ศบค.ปรับตัวเลขรายงานใหม่ ฉุดยอดผู้เสียชีวิตลดฮวบ ขณะที่ตัวเลขเฉลี่ย 14 วันย้อนหลังยังเกินร้อยราย/วัน ระบุกรุงเทพมหานครกับภาคใต้มีที่สุราษฎร์จังหวัดเดียวเสียชีวิตน้อยสุดแค่ 2 ราย แต่ภาคอีสานยังตายมากสุด 28 ราย ส่วนอัตราการครองเตียงภาพรวมลดลงเหลือ 21% เท่านั้น
วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวันว่า สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 มีผู้ป่วยรายใหม่ 9,721 ซึ่งลดลงต่ำกว่าหมื่นรายต่อวันจากช่วงก่อนหน้านี้ ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,058,101 ราย หายป่วยแล้ว 1,965,697 ราย และเสียชีวิตสะสม 7,080 ราย โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 77 ราย
- ทุเรียนทะลักวันละพันตู้ ล้งเบรกซื้อ ฉุดราคาดิ่งเหลือโลละ 135-140 บาท
- กรมอุตุฯเตือน 6-12 พ.ค.นี้ ลมเปลี่ยนทิศ-แปรปรวน ฝนตกหนัก ท่วมฉับพลัน
- เปิดราคา Trade In “iPad” ก่อนเปิดตัวรุ่นใหม่ ลดสูงสุด 23,200 บาท
ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,281,536 ราย หายป่วยแล้ว 4,134,191 ราย เสียชีวิตสะสม 28,778 ราย
ATK ตรวจ 100 คน เจอผู้ติดเชื้อ 40-41 คน
ขณะที่ กรมควบคุมโรครายงานผลตรวจ ATK วันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อเข้าข่ายเพิ่ม 5,016 ราย ดดยร้อยละของการตรวจพบเชื้อเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 40.94% และมีผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 804 คน จากผู้ป่วยอาการหนัก 1,669 คน ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยใหม่บวกผลตรวจ ATK อยู่ที่ 14,737 ราย
สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายวัยเฉลี่ย 14 วันย้อนหลังลดลงเหลือ 15,549 ราย ซึ่งมีทิศทางลดลง ส่วนผู้ป่วยปอดอักเสบกับใส่ท่อช่วยหายใจ ลดลงเล็กน้อย เช่นเดียวกับผ้ป่วยเสียชีวิตทิศทางมีแนวโน้มลดลง
โดยผู้เสียชีวิต 77 รายในวันนี้อยู่ในกลุ่ม 608 หรือกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรังจำนวน 74 ราย หรือคิดเป็น 96% และเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนบูสเตอร์โดส จำนวน 73 ราย คิดเป็น 94.80% และในจำนวนนี้มีผู้ที่ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 ราย คิดเป็น 4%
อย่างไรก็ตามหากนับจำนวนผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 14 วันย้อนหลัง ตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมยังอยู่ที่ 117 ราย หรือยังเกินกว่าร้อยราย
“กทม.-ภาคใต้” ยอดตายลดฮวบ
และเมื่อแยกตามพื้นที่ของผู้เสียชีวิต พบว่าหลายพื้นที่มีทิศทางลดลง โดยกลุ่มจังหวัดในภาคอีานมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดจำนวน 28 ราย มีจ.นครราชสีมามีผู้เสียชีวิตมากที่สุดจำนวน 7 ราย รองลงมาเป็นอุดรธานี 5 ราย ศรีสะเกษ 4 ราย
ภาคกลางและภาคตะวันออกมีผู้เสียชีวิตรวม 24 ราย มีจ.ระยองเสียชีวิตมากที่สุด 6 ราย รองลงมาเป็นราชบุรี 4 ราย ภาคเหนือมีผู้เสียชีวิตรวม 11 ราย จังหวัดปริมณฑลรวม 10 ราย มีปทุมธานี 5 ราย นนทบุรี 3 ราย และนครปฐม 2 ราย ภาคใต้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย อยู่ที่สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพมหานคร วันนี้มีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุด 2 รายเช่นกัน
ส่วนปัจจัยเสี่ยงยังคงมาจากโรคมะเร็ง โรคไต โรคอ้วน หลอดเลือดสมอง หัวใจ และภาวะติดเตียง
ขณะที่จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวในโรงพยาบาล 10 อันดับแรกนั้น ภาพรวมอัตราการครองเตียงระดับ 2-3 ของประเทศอยู่ที่ 21.2% หลายจังหวัดอัตราการครองเตียงลดลงอยู่ในระดับสีเขียว ไม่เกิน 41% โดยจังหวัดกาญจนบุรีมีอัตราการครองเตียงมากที่สุดอยู่ที่ 40.60% และน้อยที่สุดอยู่ที่เชียงใหม่อัตราการครองเตียงอยู่ที่ 16.60% เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสาเหตุที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดมีจำนวนลดลง เนื่องจากศบค. โดยกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)มีการปรับตัวเลขใหม่ โดยนับเฉพาะผู้เสียชีวิตจากโควิด ไม่นับผู้เสียชีวิตจากโควิดที่มีโรคร่วม หรือโรคประจำตัวเข้ามาด้วย จึงทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตลดลง แต่สธ.ยังคงเก็บข้อมูลผู้เสียชีวิตจากโรคร่วมไว้อยู่
สำหรับผู้มารับวัคซีน วันที่ 2 พฤษภาคม 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 4,807 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 13,830 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 266,241 ราย และระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 – 2 พฤษภาคม 2565 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 133,927,344 โดส
- จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 56,311,711 ราย
- จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 51,365,679 ราย
- จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 26,249,954 ราย
อัพเดต 10 จังหวัดติดโควิดมากสุด
ส่วน 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดสูงสุด อันดับ 1.ยังเป็นกรุงเทพมหานคร จำนวน 3,649 ราย รวมสะสม 299,412 ราย รองลงมาเป็นบุรีรัมย์ 372 ราย สมุทรปราการ 302 ราย ชลบุรี 271 ราย ขอนแก่น 269 ราย ศรีสะเกษ 235 ราย สุรินทร์ 233 ราย ร้อยเอ็ด 200 ราย อุบลราชธานี 176 ราย และพระนครศรีอยุธยา 171 ราย
สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม 2565 เวลา 10.00 น. มียอดผู้ติดเชื้อรวม 513,966,008 ราย อาการรุนแรง 40,884 ราย รักษาหายแล้ว 468,592,248 ราย และเสียชีวิต 6,263,244 ราย
ส่วนอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
- 1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 83,170,407 ราย
- 2.อินเดีย จำนวน 43,085,166 ราย
- 3.บราซิล จำนวน 30,460,997 ราย
- 4.ฝรั่งเศส จำนวน 28,690,748 ราย
- 5.เยอรมนี จำนวน 24,791,190 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 24 จำนวน 4,281,536 ราย
ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศวันนี้มีจำนวน 51 ราย มีผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์มากที่สุด 10 ราย รองลงมาเป็นออสเตรเลีย 7 ราย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) จำนวน 6 ราย ยูเออี 5 ราย อินเดีย 4 ราย ที่เหลือเดินทางเข้ามาประเทศละ 1-2 ราย