เจ เวนเจอร์ส จับมือ ไปรษณีย์ไทย ลุยโลก NFT ด้วยการเปิดตัว “คริปโตแสตมป์” ผนึกอินฟลูเอนเซอร์คริปโตเคอร์เรนซีเสริมแกร่ง “คอมมิวนิตี้”
วันที่ 8 สิงหาคม 2565 บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนา JNFT Marketplace แพลตฟอร์ม NFT สัญชาติไทย ร่วมฉลองวาระ 140 ปี ไปรษณีย์ไทย ด้วยการเปิดคอลเล็กชั่นแสตมป์ชุดใหม่ 50,000 ชิ้น โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเขียนโค้ดกำกับให้แสตมป์แต่ละชิ้นเป็น NFT ซึ่งไม่สามารถทดแทนได้ในโลกดิจิทัล เรียกว่า “คริปโตแสตมป์” นับเป็นการเชื่อมโยงแสตมป์หรือดวงตราไปรษณียากรที่อยู่คู่กับสังคมมานับร้อยปี และเทคโนโลยีบล็อกเชนที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
นายวรพจน์ ธาราศิริสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวถึง การเป็นผู้ช่วยสร้าง NFT Stamp ให้กับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ว่า ในฐานะที่เป็นผู้สร้างระบบพื้นฐานทางเทคโนโลยี NFT ที่ เจ เวนเจอร์ส ได้พัฒนาระบบบล็อกเชนขึ้นมาเอง คือ JFIN Chain และมี JNFT Marketplace ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อ-ขาย NFT รองรับ
“ด้วยเทคโนโลยีที่เรามีทำให้เราได้รับความไว้วางใจให้ออกแบบระบบการใช้งาน สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจสะสมแสตมป์ NFT หรือแม้กระทั่งผู้ใช้งานคริปโตเองก็สามารถเข้าถึงบล็อกเชนเทคโนโลยีได้สะดวก ด้วยการเชื่อมต่อกับกระเป๋าคริปโตอย่าง Metamask เพื่อรับ-ส่ง หรือซื้อ-ขาย NFT”
นอกจากนี้ เจ เวนเจอร์ส ยังได้พาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งมาร่วมสร้าง “คอมมิวนิตี้” คือ เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ชุมชนคริปโต และนักสร้างสรรค์งาน NFT เมืองไทยที่มีชื่อเสียง จำนวนมากมาร่วมสร้างสรรค์ตราไปรษณียากร
โดยอินฟลูเอนเซอร์คริปโตและนักสร้างสรรค์ NFT ได้นําเอาแคแร็กเตอร์อันมีเอกลักษณ์ของแต่ละคอมมิวนิตี้มาออกแบบสร้างสรรค์บนแผ่นแสตมป์ของไปรษณีย์ไทยที่มีองค์ประกอบโดดเด่นด้วยสีแดง ลายเส้นตู้ไปรษณีย์ และตราสัญลักษณ์ สื่อถึงความร่วมมือระหว่างไปรษณีย์ไทยกับคอมมิวนิตี้ NFT ประเทศไทย ในรูปแบบการสร้างงาน NFT Art เกิดเป็นชิ้นงาน NFT ที่ไม่ซ้ำกันจำนวนถึง 50,000 ชิ้น ด้วยความแตกต่างของแต่ละชิ้นงาน จึงนับได้ว่าเป็นผลงานที่เพียงชิ้นเดียวในโลก
อินฟลูเอนเซอร์ที่เข้าร่วมฉลอง 140 ปี ไปรษณีย์ไทย ได้แก่ BitToon, Stocker Day, พ่อบ้านคริปโต, I Learn A Lot, เทรดเดอร์หน้าหมีแต่ชอบหมา, Naga Dao, MetaWarden, PunkKub, ApeKub, Zmile MonkeyZ Club, Moo Monster, Munins, Hotel de Mentia, Lazyman, Jaybird, Jiger, Apetimism, และ The Save Planet
ความพิเศษของแสตมป์ชุด “คริปโตแสตมป์” นอกจากจะเป็นการเชื่อมโยงของสะสมที่อยู่ในโลกเก่าอย่าง “ตราไปรษณียากร” และ “เทคโนโลยี NFT” ยังถือเป็นการเปิดโลกคู่ขนานของ “ของสะสม” ที่มีลักษณะบ่งชี้ทางกายภาย (Physical) สู่ชิ้นงาน NFT ที่มีลักษณะบ่งชี้ทางดิจิทัล
โดยลักษณะบ่งชี้หรือ “ตัวตนทางดิจิทัล” ของแสตมป์ในคอลเล็กชั่นนี้ทุกชิ้นเก็บอยู่ในบล็อกเชนของ JFIN Chain ทำให้มูลค่าซื้อขายแลกเปลี่ยนไม่ต่างจากการสะสมแสตมป์แบบดั้งเดิม
สำหรับแสตมป์ชุดพิเศษดังกล่าว เปิดจองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Thailandpostmart ในราคา 140 บาทต่อชุด และจัดส่งแสตมป์ รอบแรกในวันที่ 14 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป