
คอลัมน์ : Pawoot.com ผู้เขียน : ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ
การเมืองที่ผ่านมาเรียกได้ว่ามีความร้อนแรงมาก ผมอยากมาพูดถึงเรื่องของเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมกำลังพูดถึงเรื่องของนโยบายหนึ่งของพรรคเพื่อไทย คือการจะแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุเกิน 16 ปีขึ้นไป ถือว่าเป็นกระแสที่แรงมากและเป็นการให้ที่ดูเหมือนจะมากที่สุดเท่าที่เคยทราบมา
ผมมานั่งศึกษาวิเคราะห์ และถามผู้รู้หลาย ๆ คน รวมถึงผมเองก็มีความเข้าใจในเทคโนโลยี blockchain อยู่พอสมควร แต่การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แก่คนในพื้นที่จำกัดรัศมีการใช้งานตามบัตรประชาชน 4 กิโลเมตร คำถามคือจะทำได้ไหม
- เปิด 5 อันดับบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด ปี 2566
- กรมอุตุฯเตือน 9-14 พ.ค. “พายุฤดูร้อน-พายุหมุนเขตร้อน” พัดถล่มหลายจว.
- สรุปเหรียญซีเกมส์ 2023 ล่าสุด ไทยทะยานขึ้นอันดับ 1
ตัวผมเองเคยทำเรื่อง blockchain ด้วย ต้องบอกก่อนว่า blockchain คือการเขียนโปรแกรมขึ้นมาให้เป็นการให้ค่าค่าหนึ่งให้กับบุคคลหรือใครก็ได้ที่มีวอลเลต เหมือนกับการเขียนสัญญา ศัพท์ในวงการเรียกว่าเป็น smart contract
การส่งไฟล์ให้แก่กันนั้น เราเขียนคำสั่งว่าให้ทำอะไรได้บ้าง เช่น ให้โอนจากไหน ไปหาใคร จะโดนล็อกไว้อย่างไร ฯลฯ ซึ่งเรานำเอาไฟล์นี้มาผูกกับค่าเงินจึงกลายเป็นมูลค่าเงินขึ้นมา แต่โดยพื้นฐานตัวของมันเองก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง เช่น แจกไป 10,000 บาท และต้องการให้เงินก้อนนี้ไปใช้เกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยว เพราะต้องการกระตุ้นด้านการท่องเที่ยว จากหนึ่งหมื่นก็อาจกลายเป็นหมื่นสามได้
แต่บางอย่างเมื่อไปดูลึก ๆ แล้ว ตัว smart contract ไม่มีเรื่องของโลเกชั่น ฉะนั้น สิ่งที่ทำได้เท่าที่ผมนึกออก คือร้านค้าต่าง ๆ ต้องมีการขึ้นทะเบียนไว้ เช่น ผมอยู่ตำบล ก. ร้านค้าต่าง ๆ ต้องมาลงทะเบียนว่าอยู่ในกลุ่มตำบลนี้ เงินที่จะแจกให้กับคนในตำบลนี้ก็จะผูกไว้ให้สามารถซื้อได้ในตำบลนี้ หรือร้านค้าที่ขึ้นทะเบียนตรงนี้ไว้เท่านั้น ตรงนี้ทำได้
แต่เมื่อคิดถึงขั้นตอนในการทำไม่ง่าย เพราะตอนทำโครงการ “คนละครึ่ง” หรือ “เที่ยวด้วยกัน” มีการโกงเกิดขึ้นจริง ๆ ผมเดาได้เลยว่าจะเจอแบบนี้คือ เมื่อผมได้เงินหนึ่งหมื่นมาแล้ว ผมต้องกลับไปที่บ้าน แต่ไม่อยากกลับ ผมก็จะเอารหัสของผมไปให้คนที่บ้านล็อกอินให้เลย
จากนั้นผมเชื่อว่าจะมีธุรกิจนี้คือ บริการเอาเงินออกจากกระเป๋า เช่น ผมเป็นร้านโชห่วยที่ขึ้นทะเบียนแล้ว คุณต้องการเอาเงินออกไปเท่าไหร่ก็จะมีการหักหัวคิว เอาเงินออกไป 1,000 บาท ร้านค้าจะได้ 100 บาท ส่วนเจ้าของเงินจะได้เงินสด 900 บาท เป็นต้น
