ศบค.ถกใหญ่ 20 พ.ค. สางสารพัดปัญหารับผ่อนคลาย-เลิก Thailand Pass

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์

ผู้ช่วยโฆษกศบค.เผยหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม ระดมสารพัดปัญหา-คำถามให้ศบค.ชุดเล็กแก้เพียบ หลังทยอยผ่อนคลายมาตรการ รวมถึงปัญหาใหญ่ Thailand Pass พร้อมเสนอเข้าศบค.ชุดใหญ่เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้ 20 พ.ค.นี้  ยันที่สาธารณสุขประกาศยังเป็นระดับ 3 ยังต้องมีการเฝ้าระวังสูง ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังบินเข้าไทยต่อเนื่องวันละ 15,000 คน จี้พาผู้สูงอายุเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หลังพบตาย 100% 3 วันติดแล้ว “อนุทินแจง” ยกเลิก Thailand Pass กับผับบาร์ สเต็ป บาย สเต็ป

วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาล (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์ที่สำคัญที่จะมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมต่างๆมีข้อมูลนำเข้าศบค.ชุดเล็กเพื่อที่จะนำสู่การเสนอศบค.ชุดใหญ่ในวันศุกร์ที่ 20 พ.ค.นี้ และสอดคล้องกับที่ทางสาธารณสุขเพิ่งประกาศลดระดับเตือนภัยทั่วประเทศ ทุกจังหวัดจากระดับ 4 ลดเหลือระดับ 3 ซึ่งเป็นการพิจารณาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก รวมทั้งสถานการณ์ของบ้านเราที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้ที่มีภาวะปอดอักเสบ หรือจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจที่มีแนวโน้มลดลง และทรงตัวทั่วทั้งประเทศ

ผู้ป่วยใหม่ ป่วยหนัก เสียชีวิต ณ 12 พ.ค.

ย้ำสธ.ประกาศยังอยู่ในระดับ 3 ยังต้องเฝ้าระวังสูง

“ต้องเน้นย้ำกับพี่น้องประชาชนว่าการที่สาธารณสุขประกาศเป็นระดับ 3 ถือได้ว่ายังต้องมีการเฝ้าระวังสูงอยู่ เพราะยังมีการจำกัดการรวมกลุ่ม และยังไม่ถึงกับขั้นผ่อนคลายระดับ 1 หรือ 2 ที่ประชาชนจะใช้ชีวิตได้ตามปกติ หรือผ่อนคลายเร็วเกินไป ไม่สวมหน้ากากอนามัย ต้องย้ำว่าเรายังคงอยู่ที่ระดับ 3 อยู่” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว

สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อวันนี้ตัวเลขยังอยู่ที่ 8,019 ราย เป็นการยืนยันด้วยการตรวจ PCR ส่วนผู้เสียชีวิตวันนี้อยู่ที่ 59 คน มีผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจทั่วประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือมีเส้นกราฟที่ลดลง ไม่ว่าจะเป็นผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้ป่วยปอดอักเสบอาการหนัก หรือผู้ที่จำเป็นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ยังมีอยู่ แต่ตัวเลขยังลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ลดลงด้วย

ยอดผู้ปวยโควิด ณ วันที่ 12 พ.ค.2565

พบผู้เสียชีวิต 59 รายเป็นกลุ่ม 608 ตาย100%

“สิ่งที่ศบค.เป็นห่วง และเน้นย้ำมาตลอดคือจำนวนผู้ที่เสียชีวิตวันนี้ 59 รายที่รายงาน พบว่าทั้งหมดถือเป็น 100% สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงอยู่ในกลุ่ม 608 ทั้งสิ้น และในจำนวนนี้ 41 ราย ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มแรก คิดเป็น 70% ทำให้เป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่ทำให้คนเหล่านี้เสียชีวิต และในจำนวนนี้มีเพียง 3 ราย ที่เพิ่งได้รับวัคซีนเพียงเข็ม 1 และเกิดการติดเชื้อจนเสียชีวิต มีอีก 15 รายที่ได้รับวัคซีนเข็ม 2 แต่ว่านานเกิน 3 เดือนแล้ว และไม่ได้รับเข็มกระตุ้นเข็ม 3 จนเสียชีวิต” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้เสียชีวิตในกลุ่ม 608 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรังในวันนี้เป็นการเสียชีวิตทั้งหมด หรือ 100 % เป็นวันที่ 3 แล้ว

ผู้เสียชีวิตจากโควิด 12 พ.ค.2565

แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวว่าเป็นที่น่าสังเกตุว่าผู้เสียชีวิตในวันนี้ 21 รายมาจากภาคอีสาน สะท้อนให้เห็นว่าเราคงต้องรณรงค์ฉีดวัคซีนให้ทั่วประเทศ

