ศบค.อัพเดต 10 จังหวัดป่วยโควิดสูงสุด ตายอีก 81 ราย ไม่ได้ฉีดเข็ม 3

ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
FILE PHOTO : Ted ALJIBE / AFP

ศบค.อัพเดต 10 จังหวัดติดเชื้อโควิดสูงสุด เปิดตัวเลขผู้เสียชีวิต 87 รายวันนี้ พบอีก  81 ราย ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม3 หรือบูสเตอร์ โดส ส่วนอัตราการครองเตียง 2 จังหวัดภาคใต้ ทั้งสงขลาและสุราษฎร์ธานีไม่ลด ยังแตะระดับสีเหลือง ยอดใช้เตียงเกินกว่า 50% 

วันที่ 30 มีนาคม 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวันว่า สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 มีผู้ป่วยรายใหม่ 25,389 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,377,352 ราย หายป่วยแล้ว 1,162,876 ราย และ เสียชีวิตสะสม 3,347 ราย

ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 มี ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,600,787 ราย หายป่วยแล้ว 3,331,370 รายเสียชีวิตสะสม 25,045 ราย

ขณะที่สถานการณ์ผู้ป่วยปอดอักเสบกับใส่ท่อช่วยหายใจทิศทางลดลงเล็กน้อย ส่วนผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 87 ราย เพิ่มจากวานนี้ซึ่งตัวเลขอยู่ที่ 78 ราย ซึ่งจากกราฟตัวเลขผู้เสียชีวิตยังค่อนข้างสวิง ไม่นิ่ง แต่ทิศทางยังเพิ่มขึ้น ส่วนผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ย 14 วันย้อนหลังยังมีทิศทางหรือแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้เสียชีวิต 87 รายในวันนี้ พบว่าอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรัง หรือกลุ่ม 608 จำนวน 83 ราย และในจำนวนนี้มีผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็ม 3 หรือบูสเตอร์ โดส 81 ราย

และเมื่อแยกตามพื้นที่พบว่าผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกมากที่สุดรวม 25 ราย รองลงมาเป็นจังหวัดในภาคอีสานรวม 18 ราย ภาคเหนือ 17 ราย จังหวัดปริมณฑลได้แก่ สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี รวม 11 ราย ภาคใต้ 9 ราย และกรุงเทพมหานครวันนี้มีผู้เสียชีวิตน้อยสุด 7 ราย

สำหรับปัจจัยเสี่ยงยังมาจากโรคมะเร็ง 6 ราย โรคไต 15 ราย ซึ่ง 2 โรคนี้พบว่ามีผู้เสียชีวิตค่อนข้างสูงมาอย่างต่อเนื่อง นอกนั้นมีภาวะอ้วน 9 ราย หลอดเลือดสมอง 13 ราย โรคหัวใจ 10 ราย และภาวะติดเตียง 12 ราย

ส่วนจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล 10 อันดับแรก เฉลี่ยอัตราการครองเตียงระดับ 2-3 ยังอยู่ในระดับ 11-66% โดยมี 2 จังหวัดที่อัตราการครองเตียงเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับสีเหลืองต่อเนื่อง ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ที่ระดับ 53.40% และสงขลาที่ระดับ 66.50%

สำหรับผู้มารับวัคซีน ณ วันที่ 29 มีนาคม 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 56,278 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 17,554 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 115,698 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 – 29 มีนาคม 2565 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 129,071,569 โดส

  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 55,409,317 ราย
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 50,275,055 ราย
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 23,387,197 ราย


ส่วน 10 อันดับที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด อันดับ 1.ยังเป็น กทม. 3,325 ราย รวมสะสม 191,746 ราย รองลงมาเป็นชลบุรี 1,283 ราย นครศรีธรรมราช 889 ราย สมุทรปราการ 848 ราย สมุทรสาคร 793 ราย นนทบุรี 785 ราย ราชบุรี 688 ราย ฉะเชิงเทรา 657 ราย ระยอง 556 ราย และพระนครศรีอยุธยา 550 ราย

ส่วนผู้เดินทางเข้าประเทศสะสมตั้งแต่วันที่ 1-29 มีนาคม 2565 มีจำนวน 255,014 ราย พบติดเชื้อโควิดสะสม 1,493 ราย และวันนี้มีผู้เดินทางที่มาจากต่างประเทศ 47 ราย มาจากสหราชอาณาจักร 10 ราย เยอรมนี 6 ราย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ประเทศละ 5 ราย ที่เหลือกระจายไปประเทศละ 1-3 ราย

สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก ข้อมูล ณ วันพุธที่ 30 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 485,550,064 ราย อาการรุนแรง 58,512 ราย รักษาหายแล้ว 420,720,293 ราย เสียชีวิต 6,157,114 ราย

ส่วนอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด (รวมย้อนหลัง 7 วัน) อันดับ 1.เกาหลีใต้ จำนวน 2,413,888 ราย 2.เยอรมนี จำนวน 1,568,347 ราย 3.ฝรั่งเศส จำนวน 934,392 ราย 4.เวียดนาม จำนวน 740,163 ราย 5. สหราชอาณาจักร จำนวน 514,264 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 13 จำนวน 176,606 ราย