แฟน ๆ ชาวไทย อดใจรออีกนิด ดิสนีย์ ประกาศ เตรียมเปิดให้บริการ Disney+ ในไทย 30 มิ.ย.นี้
วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า นายบ็อบ เชเปก ประธานกรรมการบริหารของบริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ เปิดเผยว่า ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์กำลังจะกลับมาผลิตได้ตามปกติ ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถดึงลูกค้าให้เข้ามาในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Disney+, Hulu, ESPN+ และช่องกีฬา 24 ชั่วโมง Hotstar ที่ดิสนีย์เป็นเจ้าของ โดยดิสนีย์จะโฟกัสไปที่การสร้างบริการสตรีมมิ่งอย่างรวดเร็ว เพื่อแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่อย่าง “Netflix”
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
Disney+ ยังมีแผนที่จะปล่อยซีรีส์เพื่อเรียกเสียงแฟน ๆ หลายเรื่องด้วยกัน ได้แก่ Loki วายร้ายแห่ง Marvel และซีรีส์ Star War “The Book of Boba Fett”
ซีอีโอเดอะวอลต์ดิสนีย์ กล่าวว่า ไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 3 เม.ย. 64 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 15,610 ล้านดอลลาร์ ลดลง 13% โดยมีรายได้สุทธิจากการดำเนินงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเป็น 912 ล้านดอลลาร์ จาก 468 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสก่อน ส่วนรายได้จากแผนกสื่อของดิสนีย์ก็เพิ่มขึ้น 74% คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ จากกำไรในเครือข่ายทีวีทั้งในและต่างประเทศ
ขณะที่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งขาดทุนไป 290 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะมีสัดส่วนรายได้จากโฆษณาของ Hulu และ ESPN+ ที่เพิ่มขึ้น และการจ่ายเงินเพื่อชมรายการ Ultimate Fighting Championship
ส่วนลูกค้าสมาชิกของ Disney+ ก็เพิ่มขึ้น 103.6 ล้านราย หลังจากที่ได้ออนแอร์ซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ของ Marvel 2 เรื่อง “WandaVision” และ “The Falcon and the Winter Soldier”
สำหรับค่าสมัครสมาชิกของ Disney+ อยู่ที่ 3.99 ดอลลาร์ ซึ่งเขาคาดว่า จะมีรายได้เฉลี่ย 4.10 ดอลลาร์ต่อผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดตัว Disney+ ที่มาเลเซียในวันที่ 1 มิ.ย. 64 และไทยในวันที่ 30 มิ.ย. 64 ด้วย