ขณะที่การดูเคสในต่างประเทศเราไม่สามารถยึดประเทศใด ประเทศหนึ่งเป็นต้นแบบได้ เช่นที่มีการนำข่าวจากต่างประเทศมานำเสนอว่าร้านอาหาร ผับ บาร์ ต่างๆ ในต่างประเทศเขาเปิดให้บริการกันแล้ว มีหลายประเทศที่ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยแล้ว

“อันนี้ต้องเน้นย้ำว่าเราต้องยึดตามประกาศของศบค.ชุดใหญ่ รวมทั้งการรรายงานของกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยเป็นหลัก เพราะแต่ละประเทศแม้ว่ามาตรการของเขาจะผ่อนคลาย แต่ถ้าไปดูตัวเลขการติดเชื้อ การเสียชีวิตยังสูงอยู่ เช่นประเทศสหรัฐอเมริกาที่วันนี้ยังมีกรรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่ถึง 226 ราย เยอรมนี 227 ราย หรืออิตาลี 115 ราย เป็นต้น” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว

10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดสูงสุด

อัพเดต 10 อันดับติดเชื้อใหม่-ครองเตียงสูงสุด

สำหรับ 10 จังหวัดที่ยังมีการติดเชื้อสูงสุด อันกับ 1.ยังเป็นกทม. 2,747 ราย ร้อยเอ็ด 253 ราย ชลบุรี 248 ราย บุรีรัมย์ 229 ราย สมุทรปราการ 195 ราย นครราชสีมา 189 ราย มหาสารคาม 177 ราย อุบลราชธานี 168 ราย ขอนแก่น 147 ราย และสุรินทร์ 140 ราย

 

ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยปอดอักเสบสูงสุด หรือรับผู้ป่วยหนักไว้ในการดูแล ภาพรวมอยู่ที่ 17.4% โดยกทม.ตัวเลขยังคงสูงมี 135 ราย แต่อัตราการครองเตียงอยู่ที่ 16.8% ถือได้ว่าไม่น่าเป็นห่วง ยังรองรับการเจ็บป่วยหนักได้ ส่วนจังหวัดที่มีอัตราการครองเตียงสูงที่สุดเป็นนครสวรรค์ จากจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ 36 ราย คิดเป็นอัตราการครองเตียงระดับ2-3 อยู่ที่ 63.9% อยู่ในระดับสีเหลือง

อัตราการครองเตียงระดับ 2-3 ณ วันที่ 12 พ.ค.2565

“59 รายที่เสียชีวิตในวันนี้ พบว่ามีถึง 3 รายที่เสียชีวิตในวันที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ อาจจะเป็นไปได้ว่าไม่ได้ตระหนักว่าตัวเองได้รับเชื้อมาแล้ว มีอาการรุนแรง และเมื่อไปถึงดรงพยาบาลก็เสียชีวิต โดยที่บุคลากรทางการแพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตท่านเหล่านี้ไว้ ได้ และยังมีถึง 9 รายที่พบการเสียชีวิตหลังการตรวจพบว่าติดเชื้อเพียง 3 วันเท่านั้นเอง คืออาการหนักแล้วไปโรงพยาบาลก็พบว่าอาการลุกลามรุนแรงไปแล้ว และไม่สามารถช่วยชีวิตได้” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว และว่า

ดังนั้นจึงขอความร่วมมือให้เร่งระดมให้ผู้ที่มีความเสี่ยงเหล่านี้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น และมีการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ และขอให้หน่วยงานราชการในพื้นที่ช่วยค้นหาผู้มีความเสี่ยง และอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการตรวจด้วย

จับตาเปิดเรียน 17 พ.ค. เร่งฉีดวัคซีนในเด็ก

แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวว่า วันนี้ที่ศบค.ชุดเล็กหารือกัน เป็นเรื่องของการเปิดภาคเรียนที่บางโรงเรียนจะเปิดเรียนในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ โดยผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการได้นำเรียนในที่ประชุมถึงตัวเลขการฉีดวัคซีนของเด็กนักเรียน ซึ่งแยกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ในการสำรวจทั้งหมดมีจำนวน 5,114,503 คน พบว่า 95.53% ได้รัววัคซีนเข็ม 1 แล้ว ส่วนวัคซีนเข็ม 2 อยู่ที่ 3,511,087 ราย คิดเป็น 78.47% ส่วนเข็ม 3 อยู่ที่ 56,167 คน คิดเป็น 1.26%

ยอดฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในเด็ก

ทางกระทรวงศึกษาธิการก็กำกับควบคุมอย่างเข้มงวด ก็ต้องขอบคุณคุณครู ผู้ปกครองที่ให้ความสำคัญ ส่วนในเด็กเล็ก ช่วงอายุ 5-12 ปี ตัวเลขยังน้อยอยู่ เพราะฉีดทีหลัง จากจำนวนเด็กทั้งหมด 5,263,106 คน ประสงค์ฉีดวัคซีน 3,369,572 คน คิดเป็น 64.02% โดยมีการฉีดเข็ม 1 ไปแล้ว 1,785,414 คน คิดเป็น 52.99% และฉีดเข็มที่ 2 ไปจำนวน 296,209 คน คิดเป็น 8.79%

