ปรากฏการณ์ “ไอซ์ รักชนก” แม่ค้าออนไลน์สู่นักการเมืองดาวรุ่ง

สัมภาษณ์

เป็นหนึ่งในว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่เคยเป็นม้านอกสายตา แต่ล้มยักษ์ เขต 28 กทม. ลงได้สำเร็จ สำหรับ “ไอซ์-รักชนก ศรีนอก” นอกจากเจ้าตัวจะขยันลงพื้นที่มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา อีกสิ่งที่โดดเด่น คือการใช้สื่อสังคมออนไลน์สื่อสารกับประชาชน โดยเฉพาะ TikTok ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นไวรัล คอนเทนต์ สร้างตำนาน “ขี่จักรยานล้มช้าง” ได้สำเร็จ

“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสพูดคุยกับ “ไอซ์-รักชนก” เรื่องการใช้สื่อโซเชียล และมุมมองเกี่ยวกับการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มต่าง ๆ

Q : ถ้าไม่ทำงานการเมืองจะทำอะไร

น่าจะยังทำอาชีพเดิม คือขายของออนไลน์ เพราะทำมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปี 1 ซึ่งต้องบอกว่าการขายของออนไลน์ทำให้ได้สกิลหลายอย่าง ต้องคิดเรื่องการตลาด เรียนรู้การใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก, ไอจี, ทวิตเตอร์, ช้อปปี้ หรือว่า TikTok ในการที่นำเสนอสินค้าทำให้ได้ฝึกสกิลในการนำเสนอตัวเราเองต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชน

Q : สกิลขายของออนไลน์ช่วยอย่างไร

ไอซ์เริ่มขายของจากยุคที่สามารถปั่นเฟซบุ๊กให้มีผู้ติดตาม หรือมียอดไลก์เยอะ ๆ สัก 3 แสนแล้วขายแอ็กเคานต์นั้นในราคาหาร 3 แล้ว ปั้นไอจีให้มีผู้ติดตามเป็นหมื่น แล้วก็เอาไปขายให้คนที่อยากเปิดกิจการ ทำเป็นร้านให้ดูน่าเชื่อถือ

ต้องบอกว่ายุคก่อนยังสามารถทำแบบนี้ได้อยู่ แต่ยุคนี้ทำไม่ได้แล้ว เพราะคนจะกลับไปดูประวัติของแอ็กเคานต์นั้น ๆ ก็ได้สกิลในการทำคอนเทนต์ ทำอย่างไรให้มีผู้ติดตามเยอะ ทำให้มีคนสนใจคอนเทนต์ จึงมีสกิลในการใช้โซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเองทั้งหมด

อันดับแรกเลย เราต้องรู้ว่าอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มไหนที่เราสามารถใช้ได้ เพราะอัลกอริทึมเหมือนกระแสน้ำที่พัดไป สมมุติว่าเราเลือกกระแสที่แรงแล้วมันนำทางเราไป มันก็จะทำให้เราฟีดคอนเทนต์แล้วมีคนดูเยอะ มีเอ็นเกจเมนต์เยอะ แต่ถ้าเลือกแพลตฟอร์มไม่ดี ไม่ถูกต้อง ต่อให้เสียเงินไปกับมันเท่าไหร่ ก็ได้ไม่คุ้ม ดังนั้นต้องรู้ก่อนว่าทุกแพลตฟอร์ม อัลกอริทึมทำงานอย่างไรถึงจะฟีดคอนเทนต์ของเราได้โดยที่ต้องฟรีด้วย

ไอซ์หาเสียง ไม่ได้ใช้เงินซื้อแอดเลย

Q : ใช้โซเชียลมีเดียไหนบ้าง

ใช้ 3 ช่องทาง คือ TikTok, เฟซ บุ๊ก, อินสตาแกรม ซึ่ง TikTok ทุกวันนี้มันเป็นบรอดแคสต์แล้ว แทบจะไม่เป็นแพลตฟอร์มแล้ว เพราะนอกจากจะแมสในตัวแพลตฟอร์มเองยังเป็นแหล่งที่คนเซฟคอนเทนต์ในนั้นแล้วก็เอามาส่งในไลน์ หรือเอาไปลงทวิตเตอร์ หรือไปลงเฟซบุ๊กมากที่สุด ดังนั้นต่อให้คนที่ไม่ได้อยู่ในแพลตฟอร์ม TikTok ก็สามารถเสพคอนเทนต์จาก TikTok ได้

ไอซ์เข้าใจการทำงานของโซเชียลมีเดีย เวลาขายนโยบาย เราเอาไปลงในแพลตฟอร์ม TikTok ก่อน หลังจากนั้นก็วัดความสำเร็จในการขายคอนเทนต์ โดยการมองว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ถ่ายคลิป TikTok มียอดวิวล้านวิว ก็โอเคทำสำเร็จ

หรือมีคลิป TikTok เราไปโผล่ในไลน์กลุ่มครอบครัว แปลว่ามีการแชร์ไปมาทั่วหมดแล้ว สุดท้ายวนกลับมาหาคนที่บ้าน เมื่อไรที่มีคนเซฟคลิปเรา แล้วไปแปะในทวิตเตอร์ แปะในเฟซบุ๊ก คือว่าประสบความสำเร็จแล้วในคอนเทนต์นั้น

Q : ชนะได้เพราะ TikTok

มีส่วนช่วยเยอะ การที่พรรคก้าวไกลมีกระแสได้แบบทุกวันนี้ที่เราคว้าได้ 150 ที่นั่ง เพราะใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการหาเสียง และประชาชนก็ช่วยเราใช้ด้วย ไม่ใช่แค่เราใช้คนเดียว

ใครที่ดูถูกกระแสในโลกโซเชียลมีเดีย หรือดูถูกผู้ใช้ในโลกโซเชียลมีเดีย ต้องบอกว่า คุณพลาด เพราะ 1 สิทธิ 1 เสียง ที่เราเข้าไปคุยกับเขาหน้าบ้าน คุยจบ เราอาจได้คะแนนนั้นหรือเปล่าไม่รู้ แต่ถ้าเราทำคอนเทนต์แล้วโดนใจผู้ใช้ ใน 1 แอ็กเคานต์ เขาอาจรีโพสต์ แล้วมีคนเห็นคอนเทนต์นั้น หรืออาจอัดคลิปเราไปลงเอง ก็จะมีคนเห็นคอนเทนต์ของเราไม่รู้กี่หมื่นกี่แสน

ตัวไอซ์ได้รับประโยชน์จากตรงนี้ คือ คลิปปั่นจักรยานหาเสียงคลิปแรกของไอซ์ มีคนมาถ่ายรูป ถ่ายคลิปลง TikTok ทำให้เรารู้สึกว่า นี่แหละคือเคล็ดลับความสำเร็จของเรา เพราะไม่ดูถูกเสียงในโซเชียลมีเดีย

เรียกว่า ใช้กระแสโซเชียลมีเดีย และเอนตามมันไป ไหลไปกับมัน ให้มันนำทางเราไป

Q : ได้ตำแหน่งแล้วจะใช้ต่อไหม

TikTok เป็นคลิปสั้น เอาไว้ใช้ในการสื่อสารนโยบาย เอาไว้อธิบายอะไรสั้น ๆ 3 นาที ซึ่งทำให้ต้องพัฒนาสกิล จะพูดอย่างไรให้กระชับ เข้าใจ ครอบคลุม ไม่ตกหล่น ทำความเข้าใจได้ภายใน 3 นาที

เป็นพื้นที่ในการสื่อสารนโยบายที่ดี อย่างเช่น ตอนไอซ์พูดเรื่องค่าไฟ แล้วคลิปสุดท้ายไม่รู้ว่าไปสู่กลุ่มไลน์ไหนบ้าง แล้วมันโผล่มาในกลุ่มไลน์ครอบครัวเรา ถือว่าประสบความสำเร็จมาก

Q : ถ้าจะให้คำแนะนำการใช้โซเชียลมีเดีย

โลกมาถึงยุคศตวรรษที่ 22 ที่ทุกคนมีมือถืออย่างน้อยคนละหนึ่งเครื่อง ทุกคนมีแอป มีเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม TikTok อย่างน้อย 2-3 แอป ถ้าใช้โซเชียลมีเดียเป็น ใช้คล่อง เราจะใช้ประโยชน์จากมันได้

เรียกได้ว่า เป็นการ “เสกเงิน” ในแพลตฟอร์ม เช่น ตอนนี้มีอาชีพใหม่นำสินค้าจากแพลตฟอร์มมารีวิว แล้วแปะลิงก์ร้านค้า หากมีการซื้อขายผ่านลิงก์ ก็ได้เป็นค่าคอมมิชชั่น

นี่คือโลกยุคใหม่ อาจเป็นการจับเสือมือเปล่า แต่คุณต้องจับเก่ง ต้องมีทักษะ

ถ้าบอกว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ช่วยลดช่องว่าง และเพิ่มโอกาสก็อาจจะเหมือนทอดทิ้งคนที่เข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยี แต่โลกก็มีความเหลื่อมล้ำอยู่ดี แต่ถ้าเราเห็นโอกาสแล้ว สามารถคว้ามาใช้ได้ก็อยากให้หยิบคว้ามาใช้

Q : ด้านมืดโซเชียลมีเดีย

ด้วยข้อมูลที่ไปเร็วมาก จึงไปได้เร็ว ทั้งข่าวจริง และข่าวปลอม วิจารณญาณของผู้ใช้มีส่วนสำคัญในการที่จะเลือกเสพข่าว หรือเลือกเชื่อข่าว ตัวไอซ์เองก็โดนเฟกนิวส์ เช่น เรื่องการทำตัวไม่เหมาะสม แค่ผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำ ถามว่าผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำแล้วเป็นผู้แทนราษฎรไม่ได้หรือ

