ZORT ชี้อีคอมเมิร์ซยังโต ฝากการบ้านรัฐบาล ป้องผู้ค้าไทยเสียเปรียบ

ZORT ชี้อีคอมเมิร์ซยังโต ฝากการบ้านรัฐบาล ป้องผู้ค้าไทยเสียเปรียบ

ZORT เผยอีคอมเมิร์ซยังโตในทุกแพลตฟอร์ม รับมือสินค้าข้ามพรมแดน-ความปลอดภัยในข้อมูล ชี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไทยต้องใช้ระบบจัดการสินค้า การชำระเงิน และเครื่องมือช่วยทำมาตรการส่งข้อมูลภาษี ฝากการบ้านรัฐบาลช่วยดูการแข่งขันที่เท่าเทียม ป้องสินค้าจีนปลอดภาษีถล่ม

วันที่ 19 มกราคม 2567 นายสวภพ ท้วมแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด (ZORT) แพลตฟอร์มบริหารจัดการออร์เดอร์และสต๊อกครบวงจร (Seller Management Platform) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ZORT ประสบผลสำเร็จโดยการเพิ่มยอดมูลค่าการเติบโตให้ลูกค้าถึง 35% ลดต้นทุนทางธุรกิจได้ถึง 30%

ในปี 2024 ตั้งเป้ามีผู้ใช้แพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น 55% เน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการระบบที่ได้ไว้วางใจได้และครบวงจร เป็นไปตามตลาดอีคอมเมิร์ซที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง

สวภพ ท้วมแสง
สวภพ ท้วมแสง

โดยการขายสินค้าผ่านไลฟ์สดยังเป็นเทรนด์ที่มาแรง ทุกแพลตฟอร์มมุ่งพัฒนาให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า และคาดว่าการขายสินค้าผ่านหน้าร้านจะเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากคนออกไปจับจ่ายสินค้าและใช้ชีวิตนอกบ้านเหมือนตอนก่อนเกิดโควิด

โดยในปี 2023 ที่ผ่านมี ZORT มีลูกค้าที่ขายผ่านหน้าร้านเพิ่มขึ้น 87% ขณะเดียวกัน คาดว่าภาพรวมของตลาดอีคอมเมิร์ซจะเติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 7% หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดรวม 6.34-6.94 แสนล้านบาท

“เนื่องจากเทคโนโลยีในปัจจุบันเอื้อให้การช็อปปิ้งออนไลน์สะดวกกว่าเดิม และลดขั้นตอนการจ่าย ทำให้ประหยัดเวลาในกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ อีกทั้งสินค้าในตลาดออนไลน์มีจุดเด่นคือ ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบราคาจากร้านต่าง ๆ ได้ภายในเวลาเรียลไทม์ จึงทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้เร็วกว่า”

นายสวภพกล่าวด้วยว่า ในฝั่งของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลซ หรืออื่น ๆ ที่เพิ่งเริ่มมีมาตรการส่งข้อมูลเพื่อเก็บภาษีจากกรมสรรพากรนั้น ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก เพราะผู้ใช้งาน ZORT ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ประกอบการไทย รายได้ไม่ได้สูงมาก และหากสามารถใช้ระบบหลังบ้านจัดการสินค้าที่เชื่อมต่อกับระบบบัญชีได้ด้วย ยิ่งสร้างความสะดวกให้ผู้ประกอบการ

“โดยส่วนตัวสิ่งที่ผมคิดว่าควรมีมาตรการที่ส่งผลต่อพ่อค้าแม่ค้าไทยมากที่สุด คือ เรื่องศักยภาพในการแข่งขัน ตัวอย่างที่ชัดคือต้นทุนสินค้าเราสูงกว่า เรามีเรื่องภาษีสินค้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม และอื่น ๆ แต่เราพบว่าสินค้าจากจีนมีการยกเว้นภาษี อย่างสินค้าที่ราคาต่ำกว่า 1,500 บาทปลอดภาษี ทำให้ต่างชาติได้ประโยชน์ การผลิตและต้นทุนเขาต่ำกว่า เขาจะได้เปรียบผู้ประกอบการไทย เรื่องนี้อยากให้รัฐบาลเข้ามาดูและส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่เท่าเทียม”

เทรนด์อีคอมเมิร์ซที่เห็นได้ชัดคือ การเปลี่ยนไปสู่ไลฟ์คอมเมิร์ซ และสินค้าข้ามพรมแดนที่จะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ตามมาคือเรื่องของการชำระเงินที่ต้องรองรับ และที่สำคัญคือความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลร้านค้า  ข้อมูลลูกค้า

ล่าสุด ZORT ได้จึงได้จับมือกับ 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ อย่าง บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท บีม เดต้า จำกัด หรือ Beam เพื่อสร้าง Ecosystem เพิ่มจุดแข็งให้ ZORT ในมิติของความปลอดภัย และระบบการชำระเงินที่ง่าย สะดวกในทุกแพลตฟอร์มแบบไร้รอยต่อ

เป็นการนำจุดแข็ง 3 ด้านเพื่อสร้าง Ecosystem สำหรับธุรกิจ e-Commerce ตั้งแต่การขาย การจัดส่ง และการชำระเงินบนทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ บนโซเชียล มาร์เกตเพลซ และเว็บไซต์ ได้แก่ 1.ระบบบริหารจัดการออร์เดอร์ และสต๊อกอัจฉริยะครบวงจร บนทุกแพลตฟอร์มที่เข้าใจความต้องการของธุรกิจที่ต้องการสร้างจุดแข็งในตลาด อีคอมเมิร์ซและหน้าร้าน ออฟไลน์ เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยล่าสุดได้ยกระดับตัวระบบให้สามารถดูยอดสั่งซื้อจากไลฟ์สดจากทุกแพลตฟอร์มมาไว้ที่เดียวบนระบบ ZORT ปัจจุบันไลฟ์สดเป็นเครื่องมือขายสินค้าออนไลน์ที่มาแรงที่สุด

2.แพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azure ที่ความเสถียรของระบบทำให้การซื้อขายของธุรกิจไม่สะดุด และระบบมีความปลอดภัยสูง ด้วยการรักษาความปลอดภัยจากทีมงาน Microsoft security ทำให้มั่นใจได้เลยว่าข้อมูลถูกป้องกันไว้อย่างดี โดยไม่จำกัดพื้นที่การใช้งาน ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม

และ 3.ระบบ Payment Gateway ของ Beam ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ การชำระเงินออนไลน์ให้ลื่นไหล สะดวก และปลอดภัยยิ่งกว่าที่เคย นอกจากนั้นยังรองรับช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย ทั้งยังถูกดีไซน์มาเพื่อให้เชื่อมต่อกับระบบการขายของร้านค้า และแพลตฟอร์มของพาร์ตเนอร์ได้ง่าย สามารถใช้ได้ทันที