“เลอโนโว” ขยายน่านน้ำใหม่ เพิ่มโฟกัสปั๊มรายได้ Non PC

เลอโนโว

เมื่อเอ่ยถึง มังกรจีน “เลอโนโว” (Lenovo) หลายคนคงนึกถึงผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ (PC) ที่มีไลน์อัพสินค้าหลากหลาย และตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าทั่วไป และองค์กรต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน

อย่างไรก็ตาม แม้ “ฮาร์ดแวร์” จะยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ และกำไรได้เป็นอย่างดี แต่ Non PC ก็เป็นขาธุรกิจที่มีความสำคัญมากขึ้นมาก และถือเป็นน่านน้ำแห่งใหม่ที่น่าสนใจ และมีบทบาทมากขึ้นด้วย

รายได้ “Non PC” โตต่อเนื่อง

“ธเนศ อังคสิริสรรพ” ผู้จัดการทั่วไป เลอโนโว อินโดจีน เปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้ในปีงบประมาณ 2565/2566 (เม.ย. 2565-มี.ค. 2566) อยู่ที่ 6.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 13% จากปีก่อนหน้าที่ทำได้ 7.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ไอทีที่ลดลง หลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และผู้คนออกมาใช้ชีวิตมากขึ้น

เมื่อเจาะลงไปในรายละเอียดจะพบว่ารายได้จากธุรกิจอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์พีซี (Non PC) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 39% (PC 61%) จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 32% (PC 68%) ซึ่งในแง่ผลกําไรถือว่าค่อนข้างดี จึงจะมีการปรับสัดส่วน Non PC ให้เพิ่มขึ้นไป เพราะมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก

และกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ผลักดันการเติบโต คือการเพิ่มตัวเลือกใหม่ ๆ ในรูปแบบของเซอร์วิสที่ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานของลูกค้า ทั้งกลุ่มองค์กรและลูกค้าทั่วไป

“สมเกียรติ จิวรวัฒนกุล” ผู้จัดการ 4P กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ เลอโนโว ไทย, เมียนมา, ลาว และกัมพูชา เสริมว่า บริการใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในฝั่งคอนซูเมอร์จะครอบคลุมทั้งในแง่ออปชั่นและอายุการใช้งาน ทำให้ลูกค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และบริการได้นานขึ้น เช่น บริการหลังการขายในโปรแกรม “Legion Ultimate Support” จากเดิมมีระยะเวลา 1-2 ปี ก็ได้ขยายระยะให้นานขึ้นเป็น 3-4 ปี

หรือในกรณีของแบตเตอรี่ที่ออปชั่นเดิมจะมีประกันเฉพาะตัวเครื่อง แต่ลูกค้าซื้อประกันแบตเตอรี่เพิ่มได้ ด้วย “Premium Care Plus” ที่ครอบคลุมเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแบตเตอรี่ และประกันอุบัติเหตุ

โฟกัสรายอุตสาหกรรม

สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรจะดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ที่เรียกว่า “3S Strategy” เป็นการปรับเปลี่ยนแบบ “intelligent transformation” ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ smart IOT (ผลิตภัณฑ์ครบตอบโจทย์ความต้องการ), smart infrastructure (ให้บริการ server storage ดูแลระบบหลังบ้าน) และ smart verticals (โซลูชั่นเฉพาะทางสำหรับความต้องการที่แตกต่าง) ให้ความสำคัญกับ vertical solution หรือโซลูชั่นแบบ End-To-End ที่เจาะลึกในแต่ละอุตสาหกรรมมากขึ้น

“ในฝั่งคอมเมอร์เชียลยังล้ออยู่ในกรอบของ 3S Strategy จะเน้น vertical solution มากขึ้น โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราได้ตั้งทีม Retail ขึ้นมาเฉพาะ จะมีโซลูชั่นเกี่ยวกับ POS มาทำระบบหลังบ้านให้ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกรายใหญ่ และมีโซลูชั่น digital workplace ที่ตอบสนองความต้องการขององค์กรในการทํางานรูปแบบใหม่ในลักษณะไฮบริด

รวมไปถึง cloud service provider ที่เราเข้าไปขายเซอร์วิส และไลเซนส์ Microsoft Cloud ให้ลูกค้าองค์กรต่าง ๆ พวกนี้จะเป็นธุรกิจในกลุ่ม Non PC ล้วน ๆ แทบไม่ได้ขายเครื่องเลย”

ปัจจุบัน เลอโนโวมีรายได้จาก 3 กลุ่มธุรกิจคือ 1.กลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับโซลูชั่น และเซอร์วิส (solutions & services group : SSG) มีรายได้ 6.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ 2.กลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์(infrastructure solutions group หรือ ISG) มีรายได้ 9.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ 3.กลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ PC และฮาร์ดแวร์ (intelligent devices group : IDG) มีรายได้ 4.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ติดอาวุธทีมงานซัพพอร์ตลูกค้า

