รฟม. ทุ่มงบ 63 ล้าน สร้างลานจอดรถอัจฉริยะ พร้อมให้บริการตุลาคมนี้

รฟม.-เจนก้องไกล

“รฟม.” เตรียมให้บริการลานจอดรถอัจฉริยะ 10 แห่ง ในพื้นที่การเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน กลาง ต.ค.นี้ คาดปีหน้าพร้อมใช้ระบบอัจฉริยะทุกแห่ง

วันที่ 15 กันยายน 2566 นายยุทธศักดิ์ ชื่นใจ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. กล่าวว่า รฟม.ให้บริการพื้นที่จอดรถในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากว่า 18 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน และควรค่าแก่การพัฒนาพื้นที่ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานในยุคนี้ ที่ต้องการความสะดวกสบายและความรวดเร็วมากขึ้น

“ด้วยความที่เราเป็นรัฐวิสาหกิจ การปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ลานจอดรถครั้งนี้จึงเริ่มต้นจากการจัดซื้อจัดจ้างและประมูลแบบ e-Bidding ซึ่งบริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการประมูลและรับผิดชอบการดำเนินงานในโครงการทั้งหมด”

ด้านนายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK กล่าวว่า เป้าหมายของโครงการนี้คือ การพัฒนาลานจอดรถรูปแบบใหม่ ที่ทุกอย่างเป็นระบบอัตโนมัติ โดยโจทย์ในการปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายจาก รฟม.แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การพัฒนาทางกายภาพ หรือการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ และการพัฒนาระบบอัจฉริยะในพื้นที่ลานจอดรถ (Smart Parking)

“สำหรับการพัฒนาทางกายภาพมีเป้าหมาย 3 ส่วนคือ 1.สวยและเหมาะกับการให้บริการ 2.เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 3.สามารถสร้างรายได้และใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่มีร้านค้าต่าง ๆ เข้ามาทำธุรกิจในพื้นที่ ส่วนการพัฒนาระบบอัจฉริยะ เราได้โจทย์มาเยอะมาก แต่หลัก ๆ แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1.ต้องเป็นผู้นำตลาด แตกต่างไม่เหมือนใคร 2.สะดวกและทันสมัย 3.ลดต้นทุนการดำเนินงาน”

ปัจจุบันการพัฒนาพื้นที่ลานจอดรถอัจฉริยะในโครงการนี้สำเร็จไปแล้ว 10 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ตั้งแต่สถานีรัชดาภิเษก-สามย่าน คาดว่าจะเริ่มให้บริการช่วงกลางเดือนตุลาคม 2566 และในส่วนของระบบอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นจะถูกใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น “MRTA Parking” ที่ รฟม.เปิดให้ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2565 เป็นหลัก

“หลัก ๆ ระบบที่เราพัฒนาให้ รฟม.จะเป็นการสแกน QR Code บนแอปเพื่อเข้า-ออกในพื้นที่แล้วเลือกจ่ายเงินตามวิธีที่สะดวก หรือใครที่ไม่มีแอปก็สามารถใช้บัตร QR Code แทนได้ ส่วนผู้ใช้งานที่สมัครสมาชิกประจำไม่ต้องสแกน QR Code เข้า-ออก เพราะระบบกล้องจะอ่านข้อมูลจากป้ายทะเบียนรถและเปิด-ปิดไม้กั้นอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น คาดว่าการพัฒนาพื้นที่ลานจอดรถทั้ง 10 แห่ง อาจช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ รฟม.ราว 10%” นายสันติพลกล่าว

ทั้งนี้ นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า แต่เดิมแอป MRTA Parking เปิดให้ใช้งานสำหรับสมาชิกรายเดือนที่ใช้ช่องจอดในพื้นที่เป็นประจำเท่านั้น ก่อนจะขยายผลมาสู่การใช้งานแบบเที่ยวเดียว ในโครงการปรับปรุงพื้นที่ครั้งนี้ที่มีงบประมาณจากการจัดซื้อ จัดจ้าง และการประมูลราว 63 ล้านบาท

“เราเชื่อว่าแอปที่ใช้อยู่สามารถเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้าไปได้เรื่อย ๆ เช่น ระบบการจองที่จอดรถ และการผูกระบบกับสถานีชาร์จ EV ซึ่งการดึงดูดใจให้คนเข้ามาใช้งานแอปเราคงมาจากความสะดวกสบายเป็นหลัก ซึ่งการสร้าง incentive กับพันธมิตรเป็นแผนการที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และคาดว่าพื้นที่ลานจอดรถทุกแห่งที่ปัจจุบันให้บริการประมาณ 11,000 ช่องจอดจะสามารถเปลี่ยนเป็นระบบอัจฉริยะได้ภายในปีหน้า”