“กรวัฒน์ เจียรวนนท์” สยายปีก “Amity Solutions” สู่ AI Champion

ASOL
กรวัฒน์ เจียรวนนท์

หลังจาก “กรวัฒน์ เจียรวนนท์” ผู้ปลุกปั้น “อะมิตี้” (Amity) สตาร์ตอัพด้านซอฟต์แวร์และโซเชียลคลาวด์ ตัดสินใจแยกกลุ่มธุรกิจที่โฟกัสการให้บริการโซลูชั่นเกี่ยวกับ Generative AI (Gen AI) มาเป็น “อะมิตี้โซลูชั่นส์” (Amity Solutions หรือ ASOL) ตั้งแต่ปีก่อน ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายอย่างทำให้ก้าวต่อไปของสตาร์ตอัพไทยรายนี้ยิ่งน่าจับตามากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในการระดมทุนในรอบซีรีส์ ซี (Series C) กว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2.2 พันล้านบาท) หรือดีลเข้าซื้อกิจการของ “โทลล์ริง” (Tollring) บริษัทผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์การ โทร.ในสหราชอาณาจักร ที่มีมูลค่าระดับพันล้านบาท

“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสพูดคุยกับ “กรวัฒน์” อีกครั้งเกี่ยวกับการขยายธุรกิจสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่าเดิม ทั้งการนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น (IPO) กับความท้าทายในวันที่บริษัทเติบโตต่อเนื่อง

มุ่งสู่ IPO-AI Champion

“กรวัฒน์” กล่าวว่า แผนการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นยังเป็นไปตามเดิม คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีหลังปี 2568 ในจังหวะนี้จึงอยู่ในช่วงการขยายแบบ Customer Base หรือต่อยอดฐานลูกค้าเดิมของบริษัทที่เข้าไปซื้อกิจการ (Acquisition) ด้วยการนำ Gen AI จากแล็บของบริษัทไปพัฒนาโซลูชั่นของบริษัทนั้น ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เช่น ดีลล่าสุด (Tollring) เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ทำเกี่ยวกับการจัดการการ โทร. (Calling Management) ก่อตั้งปี 2537 ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 20,000 ราย ในยุโรป, สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ก็จะนำ Gen AI เข้ามาช่วยปลดล็อกศักยภาพโซลูชั่นเดิม ให้เป็นโซลูชั่นการ โทร.ขั้นสูงได้

“ถ้าจะ IPO ตอนนี้เลยก็ทำได้ แต่เราอยากเข้าแบบใหญ่ไปเลย เพื่อรองรับการเติบโตของ Gen AI และจะได้สเกลจากทีมหรือทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด ตอนแรกมองทั้งตลาดหุ้นไทยและที่อังกฤษ เนื่องจากยอดขายกว่า 60-70% อยู่ในยุโรป แต่ก็ยังโฟกัสที่ตลาดไทยเป็นหลัก เพราะเชื่อว่านักลงทุนไทยมีความเข้าใจเรื่องเทรนด์ของ Gen AI เป็นอย่างดี”

สำหรับการเลือกบริษัทที่จะไปเข้าซื้อกิจการจะต้องเป็นบริษัทที่ทำกำไร และมีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งมีตัวเลือกเยอะมาก คาดว่าภายในปีนี้น่าจะได้เห็นอีก 2-3 ดีล

ADVERTISMENT

“เป้าหมายของเรา คือการเป็น AI Champion หรือผู้นำในการให้บริการเกี่ยวกับ Gen AI ระดับภูมิภาค และเพื่อให้ไปถึงภาพที่ต้องการ บริษัทที่เราจะเข้าไปต้องพร้อมทำงานร่วมกันและมีใจอยากจะเอา Gen AI เข้าไปทรานส์ฟอร์มโซลูชั่นขององค์กร อย่าง Tollring ก็คุยกันมานาน และเห็นความตั้งใจของเขาจริง ๆ”

