ทรู ดิจิทัล ดันโซลูชั่น Climate Tech ตั้งเป้า 3 ปี ช่วยลดค่าใช้จ่าย 300 ล้าน

ทรู ดิจิทัล-อาลีบาบา คลาวด์

“ทรู ดิจิทัล” เปิดตัว “Climate Technology Platform” โซลูชั่นด้านความยั่งยืน ที่ผสานการประมวลผลบน Energy Expert โซลูชั่นจัดการพลังงานของ “อาลีบาบา คลาวด์” ตั้งเป้าช่วยภาคธุรกิจลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน 300 ล้านบาท ใน 3 ปี

วันที่ 29 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เปิดตัว “Climate Technology Platform” บริการ platform-as-a-service ด้านความยั่งยืน ที่ช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถวางแผนและจัดการการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเบื้องหลังของเทคโนโลยีมาจากการประมวลผลบน DataVisor สมองกลเชื่อมต่อดาต้าการทำงานของเครื่องจักรของทรู ดิจิทัล และ Energy Expert โซลูชั่นจัดการพลังงานของอาลีบาบา คลาวด์

โดยบริการของ Climate Technology Platform แบ่งเป็น 4 ส่วน ดังนี้

1.เปลี่ยนการทำงานให้เป็นระบบดิจิทัล (turn physical to digital) ด้วยเทคโนโลยี IOT และอุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่าง ๆ

2.เชื่อมต่อระบบพลังงานจากแหล่งต่าง ๆ แบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งแหล่งพลังงานใหม่ที่เป็นพลังงานหมุนเวียน (Renewal Energy) เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) และพลังงานจากน้ำ เข้ากับระบบพลังงานไฟฟ้า (Power Grid)

Advertisment

3.ใช้ AI ทำการวิเคราะห์เชิงลึกและให้ข้อมูลเชิงคาดการณ์ และสร้างระบบบริหารจัดการพลังงานอัตโนมัติ ช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมและจัดการระบบพลังงานได้แบบเรียลไทม์และแม่นยำ รวมถึงแสดงค่าสถิติต่าง ๆ ผ่านแดชบอร์ดและรายงานที่ใช้งานง่าย เพื่อติดตามสถานะการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ตัวอย่างเช่น คำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเมินคาร์บอนฟุตพรินต์ที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจและกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กร และอื่น ๆ เพื่อให้คำแนะนำเชิงคาดการณ์ที่เป็นไปตามอัลกอริธึม AI

4.วางแผนการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ให้เป็นไปตามเป้าหมายองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 40% ภายในปี 2573 และบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 โดย Climate Technology Platform จะช่วยปูทางสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน และลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีนัยสำคัญ

Advertisment

นายเอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนทั่วโลก ทรู ดิจิทัล จึงพัฒนา “Climate Technology Platform” มาช่วยบริหารจัดการสภาพภูมิอากาศและสภาพแวดล้อม

ไม่ว่าจะเป็นการลดคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนส่งเสริมให้ธุรกิจสามารถสร้างคุณค่าและเติบโตได้อย่างยั่งยืน นำร่องด้วยเทคโนโลยีด้านพลังงาน (Energy) ยกระดับการบริหารจัดการการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรธุรกิจ

โดยร่วมมือกับ อาลีบาบา คลาวด์ ผนวกความเชี่ยวชาญของทรู ดิจิทัล ในการทำงานร่วมกับข้อมูลมหาศาล สร้างสรรค์นวัตกรรมโซลูชั่นสำหรับองค์กรธุรกิจ เข้ากับ Energy Expert ของอาลีบาบา คลาวด์ ซึ่งเป็นโซลูชั่นด้านความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับและนำไปใช้ในระดับโลก

“ทรู ดิจิทัล มีแผนต่อยอดความร่วมมือกับอาลีบาบา คลาวด์ ในการพัฒนาโซลูชั่นที่ตอบโจทย์อีกหลาย ๆ อุตสาหกรรม นอกจากด้านพลังงานและความยั่งยืน เช่น ค้าปลีก เกษตรกรรม การผลิต เป็นต้น โดยระยะเวลาความร่วมมือในครั้งนี้มองไว้อย่างน้อย 3 ปี เพราะต้องการเจาะไปยังกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ที่ใช้เวลาในการสร้างความคุ้นเคยกับโซลูชั่นต่าง ๆ มากกว่ากลุ่มลูกค้าเอ็นเทอร์ไพรส์ และมองว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า โซลูชั่นนี้จะช่วยภาคธุรกิจลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานราว 300 ล้านบาท”

ด้านนายวิลเลี่ยม ซอง รองประธานอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ และผู้จัดการทั่วไปธุรกิจระหว่างประเทศด้านโซลูชั่นอุตสาหกรรม กล่าวเสริมว่า อาลีบาบา คลาวด์ ไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการเทคโนโลยี แต่ยังช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยนำโซลูชั่นด้านความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาสู่ประเทศไทยผ่านความร่วมมือกับทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เพื่อเสริมแกร่งให้ธุรกิจต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้มีความสามารถใหม่ ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงาน

“ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ถือเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งสำหรับเรามาก ๆ ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยให้โซลูชั่นของเราเข้าถึงภาคธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว และเราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนพันธกิจด้านความยั่งยืนของไทย“

รายงานข่าวจากอาลีบาบา คลาวด์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า อาลีบาบา คลาวด์ เปิดตัว Energy Expert เมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นโซลูชั่นด้านการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถวัด วิเคราะห์ และบริหารการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ในธุรกิจของตนเอง

ปัจจุบัน Energy Expert ได้ช่วยองค์กรทั่วโลกมากกว่า 3,000 แห่ง ประหยัดพลังงานหรือลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

นอกจากนี้ อาลีบาบา คลาวด์ ยังเปิดตัวบริการ Open API เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานฟังก์ชั่นของ Energy Expert ที่ปัจจุบันให้บริการไมโครเซอร์วิสด้านพลังงานและคาร์บอน ซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพครั้งนี้ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบโดยใช้ความสามารถของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และความรู้เฉพาะทางด้านต่าง ๆ 

ตัวอย่างของฟังก์ชั่นที่มีการให้บริการ เช่น ฟังก์ชั่นในการคำนวณคาร์บอนฟุตพรินต์, การเพิ่มประสิทธิภาพการปล่อยก๊าซคาร์บอน, การตรวจสอบการใช้พลังงาน, การคาดการณ์และปรับให้เหมาะสม เป็นต้น