จุฬาฯโต้ข่าวรื้อถอน “สกาลา” แจงเจ้าของขอคืนพื้นที่เอง เหตุขาดทุนหนัก

กรณีมีกระแสข่าวการรื้อถอนโรงภาพยนตร์สกาลา ซึ่งขณะนี้กำลังถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะมองว่ามีคุณค่าทางประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมนั้น

เมื่อวันที่ 1 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ชี้แจงว่า ยังไม่มีแผนการรื้อทุบแต่อย่างใด แม้สัญญาเช่าจะสิ้นสุดตั้งแต่ปลายปี 2559 แต่จุฬาฯ ได้ผ่อนปรนมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ทางผู้เช่าได้ขอคืนพื้นที่เองทั้งโรงภาพยนตร์ลิโด้และสกาลา โดยจะขอฉายภาพยนตร์แบบฟิล์มที่รวบรวมจากนานาประเทศ ในเดือนเมษายน 2561 และภาพยนตร์เงียบ ในเดือนพฤษภาคม 2561

สำหรับเนื้อหาในหนังสือชี้แจงมี ดังนี้

ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการพัฒนาพื้นที่โรงภาพยนตร์สกาลา

ตามที่มีกระแสข่าวและการแลกเปลี่ยนในพื้นที่ออนไลน์เกี่ยวกับกรณีที่สำนักจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ จะทำการขอคืนพื้นที่โรงภาพยนตร์สกาลา และมีการคาดเดาไปว่าจะรื้อทุบปรับปรุงเป็นโครงการสมัยใหม่ตามกระแสนิยมนั้น ฝ่ายบริหารสำนักงานฯ ขอถือโอกาสในวาระปีใหม่นี้ ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อให้เป็นที่เข้าใจตรงกันมา ณ ที่นี้

1.สำนักงานยังไม่มีแผนการรื้อทุบใดๆ ทั้งสิ้น และยืนยันว่า เราไม่มีความประสงค์ที่จะขอคืนพื้นที่โรงภาพยนตร์สกาลาแต่อย่างใด เรายังคงอยากให้ผู้เช่าประกอบการในส่วนอาคารสกาลาทั้งหมดต่อไปจนกว่าเวลาเหมาะสม แต่หากผู้เช่ายังยืนยันในเจตนาที่จะเลิกประกอบการสกาลาพร้อมๆ ไปกับลิโด้ (เป็นผู้ประกอบการรายเดียวกัน) เนื่องจากแบกรับการขาดทุนไม่ไหว ซึ่งสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ได้มีการเจรจาขอให้สกาลาอยู่ต่อไป แต่ขอให้คืนเฉพาะลิโด้ เนื่องจากปัจจุบันสภาพพื้นที่โดยรวมของร้านค้าใต้ลิโด้ที่แบ่งล็อคให้เช่าเป็นร้านค้ารายย่อย มีสภาพเก่าทรุดโทรมมาก ขาดการปรับปรุงและบำรุงรักษาที่ดี ทำให้มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย จึงจะขอกลับมาพัฒนาพื้นที่เองเมื่อสัญญาสิ้นสุด

2.ทางสำนักงานฯกำลังหารูปแบบการดำเนินการที่เหมาะสมกับสกาลา ที่ผ่านมาทางนายกสมาคมสถาปนิกสยามได้แสดงความสนใจที่จะขอใช้พื้นที่สกาลาเป็นพื้นที่แสดงกิจกรรมของสมาคม และยังมีองค์กรอื่นที่สนใจ ตลอดจนอีกหลายฝ่ายที่ให้ความเห็นอยากให้อนุรักษ์อาคารสกาลาไว้เพื่อพัฒนาพื้นที่ส่วนโรงภาพยนตร์ในการจัดกิจกรรมต่างๆในเชิงสร้างสรรค์และสอดคล้องกับอาคารที่เป็นอยู่

3.ตามข้อเท็จจริงแล้ว สัญญาเช่าของลิโด้เป็นสัญญายอมความที่ผ่อนผันให้ดำเนินธุรกิจถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 เท่านั้น แต่สำนักงานได้ผ่อนปรนให้อยู่ต่อเนื่องมาตลอดปี 2560 ผู้เช่ามีความประสงค์ที่จะขอคืนพื้นที่ลิโด้สิ้นเดือนพฤษภาคม และขอเวลาขนย้ายถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2561 ซึ่งจะขอยุติการเช่าของสกาลาไปพร้อมกันด้วย ทั้งนี้ผู้เช่าจะขอฉายภาพยนตร์แบบฟิล์มที่รวบรวมจากนานาประเทศ (International Film Festival) ในเดือนเมษายน 2561 และ ภาพยนตร์เงียบ (Silent film festival in Thailand) ในเดือนพฤษภาคม 2561 ซึ่งผู้เช่าได้รับสิทธิในการเป็นผู้ฉายภาพยนตร์ดังกล่าว อันเป็นความภาคภูมิใจที่สำนักงานรู้สึกยินดีและเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ขยายระยะเวลาเช่าให้สิ้นสุดลงหลังจากมหกรรมการฉายภาพยนตร์ทั้งสองช่วงเสร็จสิ้นลง พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือผ่อนปรนค่าเช่าเพื่อช่วยประคับประคองให้ธุรกิจของผู้เช่าที่อยู่คู่กับสยามสแควร์มาตลอดครึ่งศตวรรษได้ยุติลงด้วยความเรียบร้อยเป็นลำดับต่อไป

สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ขอขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใย และสนใจข่าวนี้ เราจะพัฒนาทรัพย์สินขององค์กรเพื่อนำผลประโยชน์ที่ได้มาพัฒนาการศึกษาของประเทศต่อไป

ฝ่ายบริหารสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์