
กสทช. อลหม่าน หลังรักษาการเลขาฯ กสทช.โดนเด้งพ้นตำแหน่งจากปมบอลโลก 2022 พนักงานเตรียมนัดรวมพลแต่งชุดดำแสดงพลัง 12 มิ.ย. นี้ แต่ภายหลังแจ้งยกเลิก
วันที่ 11 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุกิจ” รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีการนัดแนะให้พนักงานแต่งดำเพื่อแสดงพลัง ในวันจันทร์ที่ 12 มิ.ย. 2566 หลังจากบอร์ด กสทช.ประชุมลับมีมติปลดนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. เพื่อตั้งกรรมการสอบวินัย จากปมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022
โดยมีการส่งข้อความเชิญชวนว่า
“วันจันทร์ที่ 12 มิ.ย.นี้
ขอเชิญพี่ ๆ น้อง ๆ แลผองเพื่อน
แต่งดำ กันนะครับ
แสดงพลังให้นาย ๆ เห็นกันหน่อย
08.30 เป็นต้นไป พบกัน ณ ลานพระรูป
พบปะพูดคุยทักทายถามสารทุกข์สุกดิบกัน
09.10 แยกย้ายกลับไปตั้งใจปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ วิริยะ อุตสาหะ เพื่อองค์กรของเราดั่งเจตนารมณ์ของรองหนุ่ม รวมถึงพี่ ๆ รุ่นก่อน ๆ ที่ทำเพื่อองค์กร เพื่อประเทศชาติ
ปล. อย่าลืมช่วงเช้าดำทั่วสายลม สาย ๆ กลับไปแต่งเครื่องแบบตามระเบียบที่เรายึดถือปฏิบัติกันด้วยนะจ๊ะ
ขอบคุณครับ
“ชมรมคนรักหนุ่ม”
อย่างไรก็ตาม ในภายหลังได้มีส่งข้อความยกเลิกนัดหมายดังกล่าว โดยระบุว่าเนื่องด้วยหลายคน ให้ความเห็นว่าอาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องระเบียบและกระทบกับทุกท่าน เนื่องจากวันจันทร์ต้องใส่เครื่องแบบ จึงขอยกเลิกนัดแต่งดำออกไปก่อน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นภายในองค์กรที่กำลังรอว่าที่ เลขาธิการตัวจริง ที่อยู่ในกระบวนการสรรหา
สาเหตุที่เกิดความเคลื่อนไหวดังกล่าว สืบเนื่องจากวันศุกร์ที่ 9 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา บอร์ด กสทช.มีการประชุมวาระลับ เรื่องรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่า การสนับสนุนค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติตามกฎมัสต์แคร์รี่ (Must Carry) คือการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่ได้รับการสนับสนุนในทุกแพลตฟอร์มที่นำสัญญาณการแพร่ภาพของฟรีทีวีไปเผยแพร่ ต้องนำไปเผยแพร่ฟรีทุกช่องและทุกรายการ ไม่สามารถดัดแปลงหรือทำซ้ำได้ เพื่อให้ประชาชนทุกคนรับชมกีฬาที่สำคัญได้อย่างทั่วถึง
เมื่อรายงานผลแล้ว บอร์ด กสทช.มีมติพิจารณาความผิดของรักษาการเลขาฯ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการสนับสนุนดักล่าว โดยบอร์ด มีมติ 4:2:1 ชี้ว่านายไตรรัตน์เข้าข่ายมีความผิด ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย
แหล่งข่าวจากสำนักงาน กสทช.เปิดเผยว่า การตั้งกรรมการสอบวินัยเป็นอำนาจของ “เลขาธิการ” ซึ่งขณะนี้นายไตรรัตน์ ทำหน้าที่อยู่ จึงไม่สามารถให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนตนเองได้ เพราะยังมีอำนาจอยู่ จึงต้องให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ก่อน
และมติที่ออกมาถือว่าเป็นคำสั่งทางปกครองแล้ว ไม่ต้องรอเซ็นรับรองอะไร หลังจากนี้จะเป็นการสอบสวนทางวินัยภายในองค์กร จากปมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก เพราะยังไม่มีการขยายผลให้องค์กรภายนอกอย่าง ป.ป.ช.เข้าตรวจสอบ เพราะการสนับสนุนค่าใช้จ่ายดังกล่าวยังมีการกีฬาแห่งประเทศไทย เกี่ยวข้องด้วย ยังไม่เห็นว่ามีใครไปร้องเรียนในเรื่องนี้
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยนายไตรรัตน์จำเป็นต้องตั้งรักษาการเลขาธิการ กสทช.คนใหม่ ซึ่งต้องไม่ใช่คนที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เช่น ไม่มีการลงสมัครท้าชิงตำแหน่งเลขาธิการตัวจริง ซึ่งนายไตรรัตน์ก็เป็นผู้ลงสมัครในตำแหน่งนี้เหมือนกัน
และว่าการสอบสวนทางวินัยนี้ไม่มีผลทางกฎหมายกับการลงสมัครชิงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.ตัวจริง ยังมีสิทธิและมีคุณสมบัติได้รับการพิจารณาคัดเลือก แต่ในด้านพฤตินัยนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของบอร์ด กสทช.แต่ละท่าน