คริปโตแสตมป์ โลกเก่าผสานโลกใหม่

คริปโทแสตมป์

เจ เวนเจอร์ส จับมือ ไปรษณีย์ไทย ลุยโลก NFT ด้วยการเปิดตัว “คริปโตแสตมป์” ผนึกอินฟลูเอนเซอร์คริปโตเคอร์เรนซีเสริมแกร่ง “คอมมิวนิตี้”

วันที่ 8 สิงหาคม 2565 บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนา JNFT Marketplace แพลตฟอร์ม NFT สัญชาติไทย ร่วมฉลองวาระ 140 ปี ไปรษณีย์ไทย ด้วยการเปิดคอลเล็กชั่นแสตมป์ชุดใหม่ 50,000 ชิ้น โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเขียนโค้ดกำกับให้แสตมป์แต่ละชิ้นเป็น NFT ซึ่งไม่สามารถทดแทนได้ในโลกดิจิทัล เรียกว่า “คริปโตแสตมป์” นับเป็นการเชื่อมโยงแสตมป์หรือดวงตราไปรษณียากรที่อยู่คู่กับสังคมมานับร้อยปี และเทคโนโลยีบล็อกเชนที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน

นายวรพจน์ ธาราศิริสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวถึง การเป็นผู้ช่วยสร้าง NFT Stamp ให้กับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ว่า ในฐานะที่เป็นผู้สร้างระบบพื้นฐานทางเทคโนโลยี NFT ที่ เจ เวนเจอร์ส ได้พัฒนาระบบบล็อกเชนขึ้นมาเอง คือ JFIN Chain และมี JNFT Marketplace ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อ-ขาย NFT รองรับ

วรพจน์ ธาราศิริสกุล
วรพจน์ ธาราศิริสกุล

“ด้วยเทคโนโลยีที่เรามีทำให้เราได้รับความไว้วางใจให้ออกแบบระบบการใช้งาน สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจสะสมแสตมป์ NFT หรือแม้กระทั่งผู้ใช้งานคริปโตเองก็สามารถเข้าถึงบล็อกเชนเทคโนโลยีได้สะดวก ด้วยการเชื่อมต่อกับกระเป๋าคริปโตอย่าง Metamask เพื่อรับ-ส่ง หรือซื้อ-ขาย NFT”

นอกจากนี้ เจ เวนเจอร์ส ยังได้พาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งมาร่วมสร้าง “คอมมิวนิตี้” คือ เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ชุมชนคริปโต และนักสร้างสรรค์งาน NFT เมืองไทยที่มีชื่อเสียง จำนวนมากมาร่วมสร้างสรรค์ตราไปรษณียากร

โดยอินฟลูเอนเซอร์คริปโตและนักสร้างสรรค์ NFT ได้นําเอาแคแร็กเตอร์อันมีเอกลักษณ์ของแต่ละคอมมิวนิตี้มาออกแบบสร้างสรรค์บนแผ่นแสตมป์ของไปรษณีย์ไทยที่มีองค์ประกอบโดดเด่นด้วยสีแดง ลายเส้นตู้ไปรษณีย์ และตราสัญลักษณ์ สื่อถึงความร่วมมือระหว่างไปรษณีย์ไทยกับคอมมิวนิตี้ NFT ประเทศไทย ในรูปแบบการสร้างงาน NFT Art เกิดเป็นชิ้นงาน NFT ที่ไม่ซ้ำกันจำนวนถึง 50,000 ชิ้น ด้วยความแตกต่างของแต่ละชิ้นงาน จึงนับได้ว่าเป็นผลงานที่เพียงชิ้นเดียวในโลก

อินฟลูเอนเซอร์ที่เข้าร่วมฉลอง 140 ปี ไปรษณีย์ไทย ได้แก่ BitToon, Stocker Day, พ่อบ้านคริปโต, I Learn A Lot, เทรดเดอร์หน้าหมีแต่ชอบหมา, Naga Dao, MetaWarden, PunkKub, ApeKub, Zmile MonkeyZ Club, Moo Monster, Munins, Hotel de Mentia, Lazyman, Jaybird, Jiger, Apetimism, และ The Save Planet

ความพิเศษของแสตมป์ชุด “คริปโตแสตมป์” นอกจากจะเป็นการเชื่อมโยงของสะสมที่อยู่ในโลกเก่าอย่าง “ตราไปรษณียากร” และ “เทคโนโลยี NFT” ยังถือเป็นการเปิดโลกคู่ขนานของ “ของสะสม” ที่มีลักษณะบ่งชี้ทางกายภาย (Physical) สู่ชิ้นงาน NFT ที่มีลักษณะบ่งชี้ทางดิจิทัล

โดยลักษณะบ่งชี้หรือ “ตัวตนทางดิจิทัล” ของแสตมป์ในคอลเล็กชั่นนี้ทุกชิ้นเก็บอยู่ในบล็อกเชนของ JFIN Chain ทำให้มูลค่าซื้อขายแลกเปลี่ยนไม่ต่างจากการสะสมแสตมป์แบบดั้งเดิม

สำหรับแสตมป์ชุดพิเศษดังกล่าว เปิดจองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Thailandpostmart ในราคา 140 บาทต่อชุด และจัดส่งแสตมป์ รอบแรกในวันที่ 14 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป