เทคนิคการหาลูกค้า ด้วยช่องทางออนไลน์

คอลัมน์ Pawoot.com
ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

คนที่ทำธุรกิจหลายคนต้องเคยเจอปัญหาต่าง ๆ เช่น ปัญหาในการพัฒนาสินค้าและบริการ การนำสินค้าไปขาย ที่ส่วนใหญ่เจอกันคือการหาลูกค้า สมัยก่อนอาจใช้วิธีเทเลเซลส์ หรือไปหาลูกค้าที่ออฟฟิศ แต่ใน 1-2 ปีนี้ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่บ้าน เราจะพรีเซนต์อย่างไร แต่ก่อนถึงจุดนั้น ปัญหาคือจะหาลูกค้าให้ได้อย่างไร

การหาลูกค้า (customer acquisition) ในยุคนี้มีออนไลน์เข้ามาเกี่ยวข้องหลายวิธี และได้ผลมาก จุดเด่นของการส่งอีเมล์ คือวัดผลได้ว่าส่งไปกี่คน วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ สิ่งที่นักการตลาดสนใจมากกว่าแค่การเปิดอีเมล์ เมื่อมีฐานลูกค้า มีตัวเลขบางอย่างทำให้วางเป้าได้เลย ส่งอีเมล์ไป 1 ครั้งจะได้ยอดขายกี่บาท

• ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
• อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
• แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด

e-Mail marketing อาจยังเวิร์กอยู่ในบางกลุ่มอุตสาหกรรม เมื่อเข้าสู่ยุคโซเชียลมีเดียที่คนเข้าไปค้นหา พูดคุย ฯลฯ จะติดตามได้ และรู้ว่าคนชอบคอนเทนต์แบบไหน อายุเท่าไหร่ เพศอะไร เป็นยุคที่แพลตฟอร์มต่าง ๆ เริ่มเอาข้อมูลของลูกค้ากลับมา optimize ปรับแต่ง

ให้นักการตลาดใช้ช่องทางที่เขาให้บริการอย่าง Facebook หรือ Google เป็นช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าได้

การหาลูกค้าจะแม่นยำขึ้น เพราะเริ่มมีความสนใจ เพศ วัย หลายอย่างมากขึ้น ในโลกออนไลน์เราระบุเพศ วัย ผู้หญิง ผู้ชาย ประเทศได้ ในยุคอินเทอร์เน็ต เมื่อคุณเปิดมือถือขึ้นมาแล้วเข้าไปที่เว็บไซต์หนึ่งจะระบุได้เลยว่าคุณอยู่ที่ไหน

เมื่อเราเข้าสู่ยุค big data ที่ดูได้ทุกอย่าง ทุกกิจกรรม ทุกการเคลื่อนไหวเดี๋ยวนี้มีเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายมากขึ้น ทำให้มีการนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ และพัฒนากลายเป็นแพลตฟอร์มให้นักการตลาดใช้ได้ง่ายขึ้น

แพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่ ๆ ทุกอันใช้หาลูกค้าได้เกือบหมด อย่าง Facebook Live ก็เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่ม ล่าสุดเห็นบรรดาผู้ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น Apple หรือ Google กำลังพูดถึงความเป็นส่วนบุคคลของข้อมูลมากขึ้น

เมื่อเข้าสู่ยุคที่ผู้ให้บริการตระหนักเรื่องนี้ เช่น Apple เริ่มเปิดบริการ do not track คือ เปิดความสามารถให้ไม่ยินยอม หมายถึงสิทธิ์ของเราที่จะไม่ให้ผู้บริการเหล่านี้ติดตามได้

เมื่อติดตามไม่ได้ Apple กับ Google ก็ไม่ส่งข้อมูลเราให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ นำความเดือดร้อนให้ Facebook, Twitter เรากำลังเข้าสู่ยุคที่ข้อมูลส่วนบุคคลกำลังได้รับการพัฒนา เริ่มเก็บได้ดีขึ้น มีตัวเลือกมากขึ้น ก้าวเข้าสู่ยุคของการเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์

ข้อมูลมีหลายแบบ อย่าง 3rd party data เช่น ข้อมูล Facebook ข้อมูล Google เราอยากใช้ข้อมูลเหล่านั้นก็ต้องไปใช้ผ่านพวกนี้อีกที 3rd party data มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน

เช่น เราเข้า Facebook เมื่อไป Google ทำไมข้อมูลโฆษณาตามมาได้ แต่ Google เริ่มออกมาบอกแล้วว่า ยุคต่อไปของบราวเซอร์อินเทอร์เน็ตนั้น ไฟล์คุกกี้จะไม่มี การแชร์ข้อมูล 3rd party data ต่อไปการติดตามลูกค้าในออนไลน์จะท้าทายขึ้น

นักการตลาดจะพยายามใช้ข้อมูลต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด อย่าง Google มี Google Ad เข้าไปลงโฆษณาใน Google ได้ ในฝั่ง Facebook ก็มีลงโฆษณาเองได้ ผ่าน Facebook หรือ Instagram แต่ถ้าคุณเป็นองค์กรใหญ่ต้องการเข้าถึงโดยเฉพาะลูกค้าต่างประเทศ แนะนำแพลตฟอร์ม LinkedIn ที่เข้าถึงนักธุรกิจได้ทั่วโลกเลย

เครื่องมือออนไลน์เป็นเครื่องมือที่หาลูกค้าได้ดีมาก ทุกช่องทางวัดผลได้ เมื่อเราจะทำอะไร นักการตลาดเก่ง ๆ ต้องบอกได้ว่า 1 แสนบาทที่จ่ายไป จะมีกี่คนเห็น มียอดขายกี่บาท

ผมอยากให้ผู้บริหารทุกคนลองดูว่าเม็ดเงินโฆษณาในปัจจุบันที่ใช้ ต้องวัดความคุ้มค่า ต้องเปลี่ยนคำถามทีมมาร์เก็ตติ้งใหม่แล้วว่า เงินที่ใช้ไปแล้วจะสร้างยอดขายได้เท่าไหร่ จะหาลูกค้าได้เท่าไหร่ โดยเฉพาะการใช้ออนไลน์