“ยังคงต้องรณรงค์อย่างต่อเนื่องก่อนเปิดภาคเรียน ซึ่งทางดรงเรียนต้องติดตามและผู้ปกครองต้องให้ความสำคัญพาบุตรหลานไปรับวัคซีนเพื่อลดการป่วยหนัก รวมถึงบุคลากรในโรงเรียนด้วย เพื่อให้การเปิดเรียนมีความปลอดภัย ไม่ทำให้ตัวเลขขยับสูงขึ้น”

ยอดฉีดวัคซีนในเด็กเล็ก

เช่นเดียวกับมาตรการความปลอดภัยในระดับพื้นที่ โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่เป็นเจ้าภาพก็จะต้องมีการหารือ ประชุมร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเสนอความต้องการของพื้นที่เข้ามา เช่นการเปิดด่านผ่านแดนถาวรที่มุกดาหารก็มีการนำเสนอ มีการประชุมร่วมกัน มีการแก้ปัญหาให้ตรงจุดที่สุดในเรื่องของการผ่านเข้ามาในราชอาณาจักร

“ศบค.จะมีการประชุมร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ทุกประเด็นคำถาม ได้มีคำตอบที่อาจจะเหมาะสมกับพื้นที่มากที่สุด โดยศปก.ศบค. หรือศบค.ชุดเล็กจะนำประเด็นต่างๆ ที่เสนอมาไปสรุปและนำเสนอต่อศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ก็ขอให้ติดตามกันในรายละเอียด” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวย้ำถึงการประชุมศบค.ในสัปดาห์หน้า

สิ่งสำคัญคือการปฏิบัติตามมาตราการ DMHTT การเว้นระยะห่าง ล้างมือ แม้จะผ่อนคลายเพิ่มขึ้น เราก็ยังคงต้องเคร่งครัดมาตรการส่วนตัว

ตัวเลขคนเดินทางมาทางอากาศ ผ่านสนามบิน

ถกหนักปัญหา Thailand Pass คาดปรับใหม่

ต่อข้อถามถึงเรื่องระบบ Thailand Pass จะมีการปรับมาตรการกันอย่างไร แพทย์หญิงอภิสมัยตอบว่า เรื่องไทยแลนด์ พาส ในสัปดาห์นี้เป็นประเด็นที่ศบค.ได้รับคำถามมาทั้งหน่วยงานราชการ รวมถึงแต่ละจังหวัดแต่ละพื้นที่ ซึ่งอาจจะมีประเด็นคำถามที่เราจะต้องปรับให้สอดคล้องกับพื้นที่

ทั้งนี้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคมที่มีการผ่อนคลาย ไม่ต้องตรวจ PCR มีการเดินทางเพิ่มขึ้นชัดเจน และจนถึงวันที่ 11 พฤษภาคมมีผู้เดินทางเข้าประเทศทางอากาศ 181,804 ราย หรือประมาณ 15,000 ราย/วัน ส่วนใหญ่จะมาจากสิงคโปร์ อินเดีย มาเลเซีย อังกฤษ ออสเตรเลีย อเมริกา UAE กัมพูชา เวียดนาม เยอรมนี และเยอรมนี

อันดับประเทศที่เดินทางเข้าไทย

“อย่างที่เรียนว่าการที่มีคนเดินทางเข้ามามากขึ้น ไทยแลนด์พาสอาจมีข้อจำกัด มีประเด็นที่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งศบค.ชุดเล็กมีการหารือกันในวันนี้ มีการรับฟังทุกปัญหา ทุกความเห็นและจะมีการปรึกษาหารือกันอย่างเรงด่วนกันในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ทันต่อการเสนอต่อศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 20 พฤษภาคม” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว และว่า

แต่ตอนนี้ยังยืนยันว่า ไทยแลนด์พาส ยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ทุกๆข้อเสนอแนะ ทางเลขาฯสมช.เน้นย้ำว่ารับฟังและขอบคุณที่ผู้ที่ปฏิบัติงานที่หน้างานได้มีการเสนอปัญหาเข้ามา ซึ่งจะมีการนำเสนอศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ขอให้ติดตามกัน” แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าวในตอนท้าย

ทางด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น ครั้งที่ 1/2565  เมื่อถูกถามว่าจะมีการเสนอต่อที่ประชุม ศบค. ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ เรื่องการผ่อนคลายยกเลิก Thailand Pass กับผับบาร์หรือไม่

นายอนุทินกล่าวตอบว่า สเต็ป บาย สเต็ป ซึ่งจะต้องหารือกับทางกรมควบคุมโรคอีกครั้ง แต่ทุกอย่างจะเป็นแนวทางผ่อนคลายให้ประชาชนดำเนินชีวิตได้ ส่วนเรื่องผับบาร์ ก็จะมีมาตรการต่าง ๆ เป็นลำดับ(อ่านข่าวเพิ่มเติมที่นี่)