บางคนก็รู้ว่าเป็นเฟกนิวส์ แต่ก็ยังส่งต่อเพราะไม่ชอบแบรนด์พรรคเรา ไม่ชอบตัวเรา ไม่ชอบในสิ่งที่เราผลักดันขับเคลื่อน จึงต้องมีวิจารณญาณในการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย

Q : มีวิธีรับมือยังไง

รับมือโดยเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นวัตถุดิบในการทำคอนเทนต์ต่อไป พอเขาสร้างข้อมูลว่า เราเป็นผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ ไม่ควรเป็นนักการเมือง ไม่ควรไปอยู่ในสภาอันทรงเกียรติ เหยียดว่าทำตัวเหมือนโสเภณีบ้าง เราก็ใช้วัตถุดิบตรงนี้ในการอธิบายว่า สังคมนี้ต้องเลิกด้อยค่าผู้หญิง เลิกด้อยค่าเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ ต้องเลิกดัดจริตว่าประเทศนี้ไม่มีเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ ไม่มีโสเภณี หรือด้อยค่าว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ไร้ศักดิ์ศรี

ชุดความคิดเหล่านี้ ทำให้ผู้หญิงมีศักดิ์ศรีไม่เท่าผู้ชาย ทำงานในตำแหน่งนำองค์กร ในสังคมได้ไม่ดีเท่าผู้ชายทำให้เราต้องออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมทั้งของผู้หญิงและความหลากหลาย เพราะทำให้สังคมไม่สามารถผลักดันให้เซ็กซ์เวิร์กเกอร์ถูกกฎหมายได้สักที

เราต้องยืนยันได้แล้วว่าชุดอะไรก็แล้วแต่ คุณไม่มีสิทธิไปตีค่าตีราคาบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงใส่ชุดว่ายน้ำ คนแต่งตัวมอซอ แต่งตัวดี หรืออะไรก็แล้วแต่

Q : วางอนาคตทางการเมืองของตัวเองอย่างไร

ในระยะสั้นอยากเป็นหนึ่งในมือที่ยกมือโหวตเลือก “ทิม พิธา” เป็นนายกฯ เป็นหนึ่งในมือที่ยกมือโหวตให้สมรสเท่าเทียมผ่าน เป็นหนึ่งในมือที่ยกมือโหวตให้สุราก้าวหน้าผ่าน ระยะสั้นที่สุด คือทำมติพรรคให้เกิดขึ้นจริง ให้ส่งผลกับชีวิตของพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่จะได้ประโยชน์จากกฎหมายเหล่านี้

หลังจากนั้นก็ให้เวลาให้สังคมมันไหลพาไป แล้วเราก็ไหลไปตามกับมัน อย่างเรื่องในพื้นที่ ก็แก้ไขปัญหาให้พ่อแม่พี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระดับประเทศ เชิงนโยบาย หรือเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันของเขา น้ำไม่ไหล ไฟไม่สว่าง ทางไม่สะดวก ฟุตปาทชำรุด ถนนสะพานพัง ยินดีทำให้ทุกอย่าง ถ้าทำให้คุณภาพชีวิตของพ่อแม่พี่น้องประชาชนดีขึ้น สะดวก มีศักดิ์ศรี มีเสรีภาพมากขึ้น เรายินดีทำให้ทุกอย่าง

Q : ต้นแบบการทำงาน

ต้นแบบในการทำงานอาจไม่มี แต่คนที่เราเคารพนับถือ น่าจะเป็น “พี่เอก ธนาธร” ถ้าวันนั้นเขาไม่ตั้งพรรคอนาคตใหม่ ถ้าเขาไม่จุดไฟในสายลม ก็จะไม่มีสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง กระดิ่งในหัวใจของผู้คนจะไม่สั่นขนาดนี้

ไม่ตื่นขนาดนี้ ตรงนี้ต้องขอบคุณพี่เอกจริง ๆ

Q : ตัวเองมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง

ช่วงเวลาใน 1 ทศวรรษ สิ่งที่เปลี่ยน คือ แนวความคิดจากคอนเซอร์เวทีฟ อนุรักษนิยมสุดโต่ง มาเป็นเสรีนิยม ทำให้มองว่ากระบวนการเปลี่ยนผ่านทางความคิดแบบนี้น่าจะเกิดขึ้นกับหลาย ๆ คนในสังคม ไม่งั้นมันคงไม่มีก้าวไกล 150 ที่นั่ง ในวันนี้

จริง ๆ การเป็นอนุรักษนิยมไม่ผิด แต่การเป็นอนุรักษนิยมในไทย กลายเป็นขวาตกขอบ สุดโต่ง จนไม่เหลือที่ยืนให้ชุดความคิดอีกแบบ ดังนั้นคุณจะอ่านหนังสือ จะเสพข้อมูล จะได้รับข่าวสารอะไร จะเป็นเสรีนิยมหรือเป็นอนุรักษนิยมก็ได้ แต่ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพ เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นให้มากเข้าไว้