“ธเนศ” กล่าวต่อว่า บริษัทแม่ของเลอโนโว ผลักดันให้บริษัทลูกในแต่ละภูมิภาคโฟกัสธุรกิจในกลุ่ม solutions & services มากขึ้น อย่างในประเทศไทยก็มีการจัดฝึกอบรบเรื่องโซลูชั่นให้กับฝ่ายขายทุกสัปดาห์ เพื่อติดอาวุธทีมงานให้มีความพร้อมสำหรับสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เป็นการเตรียมความพร้อมให้ทีมงาน ถ้าลูกค้าสนใจเรื่องนี้ เราก็สามารถเล่าให้ลูกค้าฟังได้ อย่างตอนนี้เรื่องที่เรากำลังชูคือ ESG เรามีการชดเชยคาร์บอน (carbon offset) เป็นเซอร์วิส ซึ่งมีหลาย ๆ องค์กรที่ค่อนข้างใส่ใจเรื่องนี้ บางแห่งอยู่ใน vision ขององค์กรของเขาเลย ดังนั้น ทีมงานเราก็ต้องใส่ใจเรื่องความยั่งยืนด้วยเช่นกัน เขาจะบอกเลยว่าทุกเครื่องที่เขาซื้อควรได้เครดิตจากการทํา carbon offset”

“ธเนศ” กล่าวว่า การเป็นผู้นำในตลาด PC ช่วยให้กลุ่มธุรกิจ solutions & services เติบโตขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการเติมเซอร์วิสเข้าไปในการขายผลิตภัณฑ์ PC และฮาร์ดแวร์ หรือการออกแบบโซลูชั่นเพื่อแก้ปัญหาที่ทำให้การทำงานของลูกค้าสะดุด และให้สอดคล้องกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการจะไป เช่น เรื่องความยั่งยืนเป็นคีย์หลักที่ บางบริษัทจะทำในปีนี้ หรือต่อเนื่องไปอีก 5 ปี ก็จะเข้าไปนำเสนอโซลูชั่นเกี่ยวกับ ESG เป็นต้น

ต่อยอดดึงเม็ดเงินจากธุรกิจ PC

“ผมมองว่าฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์เป็นสองส่วนประกอบกัน ฮาร์ดแวร์เป็นไซเคิลอยู่แล้ว อย่างธนาคาร 5 ปีก็ต้องเปลี่ยนเครื่อง เราจะมีดีลของธนาคาร ดีลของหน่วยงานราชการต่าง ๆ อยู่แล้ว ทีนี้เราก็จะ top-up ในส่วนของโซลูชั่นที่จับตลาดคอมเมอร์เชียลเพิ่มเติมเข้าไป

โซลูชั่นของฝั่งคอมเมอร์เชียลจะมีความซับซ้อน เช่น digital workplace ทําอย่างไรถึงจะช่วยองค์กรในการบริหารจัดการพื้นที่ที่จํากัดได้ บางองค์กรลดพื้นที่ในออฟฟิศ 50% ก็ไม่รู้จะจัดการอย่างไรโดยไม่ได้ลดคน อย่างการจองที่นั่งที่เป็น mobile station หรือจองห้องประชุม จะมีโซลูชั่นพวกนี้อยู่ เราก็ทำ collaboration จับมือกับ Zoom และ Microsoft Teams รวมเป็นโซลูชั่นที่เอาเข้ามาขายในกลุ่ม Non PC”

แม้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Non PC จะเป็น “ดาวรุ่ง” ที่สร้างรายได้ และผลกำไรให้บริษัทในระดับดีมาก แต่ “เลอโนโว” ก็จะยังคงรักษาความโดดเด่นในตลาด PC ซึ่งถือเป็น “cash cow” หรือกลุ่มธุรกิจที่สร้างผลกำไรให้บริษัทมากที่สุดพร้อมกันไป เพราะแต่ละกลุ่มธุรกิจโฟกัสเป้าหมายที่ต่างกัน

“เรามีธุรกิจ 3 ส่วน ส่วนแรก SSG เป็นดาวเด่น และกําลังจะโต ส่วนที่สอง ISG เป็นเบอร์สามในตลาดเมืองไทย เราก็มีโจทย์ว่าจะขึ้นเป็นเบอร์สองเมื่อไร หรือจะเป็นเบอร์หนึ่งเมื่อไร ส่วนที่สาม PC เราเป็นเบอร์หนึ่งในเมืองไทยอยู่แล้ว ก็มีโจทย์ว่าจะรักษาจุดแข็งตรงนี้อย่างไร มันมีรูปแบบในการโฟกัสที่แตกต่างกัน ถามว่าเราเลือกที่จะโฟกัสส่วนไหนเป็นพิเศษไหม คำตอบคือไม่ เราเน้นทุกตัว”