เปิดเหตุผล ทำไม HBO GO ถึงเปลี่ยนชื่อเป็น Max ?

HBO-Max

ชวนสำรวจเหตุผลว่า ทำไม Warner Bros. Discovery ถึงตัดสินใจทรานส์ฟอร์มแบรนด์สตรีมมิ่งจาก “HBO GO” สู่ “Max” พร้อมปูพรมให้บริการทั่วเอเชีย-แปซิฟิกวันนี้ (19 พ.ย. 2567)

หลังจาก “HBO GO” แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของ “วอร์เนอร์ บราเธอส์ ดิสคัฟเวอรี” (Warner Bros. Discovery) ให้บริการในไทยอย่างเต็มรูปแบบมาตั้งแต่ปี 2563 ก็ถึงเวลาทรานส์ฟอร์มสู่แบรนด์ใหม่อย่าง “Max” ที่ให้บริการพร้อมกันใน 7 ประเทศภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2567

การอัพเกรดเป็น Max มาพร้อมตัวเลือกความละเอียดสูงสุด 4K UHD และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ที่ตรงใจมากขึ้น ได้แก่

  • สร้างโปรไฟล์ไม่ซ้ำกันได้ 5 โปรไฟล์ (Multiple user profiles) และปรับแต่งได้ตามใจด้วยตัวละครโปรด เป็นอวตาร์ประจำตัว
  • การแนะนำคอนเทนต์เฉพาะบุคคล (Personalized Recommendations)
  • ปรับฟีเจอร์การค้นหาให้มีประสิทธิภาพ ราบรื่น รู้ใจผู้ใช้งานมากขึ้น (Improved Search Functionality)
  • ปรับแต่งโปรไฟล์สำหรับเด็ก ซึ่งคัดสรรเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัยภายใต้การควบคุมของผู้ปกครอง (Parental controls)
  • สามารถเก็บเนื้อหาที่ชื่นชอบไว้ใน My List ได้ หรือโหมดดูอย่างต่อเนื่องในรายการที่เปิดค้างไว้ หลังออกจากแอป

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจทรานส์ฟอร์มแบรนด์ครั้งนี้นำมาซึ่งความสงสัยของหลายฝ่ายว่าทำไม Warner Bros. Discovery ถึงตัดสินใจทำการตลาดด้วยชื่อใหม่อย่าง Max ?

“เจสัน มอนเทโร” (Jason Monteiro) APAC Streaming Lead Warner Bros. Discovery อธิบายถึงประเด็นนี้ว่า HBO เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่สำคัญของ Warner Bros. Discovery

แต่หลังจากมีการควบรวมกิจการระหว่าง Warner และ Discovery บริษัทก็มีคอนเทนต์ในเครือมากขึ้น ทั้งจาก Warner Brothers Studios เช่น HBO, Cartoon Network, Looney Tunes และจาก Discovery เช่น Asian Food Network ทำให้ชื่อของ HBO GO แคบกว่าสิ่งที่เรามีมาก ๆ และไม่ตอบโจทย์ที่จะใช้ในการทำตลาดอีกต่อไป

ADVERTISMENT

“HBO ยังคงมีบทบาทสำคัญในแพลตฟอร์ม แต่การเปลี่ยนชื่อเป็น Max จะช่วยให้การสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ตอบโจทย์ความครอบคลุมของผลิตภัณฑ์ใหม่ได้มากกว่า”

ทั้งนี้ Max ยังตั้งเป้าที่จะเข้าถึงลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมากขึ้นผ่านคอนเทนต์พิเศษที่เข้ากับสไตล์การรับชมของผู้ใช้ในภูมิภาค และการทำการตลาดร่วมกับพาร์ตเนอร์ เช่น การออกแพ็กเกจพิเศษสำหรับลูกค้า AIS ในราคาเริ่มต้นเดือนละ 99 บาท เป็นต้น

ADVERTISMENT

การตัดสินใจทรานส์ฟอร์มแบรนด์สตรีมมิ่งของ Warner Bros. Discovery ยิ่งทำให้การแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่งน่าจับตามากขึ้น และต้องติดตามต่อว่าผู้ให้บริการรายอื่นจะมีกลยุทธ์ใหม่ ๆ ออกมารับมือความเคลื่อนไหวครั้งนี้หรือไม่