แผนตั้งศูนย์กลางผลิตชิป Intel ในยุโรปสะดุด พิษต้นทุนพุ่ง

โรงงานผลิตชิปในเมือง Magdeburg
ภาพเรนเดอร์โรงงานผลิตชิปในเมือง Magdeburg. ที่มา: Intel Corp.

โรงงานผลิตชิปของ Intel ในเยอรมนีสะดุด ต้นทุนก่อสร้างพุ่ง รอเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเยอรมนี 5 พันล้านยูโร ตามแผนสร้างฐานการผลิตชิป 20% ของโลกบนภูมิภาคยุโรป

วันที่ 8 มีนาคม 2566 บลูมเบิร์ก รายงานว่า บริษัท Intel Corp. ผู้ออกแบบและผลิตชิปประมวลผลคอมพิวเตอร์ กำลังรอเงินอุดหนุนเพิ่มเติมอีก 4-5 พันล้านยูโรจากรัฐบาลเยอรมนี เพื่อเดินหน้าศูนย์การผลิตชิปในภาคตะวันออกของเยอรมนีต่อ

Intel ได้บรรลุข้อตกลง การสร้างโรงงานในเมือง Magdeburg เมืองเอกของรัฐแซกโซนี-อันฮัลต์ สหพันธรัฐเยอรมนี ด้วยเงินอุดหนุนจากรัฐบาล 6.8 พันล้านยูโร (7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากคณะกรรมาธิการยุโรป

ภายใต้การนำของนาย Pat Gelsinger ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินเทล ได้เริ่มต้นสร้างโรงงานเพื่อผลิตชิปใหม่ทั้งในแผ่นดินใหญ่สหรัฐ และในสภาพยุโรป โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นความเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และช่วยปรับสมดุลการแข่งขันด้านผลิตชิปกับภูมิภาคเอเชียตะวันออก

โครงการตั้งฐานผลิตในเยอรมนีกำลังเผชิญกับความล่าช้า ท่ามกลางเกมกำลังกดดันของหลายประเทศ ที่พยายามสกัดจีนไม่ให้มีความสามารถในการผลิตชิปที่ก้าวหน้าขึ้นกว่านี้

เมื่อปีที่แล้วคณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศแผนที่เรียกว่า EU Chips Act เพื่อทุ่มเงิน 43 พันล้านยูโรในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์บนทวีปนี้ สอดคล้องกับการที่สหรัฐได้ออก Chip Act ทุ่มวงเงิน 50,000 ล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนการผลิตภายในประเทศของตนเอง

Intel เป็นบริษัทที่หันออกจากการผลิตชิป มาเน้นการออกแบบชิป จึงกำลังแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. และ Samsung Electronics Co. ที่มีฐานการผลิตขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออก ดังนั้น ความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐและคณะกรรมาธิการแห่งยุโรป จึงมีความสำคัญที่จะช่วยให้ Intel ตั้งตัวด้วยการสร้างโรงงานและกำลังการผลิตขึ้นมาใหม่บนทวีปอเมริกาและยุโรป

Intel จึงได้ประกาศขยายกิจการทั่วยุโรปเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นโครงการมีมูลค่า 33,000 ล้านยูโร รวมถึงศูนย์วิจัยชิปในฝรั่งเศส และการขยายโรงงานชิปที่มีอยู่แล้วในไอร์แลนด์ แต่ศูนย์กลางการผลิตชิปจะอยู่ที่เมือง Magdeburg ซึ่งเสนอราคาค่าก่อสร้างสูงกว่าพื้นที่อื่นทั่วยุโรป

ตั้งแต่สงครามของรัสเซียในยูเครนเริ่มต้นขึ้นในต้นปี 2565 ราคาพลังงานในยุโรปผันผวนอย่างมาก และอัตราเงินเฟ้อส่งผลให้ต้นทุนการก่อสร้างพุ่งสูงขึ้น เดิมที Intel คาดการณ์ว่าโครงการก่อสร้างในเยอรมนีจะมีราคา 17,000 ล้านยูโร จาก 33,000 ล้านยูโร แต่ตอนนี้เฉพาะที่เดียวอาจใช้เงินถึง 30,000 ล้านยูโร หรือราคาพุ่งเกือบเท่าตัว

โครงการส่วนใหญ่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลผ่านพระราชบัญญัติชิปแห่งสหภาพยุโรป Intel จึงคาดว่าจะได้รับการอุดหนุนประมาณ 40% ของโครงการในเยอรมนี หรือราว 4-5 พันล้านยูโร ในขณะที่บริษัทคาดหวังเงินทุนจากรัฐบาล พวกเขากล่าวว่า บริษัทยังเปิดรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอื่น ๆ ด้วย เช่น การลดหย่อนภาษีหรือการอุดหนุนด้านพลังงาน

ก่อนหน้านี้ สหภาพยุโรปมีการกำหนดเป้าหมายว่า จะต้องผลิตชิปให้ได้ 20% ของโลกภายในปี 2030 ทำให้รัฐบาลกลางเยอรมนีมีความพร้อมที่จะสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าวด้วยการอุดหนุนเงินหลายพันล้านยูโร และช่วยให้สามารถตั้งโรงงานใหม่ได้ เงินลงทุนเพิ่มเติมใด ๆ จะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมาธิการยุโรป