ไอซีที

AIS โชว์รายได้ Q2 โต 5.9% แตะ 4.5 หมื่นล้าน กำไรลด 10%

“AIS” ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 รายได้รวม 45,273 ล้านบาท เพิ่ม 5.9% กำไร 6.3 พันล้านบาท ลดลง 10% เทียบกับปีก่อน เหตุบาทอ่อน-ต้นทุนบริการเพิ่ม แต่ยังเดินหน้าลงทุนเสริมแกร่งองค์กรสู่ Cognitive Tel-Co ทั้งเผยยอดผู้ใช้ 5G ทะลุ 3.9 ล้านราย โต 39% จาก Q1/2565

8 สิงหาคม 2565 นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า ในครึ่งปีแรกแม้จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

แต่ในภาพใหญ่สถานการณ์ทั่วโลกยังน่าเป็นห่วง และต้องจับตามองใกล้ชิด โดยเฉพาะภาวะเงินเฟ้อ และความขัดแย้งของประเทศต่าง ๆ ส่งผลทำให้ต้นทุนด้านพลังงานสูงขึ้น และกระทบกำลังซื้อของผู้บริโภคในวงกว้าง จึงต้องปรับแผนการทำงานให้สอดรับกับสถานการณ์ที่ผันผวนตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีแรก AIS สามารถทำผลงานออกมาได้ในระดับที่น่าพอใจ จากตัวเลขรายได้ที่เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และจะยังเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีให้แข็งแกร่งรองรับความต้องการประยุกต์ใช้ดิจิทัลในองค์กร

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2565 มีรายได้รวม 45,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% เทียบกับปีก่อน และคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มีกำไรสุทธิ 6,305 ล้านบาท ลดลง 10% เทียบปีก่อน และค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบไตรมาสก่อน เป็นผลจากการขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง และรายได้พิเศษครั้งเดียวที่เกิดขึ้นในไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา

จากการลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายโครงข่าย 5G และ 4G อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของการให้บริการ รวมถึงการเสริมคอนเทนต์ชั้นนำระดับโลกมาให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์รับชมใหม่ ๆ ส่งผลให้ต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น 2.9% เทียบกับปีก่อน และ 0.4% เทียบไตรมาสก่อน ขณะที่ค่าใช้จ่ายการตลาดและการบริหาร

โดยรวมเพิ่มขึ้น 11% จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านการตลาดในการออกแคมเปญต่าง ๆ ตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

โดยมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อม (EBITDA) สำหรับไตรมาส 2 ที่ 22,353 ล้านบาท ลดลง 2.8% จากปีก่อน และ 0.2% เทียบไตรมาสก่อน โดยมีผลการดำเนินงานแยกตามรายธุรกิจดังนี้

-ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีรายได้เพิ่มขึ้น 0.4% เทียบปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.3% ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังมีการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมโควิด-19 และการกลับมาของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจากการเปิดประเทศ แม้การแข่งขันราคายังรุนแรงต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 881,200 เลขหมาย ส่งผลให้ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือรวม 45.5 ล้านเลขหมาย

แบ่งเป็นลูกค้าระบบเติมเงิน 33.4 ล้านเลขหมาย และระบบรายเดือน 12.1 ล้านเลขหมาย ในส่วนของ 5G AIS มีผู้ใช้บริการรวมกว่า 3.9 ล้านราย เพิ่มขึ้น 39% ทำให้ยังรักษาความเป็นผู้นำด้านการให้บริการด้วยการพัฒนาโครงข่าย ที่มีความครอบคลุมกว่า 99% ในกรุงเทพฯ 96% ในพื้นที่ EEC และ 81% ของพื้นที่ประชากรทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าเพิ่มความครอบคลุมและความจุโครงข่ายให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ 5G ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

-ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ยังรักษาระดับการเติบโตเหนืออุตสาหกรรม มีรายได้เติบโต 22% เทียบปีก่อน และ 2.0% จากไตรมาสก่อน จากการเพิ่มพื้นที่การให้บริการไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ โดยในไตรมาส 2/2565 มีลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 106,300 ราย ปัจจุบัน AIS Fibre มีลูกค้ารวม 1,971,400 ราย ตั้งเป้าขยายให้ได้ 2.2 ล้านราย ภายในสิ้นปี

-ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร รายได้เติบโตแข็งแกร่ง คิดเป็น 38% เทียบปีก่อน และ 5.5% จากไตรมาสก่อน โดยได้เข้าไปร่วมทำงานกับภาคอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการนำเทคโนโลยีโซลูชั่นเข้ามาช่วยยกระดับขีดความสามารถ เช่น ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า สร้างศูนย์กลางนวัตกรรมและการทดสอบเทคโนโลยี 5G แห่งแรกในไทย AIS 5G NEXTGen Center ที่ Thailand Digital Valley บนพื้นที่ EEC

รวมถึงเปิดตัว AIS 5G NEXTGen Platform สำหรับพัฒนา 5G Use Cases แห่งแรกของไทย
และร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ระดับโลกต่อเนื่อง เพื่อนำเอาโซลูชั่นและบริการใหม่ ๆ อย่าง CCIID (Cloud, Cyber Security, IOT, ICT, Data Center) ที่ทุกอุตสาหกรรมตื่นตัวนำมาประยุกต์ใช้

นายสมชัยกล่าวด้วยว่า ความท้าทายในช่วงครึ่งปีหลังยังมีหลายปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญ ทั้งความเคลื่อนไหวของการเมืองระดับประเทศที่กระทบภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือแม้แต่ความรุนแรงของการแข่งขันที่จะเพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังจะลงทุนต่อเนื่องด้วยงบฯกว่า 30,000 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีแข็งแรงพร้อมเติบโตในอนาคตที่การเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อน Digital Economy สอดรับเป้าหมายการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tel-Co