TKC โชว์กำไร 9 เดือนแรก 202.71 ล้าน เพิ่ม 25.11 % โค้งสุดท้ายปี ช’66 ชู 8 กลุ่มธุรกิจกวาดรายได้ ตั้งเป้าโตอีก 20% เผยควบรวม AIT ต่อยอดความเชี่ยวชาญ ปักธงผู้นำโทรคมนาคม-ไอซีที และดิจิทัล
วันที่ 1 ธันวาคม 2566 นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC เปิดเผยว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 บริษัทเดินหน้าลงทุนในธุรกิจเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และได้พันธมิตรใหม่เพื่อต่อยอดสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
โดยผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/2566 ทำกำไรอยู่ที่ 73.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.90% จากไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 41.74 ล้านบาท มีรายได้รวม 943.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 399.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 73.30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 544.71 ล้านบาท โดยใน 9 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 202.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 162.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.11%
สำหรับรายได้หลักในไตรมาส 3/2566 มาจากงานโครงการ 633.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 308.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 94.98% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ ที่ให้บริการออกแบบ จัดหา และติดตั้งงานระบบสื่อสารโทรคมนาคม ระบบความปลอดภัยของสาธารณะ และระบบบริการดิจิทัล ซึ่งเริ่มดำเนินงานในปี 2566
ขณะที่มีรายได้จากงานบริการวิศวกรรมและบำรุงรักษา 302.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.44 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 41.36% เนื่องจากมีการรับรู้รายได้งานโครงการขนาดใหญ่ที่ดำเนินการในปี 2566 ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้จากการให้บริการพัฒนาทักษะความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสู่สังคมดิจิทัล
นายสยามกล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานโค้งสุดท้ายของปีนี้ ในไตรมาส 4 ว่า มั่นใจยังมีทิศทางที่ดี เป็นไปตามแผนที่วางไว้ในการเดินหน้าสู่เป้าหมายรายได้เติบโตในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 20% จาก 8 กลุ่มธุรกิจ และมุ่งสู่การเป็นที่ 1 ในธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่น ครอบคลุมด้านโทรคมนาคมและไอซีที ต่อยอดธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต เช่น ระบบ Smart Solutions
“เราจะมุ่งเน้น Smart Hospital, Smart Platform, Smart Logistics, Cyber Security, Smart Learning และ Smart Farming ที่เป็นโอกาสสร้างการเติบโตใหม่ ๆ โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี IOT ร่วมกับการสร้างและออกแบบเน็ตเวิร์ก และเซิร์ฟเวอร์มาเสริมสร้างประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และควบคุมคุณภาพในธุรกิจด้านต่าง ๆ ซึ่งตอนนี้บริษัทมีการเซ็นสัญญารับงานกับลูกค้าเข้ามาบ้างแล้ว”
ปัจจุบัน TKC มีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 3,200 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 20% โดยตั้งเป้าความสามารถในการเข้าประมูลประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะเลือกเข้าร่วมประมูลโครงการที่มีความเชี่ยวชาญ ตั้งเป้าอย่างน้อยจะมีงานเข้ามาเติมพอร์ตประมาณ 30-40% ของการเข้าร่วมประมูล และในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท จากธุรกิจหลักด้านโทรคมนาคมที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายสยามกล่าวถึงการเข้าซื้อหุ้น บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ทำให้ TKC เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ใน AIT ในสัดส่วน 24.38% ทำให้ TKC มีโอกาสในการขยายธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจด้านโทรคมนาคม และไอซีที ให้เติบโตต่อเนื่องตามแผนที่ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจด้านนี้
