“พุทธิพงษ์” กดสวิตซ์ ตั้งบอร์ดบริหารขับเคลื่อน NT

รมว.ดีอีเอส ประกาศจดทะเบียนจัดตั้ง บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT แน่ ดีเดย์จดทะเบียนบริษัท วันที่ 7 มกราคม 2564 ล่าสุดจัดกิจกรรม “Employee Town Hall” สานพลังพนักงาน พร้อมเปิดแผนหลังควบรวม NT

วันนี้ (18 ธ.ค. 2563) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือดีอีเอส ได้เป็นประธานจัดกิจกรรม “Employee Town Hall” พบกับพนักงานและสหภาพแรงงานของทั้ง TO และ CAT ซึ่งมีพนักงานเข้าร่วมประชุมกว่า 1,000 เพื่อสื่อสารไปยังพนักงานระดับต่าง ๆ ในองค์กรให้สามารถขับเคลื่อนทิศทางขององค์กรไปในทิศทางเดียวกัน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่พนักงานทั้ง TOT และ CAT กังวลและมีคำถาม คือ ทำไมไม่ควบรวม NT ให้เเล้วเสร็จ 100% แต่ต้องแบ่งเป็นเฟส ๆ ออกไป ซึ่งต้องบอกว่า เพราะว่าองค์กรมีขนาดใหญ่ ทำให้ต้องปรับเป็นส่วน ๆ เพื่อไม่ได้เกิดผลกระทบ ส่วนประเด็นสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของพนักงานก็เป็นไปตามเงื่อนไขเดิมของทั้ง CAT และ TOT ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ให้ทั้งสองบริษัทไปเจรจากัน เพื่อหาข้อสรุป

นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า วันที่ 7 มกราคม 2564 จะจดทะเบียนควบรวม TOT และ CAT เป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการดำเนินการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) โดยการควบรวมครั้งนี้ จะนำไปสู่องค์กรใหม่ที่ทรงพลังและแข็งแกร่งมากขึ้น และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ดิสรัปชั่นจากหลากหลายมิติ

ความคืบหน้าล่าสุด ได้มีการแต่งตั้งบอร์ดบริหาร NT จำนวน 5 ท่าน เพื่อขับเคลื่อน NT ต่อทันที หลัง TOTและ CATจะสิ้นสภาพลงในวันที่ 7 มกราคม 2564 โดยประกอบด้วย 1.พันเอกสรรพชัย หุวะนันทน์ 2.ตัวแทนรองปลัดจากกระทรวงการคลัง 3.นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ 4.นาวาเอกสมศักดิ์ ขาสุวรรณ์ อดีตอธิบดีกรมอุตุวิทยา และ 5. หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ซึ่งจะเสนอต่อกระทรวงการคลังฯต่อไป”

“หลังการควบรวมบริษัท จะไม่มีการปลดพนักงานของทั้งสององค์กร โดยจะมีพนักงานรวมกว่า 20,000 คน และจะยังคงสิทธิสวัสดิการตามเดิมของทั้งสององค์กร ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ที่มีการเหลื่อมกันอยู่ ก็ให้ทั้งสององค์กรเจรจากัน เพื่อหาจุดกึ่งกลาง”

ขณะเดียวกันหลัง จากการควบรวมกิจการครั้งนี้จะส่งผลทำให้ NT มีโครงข่ายครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด มีคลื่นความถี่โทรศัพท์ ครบทุกระยะ และคุณภาพการใช้งานที่ดีที่สุด ทำให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการให้บริการ ทั้งลูกค้าภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกพื้นที่สำหรับลูกค้าภาครัฐจะได้รับบริการโครงข่ายที่มีความแข็งแกร่งเพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาประเทศเพื่อเข้าสู่ Thailand 4.0 และยังสามารถช่วยส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันให้แก่ลูกค้าเอกชนทั้งรายใหญ่ และ SME ส่วนประชาชนทั่วไปจะได้รับบริการโทรคมนาคมที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศเพื่อเข้าถึงโลกดิจิทัล ซึ่งหลังการควบรวม NT จะมีทรัพยากรโครงข่ายที่เพียบพร้อมสำหรับนำไปต่อยอดมีเสาโทรคมนาคม เคเบิลใต้น้ำ คลื่นความถี่ ท่อร้อยสายใต้ดิน, Fiber Optic, Data center และระบบโทรศัพท์ ที่มากขึ้น

“NT จะกลายเป็นบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติที่มีศักยภาพในการให้บริการโดยเฉพาะเรื่อง 5G  และดาวเทียม ทั้งการนำเอาดิจิทัลมาให้บริการภาคการสาธารณสุข การเกษตร และคมนาคม โดย NT จะเป็นผู้รวบรวมบิ๊กดาต้าผ่าน 5G ที่ประมูลได้ ซึ่งจะเริ่มนำมาให้บริการภาคสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ”