ดีอี ปั้น “ไทยแลนด์ซูเปอร์แอป” อัพสปีดเศรษฐกิจดิจิทัล

ประเสริฐ จันทรรวงทอง
ประเสริฐ จันทรรวงทอง

“ประเสริฐ” ย้ำเครื่องยนต์เศรษฐกิจดิจิทัลโต 15-30% ของจีดีพี เร่งประสานดิจิทัลไอดี 4 แอปหลักของรัฐเป็นหนึ่งเดียว (One ID) เอื้อประชาชนเข้าถึงบริการจากรัฐบาลดิจิทัล พร้อมปั้นอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทย

วันที่ 24 มกราคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อนเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมสัมมนาในหัวข้อ “จับสัญญาณบวกส่งออก ปลุกเศรษฐดิจิทัลไทยในตลาดโลก” ในงานสัมมนา “Thailand2024 The Great Challenges ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” จัดโดยหนังสือพิมพ์มติชน และมติชนออนไลน์

นายประเสริฐกล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นความหวังของเศรษฐกิจไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตกินส่วนแบ่ง 15-20% ของจีดีพี ในเวลาอันใกล้

“ดีอีจะเป็นกระทรวงที่เปลี่ยนแปลงประเทศ เป็นเครื่องยนต์ตัวที่ 5 (The growth engine of thailand) ซึ่งอย่างแรกที่ต้องทำคือ ลดความเหลื่อมล้ำ และต้องมีโครงสร้างพื้นฐานตามนโยบาย Cloud first policy จะลดค่าใช้จ่ายภาครัฐไม่น้อยกว่า 30% และต้องสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของข้อมูลให้นักลงทุน รวมถึงพัฒนาคนดิจิทัล”

นอกจากความปลอดภัยจะเอื้อให้เกิดความเชื่อมั่นในระบบดิจิทัลของประเทศ ประชาชนจะมีโอกาสเข้าถึงบริการพื้นฐานดิจิทัลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

“หน่วยงานภาครัฐ ต่างคนต่างทำศูนย์ข้อมูล ต่างทำแอปพลิเคชั่นเพื่อนสนับสนุนการเป็นรัฐบาลดิจิทัล การที่ต่างคนต่างทำส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงถึง 1.5หมื่นล้านบาท แต่หากเรารวบรวมมาใช้คลาวด์เดียวจะลดค่าใช้จ่ายมหาศาล รวมถึงการรวมแอปพลิเคชั่นและข้อมูลของรัฐที่กระจัดกระจายอยู่เป็นแอปเดียว และทำ open data ให้ภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปใช้ จะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างมาก”

แอปพลิเคชั่นที่ช่วยประชาชนเข้าถึงบริการหลักต้องมี ดิจิทัลไอดี เพื่อยืนยันตัวตน ตอนนี้กระจัดกระจายกันไป อย่างของกระทรวงมหาดไทย มี “ThaID” สาธารณสุขมี “หมอพร้อม” ภาคการคลังมี “เป๋าตัง” และสำนักรัฐบาลดิจิทัลก็มี “ทางรัฐ”

“เราต้องมาพิจารณาว่าแอปที่ทำขึ้นแล้วไม่ได้ใช้น่าเสียดาย อย่างเช่น หมอพร้อม เมื่อหมดช่วงการฉีกวัคซีนก็ไม่มีใครเข้าใช้ แอปเป๋าตัง พอไม่มีเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ คนก็ไม่ใช่ ดังนั้นทำอย่างไรแอปภาครัฐจึงจะมีประชาชนมาใช้บริการได้ทุกวันตลอดเวลา เพื่อให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล เราจึงต้องหาทางเอาบริการทุกอย่างมารวมบนแอปเดียวที่ผมเรียกว่า ไทยแลนด์ซูเปอร์แอป”

“ดังนั้นเราต้องมาดูว่าแอปไหนที่มีคนไทยไม่น้อยกว่า 55 ล้านคนอยู่ในนั้น เราจะรวมการยืนยันตนเป็น One ID ที่ใช้บริการต่าง ๆ all service อยู่ในนั้นทั้งหมด จะเห็นในปีนี้อยู่ระหว่างการทำความเข้าใจ แต่ได้เห็นว่าทิศทางจะไปทางไหน”

ในส่วนของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ที่นำเทคโนโลยีไปใช้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาสบ้างแล้ว เช่น มีโครงการชุมชนโดรนใจ สร้างการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อโดรนเกษตร 500 ชุมชน รวมถึงการสร้างช่างซ่อมบำรุงโดรน การใช้โดรน ดูแลพื้นที่การเกษตร ลดค่าใช้จ่ายได้

ทั้งมี Health link บนเทคโนโลยี 5G มี travel link วิเคราะห์ข้อมูลการท่องเที่ยว เป็นต้น

อีกส่วนคือ เรื่องของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทย แม้ตอนนี้จะมีอยู่บ้าง แต่ไม่เป็นที่นิยมนัก ที่เราควรพัฒนาขึ้นมาให้ได้ เพราะเป็นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางด้านข้อมูลประชาชน