JMART ปิดดีลลงทุน “สุกี้ ตี๋น้อย” สัดส่วน 30%

JMART ประกาศลุยธุรกิจอาหาร เข้าลงทุนใน “บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป (BNN)” เจ้าของแบรนด์ “สุกี้ ตี๋น้อย” ถือหุ้น 30% มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 1,200 ล้านบาท คาดดีลแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/65

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) ได้มีมติอนุมัติให้เข้าลงทุนและลงนามในสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการเข้าลงทุนในบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์ “สุกี้ ตี๋น้อย” จำนวน 352,941 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด โดยเป็นการซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 176,471 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 15% และซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ BNN จำนวน 176,470 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 15% มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 1,200 ล้านบาท โดยดีลนี้จะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 4/2565 นี้

ทั้งนี้ BNN เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารประเภทสุกี้ ภายใต้แบรนด์ “สุกี้ ตี๋น้อย” ซึ่งปัจจุบันมีสาขา 42 สาขาในประเทศ โดยมีแผนธุรกิจในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มบริษัทเจมาร์ทในฐานะที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี จะช่วยให้พันธมิตรทางการค้า BNN มีการเติบโตในด้านผลการดำเนินงานให้ได้ตามเป้าหมาย พร้อมช่วยดันการขยายสาขาไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงแผนการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ด้านผลการดำเนินงานของ BNN ในปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,572 ล้านบาท กำไรสุทธิ 148 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 9.41% มีอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 55.80% สะท้อนการเป็นบริษัทที่สร้างผลตอบแทนในระดับสูง และมีโอกาสในการเติบโตอีกมากในอนาคต

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนในครั้งนี้ นับเป็นการเดินหน้าตามกลยุทธ์ Technology Investment Holding Company (T-IHC) บริษัทเล็งเห็นว่าธุรกิจร้านอาหารของ BNN เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ และมีโอกาสในการเติบโตสูง มีความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ภายหลังจากการเข้าทำธุรกรรม รวมไปถึงการต่อยอดพันธมิตรทางธุรกิจ และก่อให้เกิดการผนึกกำลัง Ecosystem ที่จะแข็งแรงขึ้น และมีพอร์ตธุรกิจกลุ่ม Food & Beverage เพิ่มเติม โดยมองว่า หลังจากผสานความร่วมมือ นำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมทัพ จะสนับสนุนให้ BNN มีความพร้อมในการขยายสาขาได้อย่างก้าวกระโดด รวมทั้งการขยายธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ใหม่ และขยายสาขาในต่างจังหวัด และต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังเกิดเป็นความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ภายในกลุ่มบริษัท อาทิ การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อช่องทางของบริษัท และการนำเอาเทคโนโลยีที่บริษัทมี เช่น เทคโนโลยีทางด้าน CRM และ Promotion อันนำมาสู่การเติบโตทางธุรกิจของกลุ่มบริษัท สร้างโอกาสในการขยายธุรกิจประเภทค้าปลีก ทั้งในกลุ่มอาหาร เทคโนโลยี และพลังงานทดแทน

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน JMART ยังคงมีการหาพันธมิตรในธุรกิจค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี อย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอด Ecosystem ด้วยแนวคิดขับเคลื่อนธุรกิจด้วย “ใจ” ผลักดันในอนาคตเติบโตแบบก้าวกระโดด (Exponential Business Model) ทะยานสู่เป้าหมายมูลค่ากิจการรวมกลุ่มบริษัทที่ 500,000 ล้านบาท ในปี 2567