“Coursera” ยักษ์แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์จากสหรัฐ เผยรายชื่อ 10 คอร์สเรียนยอดนิยมของผู้เรียนชาวไทย พบ “ภาษาจีน-ภาษาเกาหลี” ติดโผ 5 อันดับแรก
วันที่ 19 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า คอร์สเซรา (Coursera) ยักษ์แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์จากสหรัฐที่เพิ่งเข้ามาบุกตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ เผยสถิติและพฤติกรรมการใช้งานของผู้เรียนชาวไทย ซึ่งเป็นข้อมูลที่รวบรวม ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2566
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
จากรายงานของ Coursera ระบุว่า จำนวนผู้เรียนในไทยมีอยู่ราว 815,000 คน เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นชาย 49% หญิง 51% และมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 31 ปี อีกทั้งผู้เรียนกว่า 44% ใช้โทรศัพท์มือถือในการเรียน
นอกจากนี้ Coursera ยังเผยรายชื่อ 10 คอร์สเรียนยอดนิยมของผู้เรียนชาวไทย ได้แก่
-
- ภาษาจีนขั้นพื้นฐาน จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
- Foundations: Data, Data, Everywhere จาก Google
- ปูพื้นฐานสำหรับการบริหารจัดการโครงการ (Project Management) จาก Google
- ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยโทรอนโต
- ภาษาเกาหลีขั้นพื้นฐาน จากมหาวิทยาลัยยอนเซ
- ภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
- ปูพื้นฐานการออกแบบ User Experience (UX) จาก Google
- การตั้งคำถามให้มีประสิทธิภาพเพื่อการตัดสินใจที่เฉียบแหลมจากข้อมูล (Data-Driven Decisions) จาก Google
- ภาษาจีนขั้นพื้นฐานเพิ่มเติม จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
- ปูพื้นฐานการตลาดดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ จาก Google
ในขณะที่คอร์สเรียนยอดนิยมของผู้เรียนทั่วโลก 10 อันดับแรกเป็นดังนี้
-
- Foundations: Data, Data, Everywhere จาก Google
- ปูพื้นฐานสำหรับการบริหารจัดการโครงการ (Project Management) จาก Google
- ศาสตร์แห่งความสุข จากมหาวิทยาลัยเยล
- ปูพื้นฐานการตลาดดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ จาก Google
- การตั้งคำถามให้มีประสิทธิภาพเพื่อการตัดสินใจที่เฉียบแหลมจากข้อมูล (Data-Driven Decisions) จาก Google
- ภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
- ปูพื้นฐานการออกแบบ User Experience (UX) จาก Google
- ตลาดการเงิน จากมหาวิทยาลัยเยล
- พื้นฐานการบริการด้านเทคนิค จาก Google
- Supervised Machine Learning: Regression and Classification จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด