 ราย คิดเป็น 15%

จำแนกตามจังหวัดได้ดังนี้ กรุงเทพมหานคร 2 ราย สมุทรสาคร 1 ราย นครราชสีมา 2 ราย กาฬสินธุ์ 1 ราย เชียงใหม่ 6 ราย แม่ฮ่องสอน 1 ราย นครศรีธรรมราช 6 ราย สงขลา 3 ราย ตรัง 2 ราย ยะลา 2 ราย ชุมพร 2 ราย ปัตตานี 1 ราย พัทลุง 1 ราย สตูล 1 ราย

ฉะเชิงเทรา 2 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย ลพบุรี 2 ราย ชลบุรี 1 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย ราชบุรี 1 ราย สระบุรี 1 ราย และสุพรรณบุรี 1 ราย

คลัสเตอร์ 16 ธ.ค.

สำหรับการระบาดที่รายงานเพิ่มขึ้น ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 พบคลัสเตอร์ใน กทม. ที่เขตคลองเตย เป็นคลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้าง ติดเชื้อ 56 ราย จากคนงานทั้งหมด 120 ราย คิดเป็น 47% ตรวจพบจากการสุ่มตรวจ ATK ทุก 1 สัปดาห์ และคลัสเตอร์ร้านหมูกระทะ ในเขตบางกะปิ พบผู้ติดเชื้อ 12 ราย เบื้องต้นได้เข้ารับการกักตัวตามมาตรการแล้ว

นอกจากนี้ ยังพบคลัสเตอร์ที่โรงเรียนสอนศาสนา ในจังหวัดสมุทรปราการ รวมทั้งโรงเรียนนายสิบทหารบก ประจวบคีรีขันธ์อีกด้วย

ธ.ค.นักท่องเที่ยวชุม คุมเข้มมาตรการ

สำหรับผลดำเนินงานการรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยานตั้งแต่วันที่ 1-16 ธันวาคม 2564 สะสมทั้งหมด 122,363 ราย ติดเชื้อใหม่ 16 ราย ทำให้การติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 226 ราย คิดเป็น 0.18% แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวว่า เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน มีตัวเลขนักเดินทางเข้ามา 133,061 คน ถือได้ว่าเดือนธันวาคมมีคนเข้าประเทศมากขึ้น

ด้านเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อในประเทศไทยยืนยันอยู่ที่ 14 ราย โดยส่วนใหญ่เข้ามาในโครงการ Test&Go ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์กำลังทำการตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่อง และมีเคสต้องสงสัยรอยืนยันซ้ำ

“โดยรวมแล้วแม้ว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาตอนนี้อัตราติดเชื้อจะไม่สูง แต่เราต้องเตรียมรองรับกรณีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น และเมื่อกิจการในประเทศมีการผ่อนคลายมากขึ้น ก็เป็นไปได้ที่เราจะตรวจพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น คงต้องเตรียมการเฝ้าระวังด้วย” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว

ผ่านเข้า-ออกไทย ช่องทางบก 24 ธ.ค.

แพทย์หญิงอภิสมัยเผยว่า ในส่วนของ ศบค. ในระยะใกล้นี้จะมีการลงพื้นที่เยี่ยมสถานที่กำหนดให้จัดงานปีใหม่ เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา รวมถึงหนองคาย และเหตุการณ์สำคัญคือในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ จะมีการเปิดต้อนรับผ่านเข้าและออกประเทศไทย เป็นช่องทางบกแห่งแรก รวมถึงอีกหลาย ๆ จังหวัดที่จะพัฒนาเปิดรับนักท่องเที่ยวและการค้าตามแนวชายแดนทางเศรษฐกิจ หนองคาย ตามมาด้วย

รายงานจากที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กระบุว่า หนองคาย เป็นต้นแบบ Test&Go ทางบกที่แรกที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่จะติดต่อเศรษฐกิจกับ สปป.ลาว ซึ่ง สปป.ลาวจะเปิดประเทศอย่างเป็นทางการวันที่ 1 มกราคม 2565 ซึ่งนอกจากหนองคายก็จะมีการนำไปพัฒนารูปแบบต่อเนื่องที่มุกดาหาร นครพนม และอุบลราชธานี