ผมว่าวิธีการนี้มาแน่ เพราะตอนที่มี “เราเที่ยวด้วยกัน” ยังมีการโกงกัน เนื่องจากผมมีบริการเพย์เมนต์อยู่ในโครงการนี้ ปรากฏว่าผู้ให้บริการโรงแรมต่าง ๆ โกงกันเต็มไปหมด อาจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนน้อย แต่ส่วนน้อยนี้มียอดจองเป็นหลักแสน แถมยังอยู่ในจังหวัดไกล ๆ จนน่าแปลกใจ และเป็นโรงแรมที่มีห้องพักเพียง 5-6 ห้องเท่านั้น แต่ตอนหลังก็โดนจับ และโดนรัฐฟ้องร้องครับ
ผมว่าเทคโนโลยีการแจกไม่ยาก แต่เชื่อว่าเมื่อเป็นเงินจำนวนมหาศาลจะมีกลุ่มคนที่จะมาโยกเอาเงินออกมาจากระบบ โดยทำให้มันออกได้ง่ายมากที่สุด จากนั้นก็จะเอาเงินสดให้กับประชาชนแถวนั้นไป แล้วตัวเองจะได้ส่วนต่างจากเงินดิจิทัลนั้นไป ซึ่งผมว่าจะมีการเล่นแร่แปรธาตุอีกเยอะมากเลยทีเดียว
แต่ทั้งหมดแล้วสิ่งที่ผมชอบมีอยู่อย่างหนึ่งคือ เงินที่เป็นดิจิทัลอยู่แล้วจะไหลเวียนอยู่ในโลกดิจิทัล แต่จะออกมาเป็นเงินสดก็ต่อเมื่อคนคนนั้นที่อยู่ในระบบ vat คนหนึ่งที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ ตรงนี้น่าสนใจเหมือนกัน แต่ผมไม่รู้ว่าตอนทำ execution จะเป็นอย่างไร แต่บอกได้เลยว่ามีรูโหว่แน่นอน
ผมคิดว่าเขาต้องมาคิดวิธีให้ดี ว่าพอโอเปอเรชั่นมันรันไปแล้ว จะมีรูโหว่หรือแก้ปัญหาอย่างไร บางอย่างแก้ปัญหาได้ด้วยเทคโนโลยี blockchain เขียนล็อกเอาไว้ กันเอาไว้ แต่บอกได้เลยว่าไม่ว่าจะเขียนกันอย่างไร แต่คนไทยเก่งครับ จะมีบางคนที่รับนั่นรับนี่เอาเงินออกมา แต่ก็ดีที่โครงนี้มีระยะเวลา 6 เดือน เป็นระยะสั้น น่าจะเห็นผลได้นะครับ แต่ไม่แน่ใจในภาพรวมเหมือนกัน
ในมุมมองของนักเทคโนโลยีอย่างผม การโยนนโยบายนี้ออกมา ผมว่าเจ๋งมากเลยเป็นการแสดงให้เห็นว่าการนำเทคโนโลยีออกมาใช้ต้องใช้แบบนี้ ต้องนำมาใช้ในระดับประเทศ ซึ่งเทคโนโลยี blockchain ดีหลาย ๆ อย่างคือ ความโปร่งใสในแง่การเป็น programmable money คือเงินที่สามารถเขียนโปรแกรมเข้าไปได้ ถ้าเป็นเงินสดจะไม่สามารถแทร็กอะไรได้ สร้างปัญหาอย่างพวกธุรกิจสีเทาทั้งหลาย
ผมอยากเห็นนโยบายของพรรคการเมืองที่เอาเทคโนโลยีมาใช้มากกว่านี้ ผมว่าพรรคเพื่อไทยทำออกมาดีมากเลยเป็นการเปิดแนวคิดว่าจะมาใช้นโยบายแบบเดิม ๆ ไม่ได้แล้ว นโยบายต้องแฝงหรือบวกเทคโนโลยีเข้าไปถึงจะทรงอานุภาพ เป็นเหมือนอาวุธนิวเคลียร์
ผมว่านี่เป็นแนวคิดใหม่และเชื่อว่าหลายพรรคการเมืองยังไม่มีกุนซือด้านดิจิทัล ซึ่งเพื่อไทยมี แต่พรรคอื่น เช่น ไทยสร้างไทยก็มีอยู่หลายคน ก้าวไกลก็เป็นอีกพรรคหนึ่งที่ผมเห็นว่ามีหลายคน แต่ยังไม่เห็นนโยบายในเชิงที่เอาเทคโนโลยีมาใช้แบบชัด ๆ แบบเพื่อไทย วิธีการจะเป็นอย่างไรนี่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่นี่คือแนวคิดที่เอาเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งผมว่าไทยเราต้องการคนที่คิดแบบนี้อีกหลาย ๆ โครงการเลยทีเดียว