Netflix จ่อขึ้นราคาแพ็กเกจพื้นฐาน

Netflix
pixabay

สื่อนอกรายงาน Netflix วางแผนเตรียมขึ้นราคาแพ็กเกจ หลังต้นทุนเพิ่มจากการเจรจาค่าตอบแทนแรงงานสายบันเทิงหยุดงานประท้วง สอดรับกับกระแสการขึ้นราคาค่าบริการสตรีมมิ่งทั่วโลก

วันที่ 6 ตุลาคม 2566 สำนักข่าว The Wall Street Journal รายงานว่า Netflix วางแผนที่จะขึ้นราคาค่าบริการ หลังจากที่แรงงานในอุตสาหกรรมบันเทิง เมืองฮอลลีวูด สหรัฐอเมริกา หยุดงานประท้วง

Netflix วางแผนที่จะขึ้นราคาจากบริการแบบไม่มีโฆษณา โดยจะรอจนกว่านักเขียนและนักแสดงฮอลลีวูดจะยุติการประท้วงหยุดงาน สมาคมนักเขียนแห่งอเมริกาได้ประกาศข้อตกลงเบื้องต้นกับสตูดิโอต่าง ๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และ Screen Actors Guild ซึ่งนัดหยุดงานในเดือนกรกฎาคม ได้เริ่มการเจรจากับสตูดิโอฮอลลีวูดอีกครั้งในสัปดาห์นี้

นักเขียนจะได้รับการปรับปรุงสัญญาจ้างครั้งใหญ่ในข้อตกลง ครอบคลุมการจ่ายโบนัสใหม่ และค่าลิขสิทธิ์ที่สูงขึ้น ดังนั้นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งจำเป็นต้องหาวิธีที่จะหาจ่ายค่าใช้จ่ายมาเพิ่มเพื่อทำตามข้อตกลงของสมาคมนักเขียน ผู้กำกับ และนักแสดง

รายงานระบุด้วยว่า บริการสตรีมมิ่งหลายรายกำลังหารือเรื่องการขึ้นราคาในหลายตลาดทั่วโลก แต่มีแนวโน้มว่าจะเริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดา แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า Netflix จะขึ้นราคาเท่าใด หรือเมื่อใด

อย่างไรก็ตาม การขึ้นราคาบริการของ Netflix ในรอบปี 2566 นี้ เกิดในช่วงเดือน พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา เป็นการปรับวิธีคำนวนการแชร์หน้าจอ หรือแพ็กเกจครอบครัวใหม่ หากมีการแชร์หน้าจอไปยังบุคคลนอกครัวเรือนจะได้รับอีเมล์แจ้งเตือน ดังนั้นเพื่อให้บุคคลภายนอกใช้งานบัญชีร่วมกันได้จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม 99 บาท ต่อ 1 สมาชิกเสริม

โดยบัญชีแบบแพ็กเกจมาตรฐาน 349 บาท จะเพิ่มสมาชิกเสริมได้ 1 คน และแพ็กเกจพรีเมี่ยม เพิ่มสมาชิกเสริมได้ 2 คน

รายงานยังระบุอีกด้วยว่า สถานการณ์ในตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งขณะนี้เป็นจังหวะเร่งทำกำไรของหลายแพลตฟอร์ม โดยการขึ้นราคาจากค่าบริการรายเดือน เช่น บริการสตรีมมิ่ง Discovery+ เวอร์ชั่นไม่มีโฆษณาเพิ่มขึ้นเป็น 8.99 ดอลลาร์ จาก 6.99 ดอลลาร์

Apple TV จำหน่าย MLS Season Pass ของ Major League Soccer ในราคา 12.99 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับผู้ที่สมัครสมาชิกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Apple TV+ ในราคา 6.99 ดอลลาร์ต่อเดือน และสำหรับผู้ที่ไม่ได้สมัครสมาชิกในราคา 14.99 ดอลลาร์ต่อเดือน

Amazon กำลังปรับเพิ่มระดับราคาใหม่ สำหรับบริการ Prime Video ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยบริษัทจะใส่โฆษณาไว้ในแพ็กเกจ Prime Video และหากผู้ใช้ต้องการรับชมโฆษณาก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 2.99 ดอลลาร์ เพื่อแพ็กเกจที่ไม่มีโฆษณาคั่น

สัปดาห์หน้าค่าบริการของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Disney เวอร์ชั่นไม่มีโฆษณา ได้แก่ Disney+, Hulu และ ESPN+ กำลังจะปรับสูงขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นราคาที่เพิ่มขึ้นตามที่บริษัทประกาศในช่วงต้นปี

โดยการขึ้นราคาเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ จากการจ่ายเงินไปกับค่าคอนเทนต์จำนวนมาก เพื่อเร่งโตด้วยจำนวนผู้ชม จากนั้นก็เรียกเก็บเงินเพิ่มจากผู้ใช้เพื่อเติบโตด้านรายได้