สื่อนอกชำแหละ “Qingyun L540″ แล็ปทอปรุ่นใหม่ของ “Huawei” พบยังใช้ชิป 5 นาโนเมตร ที่ผลิตโดย TSMC ในไต้หวัน ด้านผู้เชี่ยวชาญคาดจีนผลิตได้เองเมื่อไร ส่งแรงสั่นสะเทือนถึงวงการเทคโนโลยีสหรัฐอีกระลอกแน่นอน
วันที่ 5 มกราคม 2567 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า แล็ปทอป Qingyun L540 ที่ “หัวเว่ย” (Huawei) เปิดตัวไปเมื่อเดือน ธ.ค. 2566 ใช้ชิป 5 นาโนเมตร ที่ผลิตโดย Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ในไต้หวัน
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
นั่นทำให้ประเด็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีนถูกตั้งคำถามอีกครั้ง เนื่องจากชิปรุ่นดังกล่าวไม่ได้ผลิตโดย Semiconductor Manufacturing International Corp. (SMIC) บริษัทผลิตชิปในจีน ที่เป็นพันธมิตรด้านการผลิตชิปในประเทศของ Huawei อย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้
จากการแยกชิ้นส่วนภายในแล็ปทอป Qingyun L540 ของ TechInsights บริษัทวิจัยทางเทคโนโลยี พบว่าโปรเซสเซอร์ Kirin 9006C ที่เป็นขุมพลังหลักของเครื่องผลิตด้วยสถาปัตยกรรม 5 นาโนเมตรของ TSMC ที่ประกอบขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐอเมริกาเริ่มคว่ำบาตรและตัดสิทธิการเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตชิปรุ่นใหม่ของ Huawei พอดี
ก่อนหน้านี้ Huawei ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับวงการเทคโนโลยีจีนและสหรัฐ เมื่อสมาร์ทโฟนเรือธงที่เปิดตัวในเดือน ส.ค. 2565 อย่าง “Mate 60 Pro” ใช้โปรเซสเซอร์หลักเป็นชิป 7 นาโนเมตร ที่ผลิตโดย SMIC ซึ่งเป็นการแสดงถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาชิปของจีนที่พยายามลดการพึ่งพาต่างชาติ และสะท้อนว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอาจทำให้วงจรการพัฒนาเทคโนโลยีของจีนหมุนเร็วขึ้นด้วย
ทั้งนี้ เทคโนโลยีที่รวมอยู่ใน Mate 60 ยังทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ที่สามารถทำยอดขายแซงหน้า iPhone ของ “แอปเปิล” (Apple) ที่ครองตลาดสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมในจีนมานานได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม การที่ Huawei ตัดสินใจใช้โปรเซสเซอร์หลักของแล็ปทอปรุ่นใหม่ เป็นชิป 5 นาโนเมตร แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของบริษัทจีนที่เข้าใกล้เทคโนโลยีล่าสุดมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคาดว่า ถ้า SMIC สามารถผลิตชิปรุ่นดังกล่าวได้เมื่อไร จะนำมาซึ่งความท้าทายให้กับสหรัฐอีกระลอกอย่างแน่นอน
แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า Huawei จะจัดหาโปรเซสเซอร์ชิป 5 นาโนเมตรลอตใหม่เข้าเติมจากสต๊อกที่มีอยู่ได้อย่างไร แต่หลังจากที่สหรัฐเริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้า Huawei ได้ทุ่มเงินมูลค่ามหาศาลในการวิจัยและพัฒนาชิป พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายซัพพลายเออร์และพันธมิตรการผลิตในประเทศ ซึ่งในบางกรณีก็ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนด้วย