ไอบีเอ็มเผยยอดสิทธิบัตรปี 2562 มากถึง 9,262 ฉบับ มากสุดในหมู่บริษัทสหรัฐต่อเนื่องเป็นปีที่ 27 จัดครบทั้งด้านเอไอ บล็อกเชน คลาวด์ ซีเคียวริตี้
นางสาวปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมานักวิจัยของไอบีเอ็มได้รับสิทธิบัตรสหรัฐฯ มากถึง 9,262 ฉบับ ถือเป็นบริษัทสหรัฐฯ ที่ได้รับสิทธิบัตรมากที่สุด ส่งผลให้บริษัทครองตำแหน่งผู้นำสิทธิบัตรต่อเนื่องเป็นปีที่ 27 ครอบคลุมเทคโนโลยีสาขาสำคัญต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) บล็อกเชน คลาวด์ ควอนตัมคอมพิวติ้ง และซิเคียวริตี้
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
โดยเฉพาะ ด้านเทคโนโลยีคลาวด์นักวิจัยไอบีเอ็มได้รับสิทธิบัตรกว่า 2,500 ฉบับ ซึ่งรวมถึงสิทธิบัตรเกี่ยวกับวิธีการจัดการร่วมกันระหว่างแพลตฟอร์มการประมวลผลทั้งในและนอกระบบคลาวด์ ด้วยวิธีการทำงานร่วมกับพอร์ทัลแบบรวม ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถย้ายสู่แพลตฟอร์มคลาวด์แบบไฮบริดได้อย่างง่ายดาย
ขณะที่ด้านเอไอ ที่ไอบีเอ็มได้รับสิทธิบัตรกว่า 1,800 ฉบับ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือวิธีการสอนให้ระบบเอไอเข้าใจและสามารถแยกแยะความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ และความหมายโดยนัยของข้อความหรือวลีบางคำผ่านการวิเคราะห์เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังเป็นผู้นำสิทธิบัตรด้านบล็อกเชน ซึ่งรวมถึงสิทธิบัตรหลายฉบับที่ได้จากการปรับปรุงการรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายบล็อกเชน โดยหนึ่งในเทคนิคที่ได้รับสิทธิบัตรคือ การช่วยต่อต้าน การโจมตีด้วยการส่งข้อมูลซ้ำ (Replay Attack) ซึ่งเป็นลักษณะที่ผู้โจมตีคัดลอกและใช้ข้อมูลลายมือชื่อจากธุรกรรมรายการหนึ่งบนบล็อกเชน เพื่อทำธุรกรรมอื่นบนบล็อกเชนในภายหลังทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งยังได้รับสิทธิบัตรด้านซิเคียวริตี้ ครอบคลุมถึงการบุกเบิกการเข้ารหัสแบบโฮโมมอร์ฟิค (Homomorphic Encryption) ซึ่งเป็นเทคนิคที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับข้อมูลที่เข้ารหัสโดยไม่จำเป็นต้องถอดรหัสนั้นก่อน รวมถึงสิทธิบัตรเกี่ยวกับการพัฒนาวิธีการบนพื้นฐานของลายมือชื่อสำหรับฟังก์ชันการเข้ารหัสข้อความแบบโฮโมมอร์ฟิค ซึ่งช่วยให้มั่นใจในเรื่องการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
“ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ การประมวลผลแบบคลาวด์ หรือควอนตัมคอมพิวติง ทั้งหมดนี้จะนำสู่การแก้ไขปัญหาท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่ธุรกิจและสังคมของเรากำลังเผชิญอยู่ โดยนับแต่ปี พ.ศ. 2463 เป็นต้นมา ไอบีเอ็มได้รับสิทธิบัตรสหรัฐฯ มาแล้วมากกว่า 140,000 ฉบับ เป็นผลจากการมีส่วนร่วมของนักวิจัยไอบีเอ็มกว่า 8,500 คน ที่อยู่ใน 54 ประเทศ”