ความสำเร็จของ Gen AI

“กรวัฒน์” กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ต้นปี 2566 เริ่มให้บริการโซลูชั่น Gen AI ยอดขายกว่า 40% มาจากธุรกิจแชตบอต มีลูกค้ารายใหญ่ประมาณ 20-30 ราย แม้ 80% จะยังเป็นการใช้ในองค์กร เช่น Data Analytics แต่ก็สะท้อนถึงความว่องไวในการปรับตัวขององค์กรไทยทั้งภาครัฐและเอกชน

“เราน่าจะเป็นเบอร์หนึ่งของบริษัทไทยด้านการให้บริการโซลูชั่นเกี่ยวกับ Gen AI ในประเทศ โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในบริการ Amity Solutions จนนำไปสู่การเข้ามาของนักลงทุน คือผลลัพธ์ของโซลูชั่น Gen AI ความแม่นยำ (Accuracy) สูงมาก ๆ ซึ่งเกิดจากการทำงานของ AI Labs ที่เป็น ‘มันสมอง’ ในการพัฒนาโซลูชั่นเกี่ยวกับ Gen AI ของบริษัท

เราไม่ได้พัฒนา LLM ของตนเอง เพราะในตลาดมีเจ้าที่ทำได้ดีมาก ๆ อยู่แล้ว ถ้าพัฒนาเองตั้งแต่ต้นต้องลงทุนสูงมาก แต่เรามี AI Labs ที่เป็น Elite Team ทำหน้าที่รีเสิร์ช และคัดสรรว่าโมเดลที่มีอยู่ในตลาดเอามาต่อยอดได้อย่างไรบ้าง จากนั้นก็พัฒนาเป็นโซลูชั่นสำหรับให้บริการลูกค้าในกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ ซึ่งการที่เราพัฒนาแอปพลิเคชั่นไปเลเยอร์บนโครงสร้างที่มีอยู่ ถือเป็นงานที่ยากอยู่แล้ว”

“กรวัฒน์” กล่าวด้วยว่า หนึ่งในความภาคภูมิใจของ Amity Solutions คือการที่ “สัตยา นาเดลลา” (Satya Nadella) ซีอีโอบิ๊กเทคระดับโลกอย่าง “ไมโครซอฟท์” (Microsoft) กล่าวถึงโซลูชั่นที่บริษัทพัฒนาในงาน Microsoft Build 2024 โดยเป็นบริษัทเดียวในภูมิภาคที่ถูกกล่าวถึงในงาน

“จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ คือวันที่สัตยาเดินทางมาไทย (งาน Microsoft Build : AI Day เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2567) ทีมของ Amity Solutions มีโอกาสเข้าร่วมเซสชั่น Roundtable แล้วสัตยาก็ได้ยินสิ่งที่เราคุยกัน เขาจึงขอนำสิ่งที่เราทำไปพูดเป็นตัวอย่างในงาน ซึ่งการที่มีคนระดับโลกมาชื่นชมสิ่งที่เราทำ ก็ทำให้รู้สึกว่าแล็บของเรามีอะไรที่พิเศษเหมือนกัน”

เลือกคนที่ใช่มาบริหารงาน

ในจังหวะที่บริษัทกำลังมุ่งหน้าสู่การ IPO Executive Chairman อย่าง “กรวัฒน์” บอกว่า การหาคนที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะมาเติมเต็มทีมเป็นสิ่งที่สำคัญ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา Amity Solutions จึงดึง “เคง เก็ก ก๋วย” (Keng Teik Koay) ที่มีประสบการณ์เรื่องการลงทุน (Investment Banking) กว่า 20 ปี มาดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท (Group CEO)

“เขามีประสบการณ์เรื่องการเงินมาเยอะมาก ไม่ว่าจะ M&A (Merger & Acquisition) Fund Raising และ IPO รวมถึงเคยทำงานในองค์กรชั้นนำหลายแห่ง เช่น Standard Chartered และเคยเป็น CFO ของ JustCo ที่ช่วยบริษัทระดมทุนกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประสบการณ์ตรงกับความต้องการในการสเกลธุรกิจของเราทุกข้อ”

มุมมองการขยายตลาด

สำหรับความท้าทายในการขยายตลาด “กรวัฒน์” มองว่า การให้บริการของบริษัทซอฟต์แวร์ไทยยังสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ เพียงแต่ต้องมีการสเกลหรือขยายตลาดให้ใหญ่กว่าการให้บริการแค่ในประเทศ หรือควรจับให้ได้อย่างน้อย 1-2 ตลาด

“ตลาด IT Enterprise ที่ใหญ่มาก ๆ มีแค่ 4 ที่ในโลก คือ ยุโรป สหรัฐ ญี่ปุ่น และจีน ซึ่ง Amity Solutions สามารถโตที่ยุโรปได้แล้ว แต่ที่อื่น ๆ ยังมีความท้าทายในแต่ละรูปแบบอย่างสหรัฐ การแข่งขันในกลุ่มบริษัทที่พัฒนา AI สูงมาก แต่ถ้าเข้าไปได้ก็จะมีโอกาสดี ๆ ตามมาอีกเยอะ หรือญี่ปุ่นก็มีเรื่องของภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่าง ส่วนจีนต้องใช้เวลาในการพัฒนาโซลูชั่นจากโมเดลในประเทศของเขา ซึ่งกว่าเราจะตีตลาดได้จริง ๆ ต้องใช้เวลานานมาก”

ปัจจุบันธุรกิจในเครือของ Amity ยังมีส่วนที่เป็น API Products หรือการเชื่อมต่อฟีเจอร์บนแอปหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ มีออฟฟิศอยู่ในอิตาลีและสหรัฐ และเมื่อรวมกับออฟฟิศด้าน Gen AI ในอินเดียและอังกฤษ รวมถึงสำนักงานใหญ่ในไทย ก็ทำให้ Amity มีพนักงานมากกว่า 300 คน

“ทุกดีลการเข้าซื้อกิจการ ทำให้ขนาดของบริษัทใหญ่ขึ้นทุกครั้ง และหวังว่าการที่เรามี AI Labs ในไทยเป็นศูนย์กลางการซัพพอร์ตทั่วโลก จะทำให้องค์ความรู้เรื่อง Gen AI Application แข็งแรงขึ้น และสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้ในอนาคต”

จับตา Virtual Agent

เมื่อถามถึงสิ่งใหม่ ๆ ที่จะได้เห็นก่อนจบปี 2567 แม่ทัพ Amity Solutions เล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจว่า ปลายปีนี้จะเห็นบริการใหม่จาก Amity Solutions นั่นคือ Virtual Agent หรือผู้ช่วยในการให้ข้อมูลตามสถานที่ต่าง ๆ เป็น Gen AI โต้ตอบอัตโนมัติให้คำตอบจากสิ่งที่ผู้ใช้ถาม กรณีในห้างสรรพสินค้า ก็จะให้คำตอบต่าง ๆ ได้ เช่น มีร้านชาบูอะไรบ้าง หรือค่าจอดรถเท่าไร

“เราพร้อมให้บริการกับลูกค้า 2-3 รายแล้ว โดยเริ่มพัฒนา Virtual Agent มาตั้งแต่ต้นปี 2567 จากความต้องการของลูกค้าที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่องการให้ข้อมูลตามสถานที่ต่าง ๆ สิ่งนี้ตอบโจทย์การให้บริการในระดับภูมิภาคด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวเพราะสามารถเทรนภาษาอะไรเข้าไปก็ได้ หรือจะประยุกต์ใช้กับภาคการเงิน เช่น Investment Advisor หรือใช้ในโรงพยาบาลก็ได้เช่นกัน

เรายังมีสิ่งที่แก้ปัญหาให้ลูกค้าไม่ได้อีกเยอะ แต่เชื่อว่าความก้าวหน้าของ Gen AI จะทำให้ทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น โดย Amity Solutions ให้ความสำคัญกับเรื่องของความแม่นยำในการประมวลผลที่สูงมาก ๆ ซึ่งลูกค้าที่ใช้บริการกับเราจะรู้จุดแข็งในข้อนี้ดี”