เตือนภัยคนโสด เหยื่อ “กลรักออนไลน์” ทะลุ 3,000 คดี สูญกว่าพันล้าน

ดีอี-romance scam

“ดีอี” เตือนคนโสดระวัง “Romance Scam” หลอกให้รักและโอนเงินออนไลน์ หลังพบมีความเสียหายมากกว่า 1,154 ล้านบาท ในเวลา 1 ปี 11 เดือน ด้าน AOC ยกเคสโจรหลอกให้รักแล้วโอนเงิน เหยื่อเสียเงินให้มิจฉาชีพแตะคนละ 2 ล้านบาท

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 รายงานข่าวจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอี เปิดเผยว่า จากสถิติตัวเลขคดีหลอกให้รักและโอนเงินออนไลน์ (Romance Scam) ของศูนย์บริหารรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2567 พบว่ามีคดีที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ Romance Scam จำนวน 3,323 คดี มีความเสียหายมากกว่า 1,154 ล้านบาท คิดเฉลี่ยความเสียหายคดีละประมาณ 34,752 บาท นับว่าเป็นการสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้นจากการหลอกลวงบนโลกออนไลน์

นอกจากนี้ ทางศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC 1441) ได้ยกเคสคดีตัวอย่าง หลอกให้รักแล้วโอนเงิน (Romance Scam) ที่ทางศูนย์ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายจำนวน 3 คดี

โดยคดีแรก มีมูลค่าความเสียหาย 1.9 ล้านบาท รายละเอียดคดีพบว่าผู้เสียหายรู้จักกับคนร้ายที่ติดต่อมาผ่านช่องทาง Facebook ต่อมาได้พูดคุยผ่านช่องทาง Line เริ่มพูดคุยกันจนสนิทใจ และได้หลอกให้โอนเงินเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่อ้างว่าเดือดร้อนเรื่องเงิน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไป ปัจจุบันติดต่อไม่ได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

คดีที่ 2 มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท รายละเอียดคดีพบว่าผู้เสียหายรู้จักคนร้านผ่านช่องทาง Facebook แล้วได้ติดต่อกันผ่านช่องทาง Line จนสนิทสนมเกิดเป็นความรัก จากนั้นคนร้ายอ้างว่าจะส่งเงินและทองคำมาให้ผู้เสียหายเก็บรักษาไว้ แต่ต้องมีการชำระเงินค่าภาษีในการส่งสินค้า โดยคนร้ายบอกให้ผู้เสียหายโอนเงินดังกล่าวไปให้ก่อน ผู้เสียหลงเชื่อและได้โอนเงินไปให้คนร้าย สุดท้ายไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

และคดีที่ 3 มูลค่าความเสียหาย 2,012,000 บาท ส่วนรายละเอียดคดี พบว่าผู้เสียหายรู้จักกับมิจฉาชีพเป็นครั้งแรกทางสื่อสังคมออนไลน์ผ่านช่องทาง Facebook โดยยังไม่เคยพบเจอกัน แอบอ้างชื่อ ดร.XXXX XXXX ได้พำนักอาศัยอยู่ต่างประเทศ จากนั้นได้เพิ่มเพื่อนผ่านช่องทาง Line พูดคุยกันจนสนิทใจและตกลงเป็นแฟน ต่อมาภายหลังได้ขอความช่วยเหลือค่าโดยสารเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จะเดินทางมาหาผู้เสียหายตามการนัดหมาย ผู้เสียหายเกิดความรักและความเชื่อใจจึงได้โอนเงินไปให้มิจฉาชีพ หลังจากนั้นติดต่อมิจฉาชีพไม่ได้อีก ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอกลวง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ขอให้ประชาชนระวังภัยที่อาจเกิดขึ้นจากการหลอกลวงของมิจฉาชีพในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ มิจฉาชีพเข้ามาทักทายผ่านโชเชียลมีเดีย จากนั้นขอคุยเป็นเพื่อนและคนรัก ก่อนที่จะขอให้เหยื่อโอนเงินให้พร้อม หลอกเหยื่อว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินในรูปแบบต่าง ๆ ดีอีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ท่านโปรดระวังคนแปลกหน้า หรือคนที่เข้ามาขอเป็นเพื่อนก่อนที่จะขอพัฒนาความสัมพันธ์หลอกให้รักหลอกให้โอนเงิน ทั้งในรูปแบบเงินดิจิทัล บัญชีออนไลน์ ตลอดจนถึงบัญชีม้า

ในวันแห่งความรัก ขอให้ประชาชนทุกท่านตระหนักถึงภัยที่อาจจะมาถึงตัว ผ่านความรักในรูปแบบต่าง ๆ ขอให้ระวังการใช้เทคนิคทางจิตวิทยา สร้างความเชื่อใจระหว่างกัน โดยมีเป้าหมายหลอกให้รักแล้วชวนลงทุน (Hybrid Scam) หลอกให้รักแล้วกดลิงก์/ดาวน์โหลดแอปรีโมต (Remote Access Scam) ดูดเงินในบัญชี และหลอกให้รักแล้วแบล็กเมล์ (Sextortion) ขู่กรรโชกทางเพศ เป็นต้น

“ผมอยากจะขอให้ทุกท่าน โดยเฉพาะคนโสดระวังมิจฉาชีพ คนร้ายที่แฝงตัวเข้ามาฉวยโอกาส หลอกลวง ทำให้เกิดความเสียหายแก่พี่น้องประชาชน ทั้งการหลอกให้รัก หลอกให้กดรับสติ๊กเกอร์วันวาเลนไทน์ฟรี หลอกลวงให้ผู้ใช้ไลน์ใส่ชื่อ และรหัสการเข้าใช้ไลน์ รวมถึงข้อมูลส่วนตัว ซึ่งอาจจะเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพนำชื่อและรหัสการใช้งานของท่านไปทำธุรกรรมต่าง ๆ หรืออาจมีการสวมสิทธิ์เพื่อกระทำผิดได้ เพื่อให้ท่านไม่ตกเป็นเหยื่อและได้รับความเสียหาย ขอให้ท่านตระหนักและทบทวนการทำธุรกรรมใด ๆ กับคนแปลกหน้า”

ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่พบเบาะแสและสงสัยว่าจะมีการหลอกลวงเกิดขึ้น สามารถตรวจสอบข้อมูลและแจ้งเหตุได้ที่ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย www.antifakenewscenter.com หรือศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 เพื่อตรวจสอบและป้องกันการหลอกลวงจากมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