AWS ไม่สนตลาดคลาวด์แข่งหนัก แม้มีคู่แข่งหน้าใหม่เข้าตลาด เดินหน้าเพิ่มพนักงาน ปั้น 3 ทีม เจาะลูกค้าใหญ่ กลาง เล็ก ล่าสุดจับมือ “ประกันภัยไทยวิวัฒน์” ผุดบริการใหม่ “ประกันเปิด-ปิด”
นายชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (AWS) กล่าวว่า ภาพรวมคลาวด์ทั่วโลกเติบโตขึ้นมาก รวมทั้งประเทศไทย ปีที่ผ่านมา AWS มีรายได้ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โต 43% ปี/ปี เป็นเบอร์ 1 ของโลกและในไทย
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
มีจุดแข็งคือความเสถียร ความยืดหยุ่น จ่ายเท่าที่ใช้ มีความปลอดภัย และมีเครื่องมือใหม่ๆ เสมอ ปีที่ผ่านมา AWS เพิ่มนวัตกรรมใหม่ กว่า 1,957 ทูล ในประเทศไทยมีการใช้งานคลาวด์ทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่องค์กรใหญ่จนถึงสตาร์ตอัพ จากการแข่งขัน การทรานส์ฟอร์ม สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่
“ลูกค้ามีความต้องการ 3 ด้านหลัก 1.ต้องการสิ่งที่เข้ากับเราที่สุด 2.ต้องไว้ใจได้ 3.ใช้ได้ในชีวิตจริง โดย AWS ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมและวัฒนธรรมองค์กรที่ ที่ไม่เคยมองระยะสั้น บริการเราเป็นแพลตฟอร์ม โดยเก็บข้อมูลให้ มีทูลอำนวยความสะดวก”
ขณะที่ตลาดแข่งขันสูง มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในตลาดไทยจำนวนมาก แต่ AWS ไม่ได้โฟกัสที่ด้านใดด้านหนึ่งเหมือนคู่แข่งบางราย
“เรามองว่าต้องแข่งกับตัวเองในการพัฒนาโปรดักต์ โดยนำความต้องการของลูกค้ามาพัฒนา”
ทั้งยังลงทุนเพิ่มคน เพื่อเจาะตลาดใน 3 ระดับ ทั้งเอ็นเตอร์ไพรส์ SMEs สตาร์ตอัพ รวมทั้งเพิ่มตำแหน่งใหม่ ๆ เช่น technical consultant เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าและให้ความรู้ ในการใช้งานทูลใหม่ ๆ เพื่อเป็นผู้ช่วยทางเทคโนโลยีให้ลูกค้า
นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การทรานส์ฟอร์มของบริษัทเน้นที่คน โดยใช้ design thinking เป็น 5 ส่วน 1.empathize 2.define 3.Ideate 4.prototype 5.test และมี 4 แนวคิดในการขับเคลื่อนโปรดักต์ 1.user experience 2.data driven approach 3.wearable tech และ 4.IoT
จนเกิด “ประกันเปิด-ปิด” ทั้งประกันรถยนต์, สุขภาพ, การเดินทาง โดยสามารถจ่ายเท่าที่ใช้งาน รวมทั้งลดเบี้ยประกันสุขภาพถ้ามีการออกกำลังกาย โดยประหยัดกว่าประกันทั่วไป 40% นอกจากนี้แอปยังสามารถต่อประกันเอง หรือแจ้งเหตุผ่านแอปพลิเคชั่น
“โปรดักต์ออกได้เพราะมีอินโนเวทีฟ คัลเจอร์ขององค์กร ที่คิดแตกต่างไม่เหมือนกับคู่แข่ง เทคโนโลยีและนวัตกรรมจะดีไซน์จากผู้บริโภค ไม่ใช่แค่อินโนเวชั่น แต่ต้องมีครีเอทิวิตี้ด้วย”
โปรดักต์ทั้งหมดใช้งานบนคลาวด์ของ AWS เพราะมีความยืดหยุ่น มีโซลูชั่นแมชีนเลิร์นนิ่งและบิ๊กดาต้า ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลง่ายขึ้น มีเรื่องซิเคียวริตี้ที่ดี ทำให้บริษัทลดขั้นตอนการทำซิเคียวริตี้เอง และมีซีโร่ดาวน์ไทม์ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะบริการออนไลน์ต้องการความน่าเชื่อถือและรับประกันได้ว่าไม่ล่ม
ที่ผ่านมาเคยใช้บริการรายอื่นแต่ระบบไม่ลื่นไหล ขณะที่บริการทุกอย่างต้องทำเป็นเรียลไทม์ ถ้าใช้บริการรายเดิมเมื่อมีทรานแซ็กชั่นพร้อมกันจะมีปัญหา
ดังนั้น AWS ช่วยลดต้นทุนได้แน่นอน เพราะไม่ต้องจ้างคนในการพัฒนาโซลูชั่นบางอย่าง เพราะ AWS มีทูลให้ใช้
“ลูกค้าที่ซื้อประกันออนไลน์แม้เป็นฐานลูกค้าที่เล็ก ฐานยังต่ำ แต่มีการเติบโตที่เร็วกว่ารูปแบบเดิม จึงเห็นการพัฒนาแอปพลิเคชั่นของบริษัทประกันเยอะมาก ซึ่งจำเป็นต้องเพิ่มเซอร์วิสอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าใช้งานมากขึ้น โดยจะนำฟีดแบ็กของลูกค้ามาปรับโดยใช้เทคโนโลยีและไอเดียใหม่ ๆ มาทำเพื่อให้เกิดสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน”